Monday, November 25, 2024

จากฟอร์เต้-ไทรทันเจน6 ถ้าไม่ใช่มิตซูไม่มาไกลถึง 45 ปี

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

45 ปี รถกระบะมิตซูบิชิ

Advertisements

มิตซูบิชิ เรารู้จักกันดีภายใต้คำเรียกเหมือนชื่อเล่นว่า ค่ายทรีไดมอน บางครั้งหากเรียกเพียงมิตซูบิชิอาจจะทำให้คนสับสนได้เพราะมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ และบริษัทในเครือมากมายภายใต้ร่วมทรีไดมอน แต่หากแยกออกมาเฉพาะสินค้ายานยนต์ เราต้องพ่วงคำว่า มอเตอร์เข้าไปในชื่อ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ก็จะมีความชัดเจนไม่สับสน

สินค้าตัวหนึ่งที่ถือว่าเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์กำเนิดขึ้นในยุค การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมราวปี พ.ศ. 2521 เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมวีดีโอเกมได้ถือกำเนิดขึ้น เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ กำลังถูกพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และซุปเปอร์แมนเริ่มเป็นที่โด่งดังในโลกภาพยนตร์

ในช่วงเวลานั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ได้ให้กำเนิดรถกระบะมิตซูบิชิขนาด1 ตัน เป็นครั้งแรก และในอีก4ทศวรรษต่อมารถรุ่นดังกล่าวได้กลายเป็นยานพาหนะสำหรับผู้คนทั่วโลกมากกว่า 4.7 ล้านคน

กระบะมิตซูบิชิ โดดเด่นด้วยความสามารถในการขับเคลื่อนบนทุกสภาพถนนและภูมิประเทศ ด้วยการออกแบบเพื่อลูกค้าผู้ชื่นชอบรถกระบะ ทั้งในด้านความแข็งแกร่ง ทนทาน และการบรรทุกสัมภาระ รวมถึงความอเนกประสงค์และความสะดวกสบายในการโดยสาร ที่ไม่ต่างไปจากรถยนต์นั่งแบบซีดาน

รถกระบะมิตซูบิชิรุ่นแรกเผยโฉมในนาม ฟอร์เต้ (FORTE) หรือ แอล200 (L200) ในบางประเทศที่ยังถูกใช้งานจนถึงปัจจุบัน โดยรถกระบะ มิตซูบิชิ ฟอร์เต้ ได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่ง ทนทานต่องานบรรทุกทั้งผู้โดยสารและสัมภาระ

รถกระบะ มิตซูบิชิ ฟอร์เต้ ขนาด1ตัน ขับขี่ง่ายทนทานกับการใช้งานบรรทุกสัมภาระ จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกในเวลาไม่นาน ทั้งในประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศแบบหนาวจัดและแบบทะเลทรายที่ร้อนระอุ

Advertisements

ซึ่งมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังคงมุ่งพัฒนารถกระบะออกสู่ตลาด เพื่อให้สามารถฝ่าฟันทุกอุปสรรคและไปได้ไกลกว่าเดิม ด้วยการคิดค้นระบบขับเคลื่อน4ล้อระดับตำนานมาใช้ในรถกระบะ มิตซูบิชิ ฟอร์เต้ รุ่นปี พ.ศ. 2523 ซึ่งต่อมาได้กลายต้นแบบของยนตรกรรมขับเคลื่อน4ล้อยุคใหม่ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์สได้แก่รถเอสยูวีรุ่น มิตซูบิชิ ปาเจโร หรือ มอนเทโร และ รถมิตซูบิชิ เอ็มพีวี เดลิกา

ในเวลาต่อมา รถกระบะมิตซูบิชิถูกส่งไปจำหน่ายในอีกหลายประเทศภายใต้ชื่อ ไทรทัน ซึ่งประสบความสำเร็จและได้กลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนธุรกิจที่สำคัญของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกด้วย

ทั้งนี้แพลตฟอร์มของ มิตซูบิชิ ไทรทัน เจอเนอเรชั่นแรก และเจนเนอเรชั่นที่2 ได้รับการพัฒนาขึ้นที่ศูนย์การผลิตยานยนต์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่เขตโอเอะ เมืองนาโกย่า ท่ามกลางกระแสการชะลอตัวของตลาดญี่ปุ่น ปัญหาเรื่องค่าเงินเยนทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ต่อมามิตซูบิชิ มอเตอร์ มีนโยบายผลิตรถกระบะนอกญี่ปุ่นเป็นหลัก

ในปี พ.ศ. 2538 มิตซูบิชิ ไทรทัน เจอเนอเรชั่นที่3 จึงถูกผลิตขึ้นและส่งออกไปยังตลาดทั่วโลกจากศูนย์การผลิตยานยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง ประเทศไทย จนถึงปัจจุบันกระบะมิตซูบิชิ นับจากเจนที่4 เป็นต้นไป ไม่มีการผลิตที่ญี่ปุ่น ทุกรุ่นมาทำการผลิต ณ.ประเทศไทยในฐานะ ศูนย์การผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยจำนวนการผลิตมากกว่า4แสนคัน/ปี

