อินไซด์ MG ZS EV จุดเริ่มอุตฯไทยสู่ยุคBEV

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

MG ZS EV -จีน ซีพีและรถไฟฟ้า ข้อมูลที่ผู้บริโภคควรทราบ

Advertisements

เจาะลึกเบื้องหลังการวางตลาดZS EV รถไฟฟ้าคันแรกของMG ราคา1.19ล้านบาท

เอ็มจี(MG)รถยนต์สัญชาติอังกฤษแต่มีเจ้าของเป็นบริษัทจีนกำลังมีบทบาทนำในการทำตลาดรถยนต์พลังงานทดแทนในไทย ทันทีที่เปิดตัวรถMG ZS EV รถเอสยูวี ไฟฟ้า 100%

5ปีที่ผ่านมาการเข้าสู่ตลาดของแบรนด์MGเป็นข่าวใหญ่เพราะว่า บริษัทที่บริหารจัดการนั้นอยู่ในเครือของซีพี เจ้าพ่อธุรกิจเกษตร อาหารและค้าปลีกรายใหญ่ ประกอบกับเจ้าของแบรนด์MG คือ SAIC ภายใต้แบรนด์ MG Motorเป็นบริษัทชั้นนำของจีน เมื่อยักษ์ใหญ่2ค่ายจับมือกัน จึงเป็นการผสานศักยภาพที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามแบรนด์ MG แม้จะได้ชื่อว่าเก่าแก่จากอังกฤษแต่ถือเป็นน้องใหม่ในแวดวงอุตสาหกรรมของไทยในขณะที่หลายครั้งภาพพจน์ของแบรนด์ ถูกสื่อจับโยงไปเป็น”รถจีน“ไม่ใช่”ยุโรป”อย่างที่เป็นมาในอดีตซึ่งแม้ว่าจะมีชื่อเป็นอังกฤษแต่ฐานการผลิตและการพัฒนาปฎิเศษไม่ได้ว่าเบื้องหลังคือ “จีน”ซึ่งสินค้าจีนมีแบรนด์อิมเมจ ที่ไม่ดีนัก

MG Thailand ขายรถในไทยปีล่ะ1 หมื่นคัน ในช่วงแรกลุ่มๆดอนๆพอสมควรเพราะถูกโจมตีจากสื่อในเรื่องคุณภาพของรถ เช่น เอ็มจี5 เอ็มจี3 ที่ยังคงเป็นโมเดลเก่าความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ทั้งทางด้านแบรนด์อิมเมจและเทคโนโลยี ความน่าชื่อถือ อะไหล่และบริการไม่สามารถแข่งขันได้กับเจ้าตลาดอย่างโตโยต้า ฮอนด้า นิสสันที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน

แต่ดูเหมือนเวลาไม่ใช่ปัญหาของเอ็มจีอีกต่อไปจากอายุผลิตภัณฑ์ในตลาดที่เป็นปัญหาได้ถูกทำลายไปด้วยโมเดลใหม่อย่างต่อเนื่องเครือข่ายจำหน่ายและบริการได้ขยายตัวด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวไทย

หลังจากที่ โมเดลที่พัฒนาใหม่อย่างรถร่น ZS รถเอสยูวีขนาดคอมแพ็คเปิดตัว 14 พ.ย.2560 เป็นรถประกอบในประเทศ (CKD)มาพร้อมกับเทคโนโลยีAI เป็นรถคันแรกของวงการเมืองไทย ที่สั่งการทำงานด้วยเสียงและมีระบบแอพพิเคชั่นที่ก้าวหน้ากว่ารถญี่ปุ่นหรือรถยุโรปในตลาดด้วยคำสั่งภาษาไทยและตอกย้ำด้วยฐานการเปิดฐานผลิตขนาดใหญ่ในไทยถือว่า MG ได้ปลดล็อคข้อกังวลได้เป็นอย่างดี

