นิสสัน ไฮบริด คือ เทคโนโลยีของ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ นำทีมสื่อมวลชนไทยและผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมยานยนต์จากสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทย ทำความรู้จักและร่วมทดสอบกับระบบ “นิสสัน เพียวไดรฟ์ ไฮบริด” ชูเทคโนโลยี คลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligent Dual Clutch System) ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โดดเด่นในเรื่องของความประหยัด อีกทั้งตอบสนองการขับขี่ในทุกระดับความเร็ว เริ่มตั้งแต่ออกตัว ไปจนถึงการขับขี่ในย่านความเร็วสูง สามารถประยุกต์ใช้และติดตั้งกับรถยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหน้าได้ทุกรุ่น
นิสสันมีพันธกิจสำคัญที่จะลดจำนวนรวมของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ (CO2) ในโลก โดยนิสสันเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญไม่ใช่แค่เพียงแค่การพัฒนาและนำเสนอรถยนต์ที่มีค่าการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์อย่างเช่นรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งนิสสันเป็นผู้นำในกลุ่มนี้เท่านั้น แต่ยังต้องพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ให้ประหยัดพลังงานควบคู่กันไปด้วย ที่ผ่านมานิสสันเดินหน้าคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังเช่น แนวคิดของเทคโนโลยี “เพียวไดรฟ์” โดยผสานเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมมาใช้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ระบบหยุดการเดินเบาของเครื่องยนต์ที่เรียกว่า Idling stop, เครื่องยนต์ระบบ DIG ที่มี Super Charger เป็นการนำเอาตัวระบบอัดอากาศมาใช้กับเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ก็ยังมีเกียร์อัจฉริยะ XTRONIC CVT ที่ช่วยประหยัดพลังงาน แต่ยังคงความสนุกสนานของการขับขี่ และสำหรับเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “นิสสัน เพียวไดรฟ์ ไฮบริด” เป็นอีกหนึ่งการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูง มีสมรรถนะเป็นเยี่ยม และยังให้การขับขี่ที่สนุก
เพียวไดรฟ์ ไฮบริด เพิ่มประสิทธิภาพแต่ไม่ทิ้งคุณลักษณะเดิมของรถยนต์
นิสสันเริ่มการพัฒนารถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดตั้งแต่ปี 2000 โดยเริ่มจากรุ่นที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง จนมาถึงรุ่นที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าในปัจจุบัน โดยล่าสุดได้นำ ระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligent Dual Clutch System) ติดตั้งในรถยนต์รุ่นเอ็กซ์เทรล ไฮบริด ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์แบบ SUV อย่างมาก เนื่องด้วยคุณสมบัติที่ยังคงความเป็น SUV พันธุ์แกร่ง แต่มีการประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม
สำหรับคุณสมบัติเด่นของเทคโนโลยี “เพียวไดรฟ์ ไฮบริด” ที่มาพร้อมกับ ระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ มร. ไดสุเกะ ทาเคะซากิ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ โครงการพัฒนา นิสสันเอ็กซ์เทรล ไฮบริด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงความโดดเด่นของการบรรจุเทคโนโลยีนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ระบบนี้เป็นการผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านการคำนวณและควบคุมของระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ ที่ให้การตัดต่อและส่งกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นและนุ่มนวล อัตราการประหยัดน้ำมันดีขึ้น ให้แรงบิดที่เพิ่มมากขึ้น ขับขี่สนุกและมีอัตราเร่งที่ดี อีกทั้งให้ความเงียบในห้องโดยสาร แต่ยังคงคุณลักษณะเดิมของรถ SUV คือเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้อย่างดี”
ระบบไฮบริดอัจฉริยะแบบฉบับเฉพาะตัวจากนิสสัน
ในด้านการทำงานของระบบ เพียวไดรฟ์ ไฮบริด มร. โทมัส โจแอล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและวิจัยเครื่องยนต์ โครงการพัฒนาเครื่องยนต์ไฟฟ้า บริษัทนิสสัน มอเตอร์ จำกัด อธิบายถึง เทคโนโลยี คลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligent Dual Clutch System) ไว้ดังนี้
คลัทช์ตัวที่ 1 ติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเกียร์ XTRONIC CVT ส่วนคลัทช์ตัวที่ 2 อยู่ระหว่างมอเตอร์และ เกียร์ CVT
เมื่อรถยนต์ต้องการกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ เช่น ช่วงการเร่งแซง หรือ ทำความเร็ว คลัทช์ทั้ง 2 ตัวจะทำงานพร้อมกัน ทำให้เกียร์ CVT ได้รับกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
การขับขี่ในช่วงที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว จะมีการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่จากเครื่องยนต์ คลัทช์ตัวที่ 1 จะทำงาน เพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ส่งไปขับเคลื่อนเกียร์ ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า จะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์เพื่อรีชาร์จประจุไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่
เมื่อระบบไม่ต้องการกำลังจากเครื่องยนต์ เช่นการขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว หรือเมื่อรถชะลอความเร็ว คลัทช์ตัวที่ 1 ที่อยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ จะตัดการทำงานจากเครื่องยนต์ ผลที่ตามมาคือ เครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน รอบเครื่องยนต์จะเป็น 0 ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจากการหมุนของเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง เหลือเพียงมอเตอร์ไฟฟ้ากับเกียร์เท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว เครื่องยนต์จะทำงานเหมือนกับเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV)
และอีกคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากระบบไฮบริดอื่นๆ คือ ระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ สามารถทำงานที่ความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กม./ชม.ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบไฮบริดทั่วไป อันจะนำมาซึ่งการประหยัดน้ำมันในย่านความเร็วสูงอีกด้วย
นอกเหนือจากระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะแล้ว ระบบ เพียวไดรฟ์ ไฮบริด ยังมีความพิเศษคือ
* มอเตอร์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบาแต่ให้กำลังสูงและเพียงพอต่อในการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
* ระบบเกียร์ XTRONIC CVT ที่พัฒนาเพื่อระบบไฮบริดโดยเฉพาะ
* แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (Li-ion)ที่ให้ประสิทธิภาพสูง ขนาดเล็กมีน้ำหนักเบา สามารถจัดวางได้ในจุดต่างๆ โดยไม่รบกวนพื้นที่การใช้งาน ทำให้รถยนต์นิสสันทุกคันที่ติดตั้งระบบไฮบริดใหม่ มีพื้นที่ใช้สอยของทั้งห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระไม่แตกต่างไปจากรถปกติทั่วไป
ตัดต่อกำลังราบรื่น ขับสนุก ให้แรงบิดสูงเทียบเท่ารุ่น 2.5 ลิตร
ภายหลังที่ได้ทดลองขับ นิสสันเอ็กซ์เทรล ไฮบริด รุ่นที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนี้ สื่อมวลชนและผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่เข้าร่วมการทดสอบส่วนใหญ่ ได้กล่าวถึงความประทับใจในเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน อาทิ
* สมรรถนะดีเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แต่สมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ที่ให้แรงบิดสูง
* มีความโดเด่นจากการที่สามารถใช้ระบบไฟฟ้าได้ในย่านความเร็วสูงมากกว่าไฮบริดอื่นๆ
* การตัดต่อกำลังระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านชุดเกียร์ CVT ทำได้อย่างดีเยี่ยม
* ภายในห้องโดยสารมีความเงียบขณะขับขี่
* เป็นระบบไฮบริดอีกรูปแบบหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจมาก
ทั้งนี้ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีกำหนดเปิดตัวรถยนต์นิสสันเอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 พ. ย 28
[fblike]