จากฟอร์เต้ สู่ไทรทัน และ แอล200

ฟอร์เต้ (FORTE)
เจนเนอเรชั่นที่ 1
กันยายน พ.ศ. 2521
  • ฟอร์เต้ (FORTE) รถกระบะขนาด1ตันเผยโฉมในประเทศญี่ปุ่นและส่งออกภายใต้ชื่อ รถกระบะมิตซูบิชิ (MITSUBISHI TRUCK) และแอล200 (L200) โดยเริ่มทำการส่งออกไปยังอเมริกาเหนือในเดือนตุ.ค.2521
  • มีจำหน่ายเฉพาะรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ โดยมีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ขนาด 2.6 ลิตร ให้เลือกสำหรับตลาดอเมริกาเหนือ ขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดประเทศญี่ปุ่นและภูมิภาคอื่นๆ ทั้งนี้ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร ก็มีให้เลือกสำหรับตลาดส่งออกโดยทั่วไป

ตุลาคม พ.ศ. 2523

  • มิตซูบิชิเปิดตัวระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ครั้งแรก (Part-time 4WD System)
สตราด้า (STRADA)
เจนเนอเรชั่นที่ 2
มีนาคม พ.ศ. 2529
  • รถกระบะมิตซูบิชิได้รับการปรับโฉมอย่างเต็มรูปแบบและครบครันด้วยรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ คลับแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ด้วยสไตล์ตัวถังทั้งแบบสั้นและแบบยาวในรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ พร้อมระบบการขับเคลื่อนทั้งแบบ2ล้อและ4ล้อ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และ 2.6 ลิตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลขนาด2.5 ลิตร (เพิ่มเติมจากเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร)

พฤษภาคม พ.ศ. 2534

  • สตราด้า (STRADA) เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น (มีเฉพาะรุ่นดับเบิ้ลแค็บ)

สตราด้า ใหม่ (L200 STRADA)
เจนเนอเรชั่นที่ 3 (รุ่นสุดท้ายที่ยังใช้ฐานผลิตจากญี่ปุ่น)
พฤศจิกายน พ.ศ. 2538
  • รถกระบะมิตซูบิชิรุ่น แอล200 สตราด้า ใหม่ (L200 STRADA) เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
  • ผลิตและส่งออกจากศูนย์การผลิตยานยนต์แหลมฉบัง ประเทศไทย
  • มีให้เลือกในรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ และ คลับแค็บ ส่วนรุ่นดับเบิ้ลแค็บได้รับการผลิตขึ้นสำหรับการส่งออก ทั้งนี้ แอล200 สตราด้า ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร พร้อมนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเทคโนโลยี “Easy Select 4WD”
เจนเนอเรชั่นที่ 4(ผลิตจากฐานนอกญีุ่ปุ่น
เจนเนอเรชั่นที่ 4(ผลิตจากฐานนอกญีุ่ปุ่น)
สิงหาคม พ.ศ. 2548
  • รถกระบะมิตซูบิชิเผยโฉมในชื่อ ไทรทัน (TRITON) ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
  • ครบครันทั้งรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ คลับแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลที่พัฒนาขึ้นใหม่ขนาด 2.5 ลิตร และ3.2 ลิตร มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบสอง2และ4ล้อแบบ “Easy Select 4WD” และ “Super Select 4WD”
เจนเนอเรชั่นที่ 5
พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
  • รถกระบะมิตซูบิชิเจนเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรกก่อนจะตามมาด้วยการเปิดตัวในประเทศอื่นๆ
  • ครบครันทั้งรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ คลับแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ มาพร้อมนวัตกรรมเครื่องยนต์ MIVEC เทอร์โบดีเซลขนาด 2.4 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ2ล้อและ4ล้อพร้อมเทคโนโลยี “Super Select 4WD-II” ควบคุมการเปลี่ยนโหมดขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า

ยนตรกรรมกระบะรุ่นใหม่ของมิตซูบิชิเจนเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรก โดยการออกแบบใหม่หมด โดยมิตซูบิชิ
งานแถลงข่าว แนะนำรถกระบะ “มิตซูบิชิ ไทรทัน”  ใหม่ ในวันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2557  ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คเมืองทองธานี

มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นที่ 5 ได้เปิดตัวในปี พ.ศ. 2557 โดยมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร Mivec (เฉพาะรุ่นยกสูง และรุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ) และเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร 4D56 (เฉพาะรุ่นเตี้ย)

โดยรุ่น Double Cab จะออกวางจําหน่ายใน ปลายปี 2014 ส่วน Mega Cab และ Single Cab จะเริ่มวางจําหน่ายในต้นปี 2015