Advertisements

ทางด้านเครือข่ายถือว่า โชว์รูมMG มีอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วมาก ตามแผน 5 ปีสร้างโชว์รูม 130 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ การลงทุนของนักค้าปลีกรถที่ต้องการเปิดโชว์รูมMG ทางMGมีเงื่อนไขค่อนข้างยืดหยุ่นเรียกว่า พร้อมอนุญาตให้ขายทุกเงื่อนไขเพื่อสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมให้เร็วที่สุดในการวางจำหน่ายรถEV ผู้บริหารของMG ประกาศว่าความสามารถของเครือข่ายMG มีความพร้อมให้บริการและขายทุกโชว์รูม ไม่จำกัดดีลเลอร์ที่ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้ากระจายไปได้อย่างทั่วถึง ส่วนนี้ก็แตกต่างไปจากรถญี่ปุ่นอย่าง นิสสันที่ไม่ได้ให้ทุกโชว์รูมทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้านิสสันลีฟ

เปิดปูมรถไฟฟ้าคันแรกของค่าย

นอกจากในอังกฤษแล้ว เอ็มจีเปิดตัวรถรุ่นนี้ครั้งแรกที่จีนเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2562โดยในจีนเรียกชื่อรุ่นว่า MG-EZS ส่วนในไทยเรียกว่า MG ZS EV การเปิดตัวรอบสื่อมวลชนและประกาศราคาขายปลีกอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มิ.ย.2562 รวมเวลาห่างจากจีนราว 80 วัน และจากประเทศไทย MG จะแนะรถZS EV ในออสเตรเลีย ซาอุดิอารเบีย และประเทศอื่นๆ ต่อไป

เบื้องหลังราคาของ MG ZS EV กัน MG วางตลาดรถเกรดเดียว สีเดียว เช่นเดียวกับในจีนและในตลาดโลกอื่นๆ โดยมี ราคาจำหน่ายคันล่ะ 1.19 ล้านบาท สีที่ใช้เปิดตัวคือสีฟ้า Copenhagen Blue” ราคานี้เป็นกุญแจหนึ่งใน5 กลยุทธ์ EASYโดยMG หวังที่จะให้ลูกค้าเข้าถึงความเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

ราคาสูงกว่ารถZS (ICE)51%

เมื่อเทียบราคา ZS EV กับZS (เครื่องยนต์สันดาปภายใน- ICE) ตัวทอป(ZS 1.5x) ราคาของZS EV สูงกว่า 50.82% และหากดูส่วนต่างของ ZS EV กับ ZS ตัวเริ่มต้น(679,000)ราคาจะห่างกันราว 75.26%

รถยนต์จากจีน หากเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปปัจจุบันไม่เสียภาษีนำเข้า(ภาษาทางการเรียกว่า ภาษีนำเข้าเป็น0% )เพราะว่ามีข้อตกลงทางการค้าระหว่าง ประเทศไทยกับจีน ที่ได้ตกลงทำสิทธิพิเศษทางการค้าอาเซียน-จีน ไว้ คือ ASEAN-China Free Trade Area (ACFTA)  อ่านรายละเอียดการนำเข้าสินค้าจากจีน Click ที่นี่

นอกจากนี้ภาษีสรรพสามิต หรือภาษีที่รัฐบาลไทยเก็บจากสินค้าฟุ่มเฟือย อัตราภาษีของรถยนต์ไฟฟ้าก็ต่ำเพียง8%เท่านั้น แต่สองข้อนี้ก็หากจะคิดว่าเป็นข้อได้เปรียบก็ยังไม่เท่ากับการที่รัฐบาลจีนเองได้ให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองตามแนวนโยบายที่จะทำให้จีนกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของโลก และเพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนกระตือรอร้นในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เงินสนับสนุนเหล่านี้มีอิทธิพลถึงราคาต้นทุนของรถยนต์จีนในตลาดโลก ถ้าค่ายรถยนต์นั้นๆ มีนโยบายนำเงินนั้นมาใช้สนับสนุนราคาของตัวเอง อย่างเช่น ค่ายMG นำมาช่วยราคา EV ในตลาดเมืองไทยในขณะที่บางค่ายของจีนในไทยก็ ได้รับการสนับสนุนเช่นกันแต่ไม่นำเงินส่วนนี้มาใช้ เป็นจุดแข่งขัน

