Sunday, December 28, 2025

ระบบขจัดมลพิษ DPF (Diesel Particulate Filter)

ระบบขจัดมลพิษ DPF (Diesel Particulate Filter)

DPF (Diesel Particulate Filter) คืออุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดปริมาณอนุภาคฝุ่น (particulate matter) ที่เกิดจากการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ดีเซล อุปกรณ์นี้ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลผลิตอนุภาคขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อม DPF เริ่มถูกนำมาใช้ในรถยนต์เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงปี 2000 เป็นต้นมาชนิดของ DPF: มีหลายชนิด เช่น wall-flow filter ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคได้มากกว่า 90% และ partial filter ที่ดักจับอนุภาคได้ในระดับน้อยกว่า แต่มีความต้านทานต่อการไหลของไอเสียน้อยกว่า

คุณสมบัติของ DPF:

  • การทำงาน: DPF ทำงานโดยการดักจับอนุภาคฝุ่นที่อยู่ในไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซล และเก็บสะสมไว้ภายในตัวกรอง กระบวนการนี้ช่วยลดการปล่อยอนุภาคฝุ่นสู่บรรยากาศ การทำความสะอาด DPF หรือการเผาไหม้ที่เรียกว่า “regeneration” จะทำให้อนุภาคเหล่านี้ถูกเผาไหม้จนเป็นเถ้าและสามารถถูกกำจัดออกได้

ข้อดีของ DPF:

Advertisements
  1. ลดมลพิษ: ช่วยลดการปล่อยอนุภาคฝุ่นที่เป็นอันตรายจากไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้ลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
  2. การสอดคล้องกับมาตรฐาน: DPF ช่วยให้รถยนต์ดีเซลสามารถผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดได้
  3. ประหยัดน้ำมัน: DPF สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ในบางสถานการณ์

ข้อเสียของ DPF:

  1. การบำรุงรักษา: การที่ DPF ต้องการการทำความสะอาดหรือการ regeneration เป็นระยะๆ อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพิ่มเติม
  2. ความซับซ้อน: ระบบ DPF เพิ่มความซับซ้อนให้กับระบบไอเสียของรถยนต์ และอาจทำให้เกิดปัญหาได้หากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
  3. ผลกระทบต่อสมรรถนะ: การใช้ DPF อาจส่งผลให้เครื่องยนต์มีแรงดันไอเสียสูงขึ้น ส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์

Related articles

Comments

Share article

spot_img
spot_img

Latest articles

ADVER

‘โกท’ หนึ่งดาวมิชลิน ถ่ายทอดศาสตร์คอมโพสิตผ่านมื้อพิเศษงานMichelin Asia Pacific Media Day 2025

มิชลินจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2568 ภายใต้ชื่อ Michelin Beyond Performance โดยไฮไลต์สำคัญคือการจัดเลี้ยงอาหารค่ำสำหรับสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญ ซึ่งเมนูทั้งหมดถูกรังสรรค์เป็นพิเศษโดยร้าน ‘โกท’ ร้านอาหารหนึ่งดาวมิชลินในกรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอแนวคิด “ศาสตร์แห่งการผสมผสาน” ที่เชื่อมโยงโลกเทคโนโลยีเข้ากับศาสตร์การปรุงอาหาร แนวคิดหลักของงานปีนี้อยู่ที่การถ่ายทอดนวัตกรรมด้าน “วัสดุคอมโพสิต” ซึ่งมิชลินเป็นผู้บุกเบิก ผ่านประสบการณ์มื้ออาหาร วัสดุคอมโพสิตเป็นวัสดุขั้นสูงที่เกิดจากการผสานคุณสมบัติที่แตกต่างให้เกิดประสิทธิภาพใหม่ เช่นเดียวกับการออกแบบเมนูของ ‘โกท’ ที่ผสานวัตถุดิบ เทคนิค และเรื่องราวจากหลากหลายภูมิภาคของไทยเข้าด้วยกัน มื้อค่ำดังกล่าวถือเป็นรูปแบบกิจกรรมที่แตกต่างจากงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ของมิชลินในอดีต โดยมุ่งสร้างประสบการณ์เชิงแนวคิด (Concept-driven...