ปี 2016 ได้ทําการปรับรุ่นย่อยและอุปกรณ์ โดยจะเพิ่มฟังก์ชั่น ระบบ Super Select 4WD All (SS4-ll) ในรุ่น Double Cab 4X4 รวมถึงพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ , มีระบบ Paddle Shift

รวมถึงยังมีรุ่นพิเศษ Double Cab Plus Limited Edition ด้วยล้ออัลลอยแบบทูโทน หน้าจอบนเพดานในผู้โดยสารตอนหลัง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และมีสีภายนอกใหม่ สีนํ้าเงิน Impulse Blue ชึ่งเปิดตัวในงาน Motor Show 2016

ปลายปี 2016 ปรับโฉมกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมรมดํา บันไดข้างดีไซน์ใหม่ รวมถึงมาตรวัดดีไซน์ใหม่ และยังมีรุ่น Limited Edition โดยจะมีการเพิ่มสติ้กเกอร์กราฟฟิกด้านข้างตัวรถมาให้เล็กน้อย

ปี 2017 มีรุ่นพิเศษ Limited Edition ใหม่ล่าสุด ในรุ่น Mega Cab Plus และ Double Cab Plus ส่วน Double Cab 4X4 จะมาภายหลัง โดยจะตกแต่งภายนอกในโทนสีดําเงารอบคัน มาพร้อมจอบนเพดานในผู้โดยสารตอนหลัง สําหรับรุ่น Double Cab Plus

ปลายปี 2017 เปิดตัวรุ่นพิเศษ Athlete โดยติดตั้งชุดตกแต่งภายนอกสปอร์ตรอบคัน พร้อมภายในสีดํา-ส้ม มีทั้งรุ่น Double Cab 4X4 , Double Cab Plus และ Mega Cab Plus โดยรุ่น Mega Cab Plus จะเริ่มวางจําหน่ายในต้นปี 2018

ทั้งนี้ยังได้ปรับปรุงอุปกรณ์ในรุ่น Double Cab Plus โดยมีระบบ Apple Carplay มาติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงตัดรุ่นเครื่องยนต์เบนซินให้เหลือเครื่องยนต์ดีเซลเพียงอย่างเดียว และยังมีสีภายนอกใหม่ สีดํา Diamond Black Mica

ไมเนอร์เชนจ์ (2017)
5 ตุลาคม 2559 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ส่งมิตซูบิชิ ไทรทัน (รุ่นปี 2017)ลงตลาด ออกแบบภายใต้แนวคิด “Get ready to discover the world”  สื่อถึง ความเป็น ‘TOUGH NEW DNA’ – พันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด” โดยรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ MIVEC Clean Diesel เทอร์โบ แปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาทีติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ SS4-II (Super Select 4WD II All Wheel Control) ในดับเบิ้ลแค็บรุ่น GLS-LTD ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ

ศูนย์ดาวน์โหลด ข้อมูลTRITON 2017

เจนเนอเรชั่นที่ 6 รอเปิดตัว 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
เจนเนอเรชั่นที่ 6 ต้นแบบจากXLT
26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ยนตรกรรมกระบะรุ่นใหม่แห่งอนาคต ของมิตซูบิชิเจนเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรก โดยกำหนดเปิดตัววันนี้ 26 ก.ค. 2566 สำหรับไทรทัน เจน6ได้รับการการออกแบบใหม่หมด มีการปรับแคชซีส์ใหม่ โดยมิตซูบิชิได้พัฒนารถต้นแบบชื่อว่า มิตซูบิชิXLT ไทรทันโฉมใหม่ เจนที่6 มีการปรับปรุงรถในองค์ประกอบหลักหลายองค์ประกอบไปด้วยกัน

1.แคชซีส์แพลตฟอร์มใหม่เฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่

2.การออกแบบใหม่ ภายนอกภายใน ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งดุดันด้วยเส้นตรง

3.เครื่องยนต์พัฒนาใหม่ มีการออกแบบเครื่องยนต์ดีเซล2.4ลิตรให้ได้กำลังแรงม้าสูงขึ้นด้วยเทคโนโลยีคลีนดีเซล ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะโดยมีมลภาวะต่ำ

4.ช่วงล่างที่ปฏิวัติดีไซน์ใหม่ยกชุดโดยด้านหน้าเป็นช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เสริมด้วยช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนนวัตกรรมใหม่

5.แนวทางการตลาดใหม่ นำเสนอความ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จะเปิดเผยข้อมูลการพัฒนารถกระบะ1 ตัน รุ่นใหม่ “ออล-นิว ไทรทัน” ทั้งหมด รอบเวิลด์พรีเมียร์ในประเทศไทยวันที่ 26 ก.ค.66 นี้

ออล-นิว ไทรทัน ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาใช้เป็นรถแข่งในรายการเอเชียครอสครันทรี2023


Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img