อย่างไรก็ตามเงินสนับสนุนนี้ไม่ยั่งยืน เพราะ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ออกนโยบายเงินอุดหนุนให้แก่ผู้ผลิตรถจีนที่ทำตามนโยบายของรัฐบาล โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนให้รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) แต่ละคันในอัตราต่างๆ ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่และระยะการขับของรถยนต์เหล่านั้นและกำลังจะลดลงเรื่อยๆ ตามนโยบาย

เงินอุดหนุนสำหรับรถBEV ของจีนปี2562
ระยะขับ 250-400 กม เงินอุดหนุน 18,000 หยวน (81,000 บาท)
ระยะขับมากว่า 400 กม เงินอุดหนุน 25,000 หยวน (112,500 บาท)

นโยบายการให้เงินสนับสนุนนี้มีแนวโน้มจะลดเงินสนับสนุนลงเพื่อไม่ให้ขัดขวาง การพัฒนาในอนาคต ตามโรดแมฟแล้ว รัฐบาลกลางจะถอนเงินอุดหนุน NEV(New energy vehicle)ทั้งหมดภายในปี 2564 นอกจากการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางแล้วรัฐบางท้องถิ่นของแต่ล่ะมณฑลต่างก็มีเงินสนับสนุนเพื่อจุดประสงค์ ผลักดันรถพลังงานสะอาดเช่นเดียวกันซึ่งอัตราของการสนับสนุนแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ล่ะมลฑล

ส่องสเปคEVคันแรก

MG ZS EV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% สร้างบนพื้นฐานของตัวถัง ZS ที่มีขายอยู่ในตลาดเมืองไทย ขนาดของตัวถังมีขนาดเท่ากับZS ในขณะที่ความสูงของรถลดลงเล็กน้อย
ซึ่งหากว่าไม่สังเกตจะไม่เห็นสิ่งที่แตกต่างคือ
สีตัวถังแบบพิเศษ “สีฟ้า Copenhagen Blue” และรูปแบบของ กระจังหน้า ที่ทำเป็นลายฟิกเซล์ หรือ ดอด ซึ่งเพิ่มความทันสมัยจะเห็นว่ากระจังหน้าที่มีจุดย่อยเล็กๆ ร้อยเรียงกันเป็นเส้นนั้นถูกใช้ในรถยนต์หลายยี่ห้อ เช่น ออดี จากัวร์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เบนทลีย์ หรือแม้แต่ เกีย จากเกาหลี

ความต่างของรถเนื่องจากไม่มีช่องเติมน้ำมัน รถจะ ติดตั้งจุดชาร์จไว้บริเวณหลังกระจังหน้า เวลาชาร์จไฟ ก็เปิดตรงกระจังหน้าออกเพื่อใส่หัวจ่ายลงไป

การออกแบบภายในยังคงฟอร์มเดิมของZS แต่ปรับเปลี่ยนคอนโซลกลางวาง ปุ่มควบคุม เกียร์แบบหมุน(เกียร์ระบบไฟฟ้า) และจอมอนิเตอร์ เป็นจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วเพื่อ แสดงข้อมูลเกี่ยวกับระบบของรถทั้งหมด

ภายในห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำ พร้อมการตกแต่งคอนโซลหน้า ด้วยวัสดุนุ่มแบบ Soft touch พวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่นมีการติดตั้งระบบ ปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มาพร้อมระบบกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 และที่สำคัญอีกอย่างคือ ระบบหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ที่มีพื้นที่กระจกกว้างคิดเป็น80%ของพื้นที่หลังคา

รายละเอียดสเปคเพิ่มclickเติมที่นี่

แบตลิเธี่ยมจุ 44.5kWh


MG ZS EV เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยใช้ระบบแบตเตอรี่จากCATL (Ningdeshidai)  ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของวงการแบตเตอรี่โลก บริษัทแห่งนี้ เริ่มต้นระดมทุนเมื่อปี2011 ที่มิวนิค และเข้ามาตั้งบริษัทในจีน คือปักกิ่งและเซี่ยงไฮ ก่อนจะลงทุนเทคโอเวอร์ บริษัทเกี่ยวกับรีไซเคิลในจีน ปัจจุบันCATL (Ningdeshidai) ดำเนินธุรกิจ ผลิต วิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถEV

สำหรับแบตเตอรี่ของ ZS EV เป็นแบบ แบตเตอรี่ แบบลิเธี่ยม ไอออน ความจุ 44.5
kWhในไทยนั้นให้การรับประกัน 8 ปีเต็มหรือ 180,000กิโลเมตร (ส่วนชิ้นส่วนอื่นๆ มอเตอร์และส่วนที่ควบคุม โมดูลต่างๆเกี่ยวกับระบบไฟ รับประกัน 4ปี)

ระยะวิ่ง 337 kmต่อการชาร์จ1 ครั้งMG ZS EV มีขุมพลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ด้วยระยะเวลาแค่ 3.1 วินาที และให้ระยะทางขับเคลื่อนสูงสุด 337 กิโลเมตร*
ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC หรือมาตรฐานการทดสอบความประหยัดน้ำมันและมลพิษของยุโรป)

ระยะเวลาชาร์จไฟ

การชาร์จไฟ MG ZS EV รองรับการชาร์จไฟ 2 รูปแบบ คือ
1.การชาร์จไฟแบบธรรมดา (Normal Charge) ผ่าน MG Home Charger ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0- 100% ในระยะเวลา 6.5 ชั่วโมง 2.การชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) ผ่านสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ (Public Charging Station) โดยใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-80% ในระยะเวลา 30 นาที

ชาร์จพลังงานกลับ3ระดับ


NEW MG ZS EV มีระบบโปรแกรมการชาร์จพลังงานกลับ หรือ KERS (Kinetic Energy Recovery System)ที่สามารถ ชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative)
ซึ่งมี ระดับการชาร์จพลังงานกลับ ให้เลือกได้3 ระดับ นอกจากนี้
ยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์ในการขับขี่ของแต่ละคน ประกอบด้วย โหมดการขับขี่แบบ Eco เพื่อการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น แบบ Normal สำหรับการขับขี่ทั่วไป และ แบบ Sport 

คู่แข่งในตลาด

รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายอยู่ในตลาดไทยยังมี จำนวนรุ่นน้อยแต่ล่ะรุ่นก็แตกต่างกัน เช่น ออดี้ BYD e6 นิสสัน ลีฟ เกีย โซล EV ฟอมม์ ฮุนได โคน่า จากัวร์ฯ(ดูตารางประกอบ) รถเหล่านี้ไม่มีใครเป็นคู่แข่งใครโดยตรง เพราะว่าราคาแตกต่างกันมาก

ที่มา:สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

จะเห็นว่า MG ZS EV มีรูปแบบและราคาโดดเด่นมาก ถามว่า ราคาในตลาดช่วง1.1-1.2ล้านบาทสำหรับรถเครื่อยนต์สันดาป ภายในแล้วมีอะไรบ้างMG ZS EV ก็จะถูกนำไปเทียบกับรถตระกูล ซับคอมแพคSUV อย่าง มาสด้า CX-3 ,ฮอนด้า HR-V โตโยต้า C-HR ซูบารู XV ในระดับราคาระหว่าง 90,000-1.5ล้านบาทด้วยระบบที่ต่างกันมาก ถ้าเลือกรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็ไม่ต้องมองรถยนต์ICE

ใครควรซื้อ MG ZS EV

สำหรับรถยนต์MG EV ข้อสงสัยอยู่บ้างว่า รถเหล่านี้เหมาะกับใคร เบื้องต้นหากดจากขนาดตัวถัง พื้นที่ใช้งานแล้วรถคันนี้เหมาะกับ คนที่ยังไม่แต่งงานหรือเพิ่งแต่งใหม่ๆ เพราะว่าพื้นที่ของรถเป็นรถเอนกประสงค์5ที่นั่ง ไม่ได้ใหญ่โตสำหรับครอบครัวหลายคน

ท่านต้องต้องพิจารณา ถึงขอจำกัดการใช้รถคือ ระยะขับถ้าใช้งานระยะขับไม่เกิน 150-200 กิโลเมตร แล้วมีที่จุดจอดชาร์จเพื่อเก็บพลังงานในการขับต่อ ฃมีระยะเวลาพอแบบนี้ถือว่าเหมาะมาก

แม้รถจะบอกว่ามีระยะวิ่งได้ 355-357 กิโลเมตรในการชาร์จ 1 ครั้งแต่จากการใช้งานจริง โอกาสชาร์จเต็มต้องจอดรถนานหรือจอดค้างคืนจะที่บ้านหรือที่ไหนก็แล้วแต่

เส้นทางที่จะไปนอกเหนือจากเส้นทางประจำ ต้องค้นหาหัวจ่ายไปรถสามารถใช้หัวจ่ายไฟที่มีอยู่กว่า 1000แห่งทั่วประเทศได้ในการใช้ไฟอย่างไรก็ตามความไม่คุ้นเคยกับระบบอาจจะต้องศึกษาว่ามีระบบจ่ายไฟฟ้าที่สะดวกใกล้ท่านหรือไม่และอยู่ในเส้นทางที่ใช้รถประจำหรือไม่ อย่างไรก็ตามในอนาคตปัญหานี้หมดไปแน่หากว่าเครือซีพี เลือกที่จะใช้เครือข่ายสนับสนุนตามแผนระยะยาวนั่นคือ การเปิดพื้นที่หน้าร้าน หรือพื้นที่จอดรถของ 7-11 และร้านค้าปลีกในเครือข่าย เช่น แมคโคร เชสเตอร์กิล ฯลฯ เพื่อขยายเครือข่ายของระบบชาร์จไฟ

ข้อจำกัดที่ควรรู้

เรายังไม่รู้ราคา”แบตเตอรี่”ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญ มีราคาสูง(วันนี้)และมีอายุการใช้งาน อย่างไรก็ตาม การรับประกัน 8 ปี ทำให้ปัญหาของความกังวลลดลงจากข้อมูลที่สอบถาม ผู้บริหารMG ถึงราคาแบตเตอรี่ลูกใหม่หากเสีย MG บอกเราว่า ยังไม่สามารถบอกราคาได้เนื่องจาก ณ.วันนี้เทคโนโลยียังไม่นิ่งในวันข้างหน้าการผลิตแบตเตอรี่อาจจะมีราคาลดลงมาก ในขณะที่ระบบการเปลี่ยนแบตและการซ่อมบำรุง ก็พัฒนาไป โดยความเข้าใจคนทั่วไปคิดว่าเมื่อแบตเสื่อมก็ยกทิ้งทั้งลูกเสียเงินเป็นแสน แต่อนาคต รูปแบบอาจจะซ่อมแบรต ที่เสื่อมโดยการเปลี่ยนแต่ล่ะ โมดูลดังนั้นต้องรอราคาในอนาคต

ข้อจำกัดต่อไปคือ ราคาขายต่อ( resale value)ของรถ รถยนต์ไฟฟ้าในระบบปัจจุบันเราไม่เคยเห็น มูลค่าของรถเมื่อเป็นรถใช้แล้ว ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่า ราคารถมือสองจะตกลงเท่าไรแต่หากว่ามีโปรแกรม การันตีราคาขายต่อออกมาแบบ โตโยต้าคัมรี่ไฮบริดแบบนี้ก็น่าลงทุน

อีกข้อจำกัดหนึ่งที่เป็นลักษณะเฉพาะของประสบการณ์การใช้คือเรายังไม่เคยเห็นปัญหาจุกจิกจากการใช้งานคงต้องรอให้ผู้มีประสบการณ์รายงานเข้ามาในอนาคต

ต่อจากนี้ไปเราคงเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าที่มีข้อดีในหลายด้านและด้านที่สำคัญไม่แพ้คุณภาพรถ ระยะวิ่งคือ ค่าบริการหลังการขาย การเสื่อมสภาพของอะไหล่และอะไหล่หมุนเวียน ที่ทุกวันนี้รถ ICE ฟันเราหัวแบะ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเหลือ1ใน3ของรถเครื่องICE เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนเครื่องยนต์หลายอย่าง รถยนต์ไฟฟาสามาถลดภาระผู้บริโภคไม่ให้มีรายการถูกฟันหัวแบะไปหลายๆเรื่อง ทั้งค่าแรงบำรุงรักษายิบย่อย และการยัดเยียดเปลี่ยนอะไหล่หรือสารหล่อลื่นต่างๆที่ไม่จำเป็น

Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img