Advertisements
Home รถบรรทุก วอลโว่ ทรัคส์ เปิดตัว Volvo FM และ Volvo FMX เจเนอเรชันใหม่

วอลโว่ ทรัคส์ เปิดตัว Volvo FM และ Volvo FMX เจเนอเรชันใหม่

นายเอริค ลาบัท ประธานของวอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้แนะนำรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ ได้แก่ Volvo FM และ Volvo FMX อย่างเป็นทางการในรูปแบบการแถลงข่าวออนไลน์ Volvo FM และ Volvo FMX ใหม่มาพร้อมกับห้องโดยสารแบบใหม่ และมีฟังก์ชันการแสดงผลบนหน้าปัดคล้ายคลึงกับรถบรรทุกวอลโว่รุ่นที่ใหญ่กว่า ปริมาตรภายในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้นถึงหนึ่งลูกบาศก์เมตรมอบความสะดวกสบายและพื้นที่ในการทำงานที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมให้ทัศนวิสัยดียิ่งขึ้นด้วยหน้าต่างบานใหญ่ แนวขอบประตูที่ต่ำกว่าเดิม และแผงกระจกใหม่ คอพวงมาลัยที่ปรับเอียงได้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ให้เหมาะสมที่สุดได้

Advertisements

“วันนี้เราภูมิใจอย่างยิ่งในการเปิดตัวรถบรรทุกรุ่นใหม่ซึ่งเป็นครั้งแรกในการเปิดตัวรูปแบบ Virtual โดยเราพร้อมแล้วที่จะนำเสนอความสมบูรณ์แบบนี้ให้กับลูกค้าคนสำคัญของเราในประเทศไทย อย่างที่เราเข้าใจดีว่าพนักงานขับรถที่สามารถขับรถบรรทุกได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพถือเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่าสำหรับบริษัทขนส่งทุกประเภท พฤติกรรมการขับขี่ที่มีความรับผิดชอบสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และลดการหยุดวิ่งงานโดยไม่ได้วางแผนลงได้ ดังนั้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จึงได้รับการพัฒนาโดยมุ่งเน้นไปในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่ เสริมความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของยานพาหนะ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงกว่ารถบรรทุกรุ่นก่อนๆ”

Advertisements

ห้องโดยสารใหม่ที่กว้างขวางขึ้นและทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ในรุ่น Volvo FM และ Volvo FMX

อัพเกรดพื้นที่ใช้สอยเพื่อความสบาย                                                                                            

หัวเก๋งพร้อมที่นอน (Sleeper Cab) ใหม่ได้รับการปรับปรุงให้มีเตียงยกสูงขึ้นและเพิ่มพื้นที่เก็บของ ซึ่งรวมถึงช่องเก็บของขนาดใหญ่ใต้เตียงและช่องเก็บของด้านหลังชั้นบนพร้อมแผงไฟแอลอีดีในแผงกั้นระหว่างช่อง การลุกจากที่นั่งคนขับไปที่เตียงทำได้ง่ายกว่าเดิมเนื่องจากมีคันเกียร์ I-Shift แบบใหม่ที่เล็กลงและออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ความสะดวกสบายของห้องโดยสารได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยฉนวนเสริมที่ช่วยป้องกันความร้อนและเสียงรบกวนจากภายนอก

รับประกันด้วยรางวัล Red Dot Award 2021 จากคุณภาพการออกแบบที่โดดเด่น – Volvo FM

Advertisements

รางวัล “Red Dot” มีความโดดเด่นและเริ่มได้รับการยอมรับในระดับสากลในฐานะหนึ่งในตราประทับด้านคุณภาพสำหรับการออกแบบที่ดี การได้รับรางวัลนี้ตอกย้ำถึงการออกแบบที่สมดุลและเต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอยภายในห้องโดยสารของ Volvo FM รวมถึงความสามารถในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้กับลูกค้า และยังมอบความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้นด้วย

ปรับระบบจอแสดงผลอินเทอร์เฟซใหม่ทุกรุ่น

พื้นที่รอบตัวผู้ขับขี่มีอินเทอร์เฟซใหม่หมดทั้งการแสดงข้อมูลและการสื่อสาร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่เห็นภาพรวมและจัดการฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความเครียดและสิ่งรบกวนต่างๆ จอแสดงผลบนหน้าปัดเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด โดยมีหน้าจอขนาด 12 นิ้วที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกข้อมูลที่ต้องการได้สะดวก อีกทั้งจอแสดงผลด้านข้างขนาด 9 นิ้ว สำหรับระบบสาระบันเทิง ระบบนำทาง ข้อมูลการขนส่ง และกล้องตรวจสอบ การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ สั่งงานได้จากปุ่มบนพวงมาลัย หรือสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสและแผงควบคุมการแสดงผลก็ได้

ล้ำสมัยด้วยระบบคุมความเร็วแบบแปรผัน(ACC)

การขับขี่มีความสะดวกสบายและปลอดภัยขึ้นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ที่ทำงานได้จนถึงความเร็วที่ 0 กม./ชม. และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบดาวน์ฮิลล์ (Downhill Cruise Control) ที่สั่งงานเบรกล้อโดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็นต้องใช้แรงเบรกเป็นพิเศษเพื่อรักษาความเร็วขณะขับลงทางลาดให้คงที่ ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronically controlled Brake System: EBS) ซึ่งเป็นระบบเบื้องต้นที่ทำงานร่วมกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยอื่นๆ เช่น การเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกฉุกเฉิน (Collision Warning with Emergency Brake) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stability Control) ทั้งหมดนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถบรรทุกใหม่ ตั้งแต่รุ่น Volvo FM13 ขึ้นไป  ส่วนระบบพวงมาลัยวอลโว่ไดนามิกเสตียริ่ง (Volvo Dynamic Steering) พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ออกนอกช่องทางและควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Lane Keeping Assist and Stability Assist) มีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม และทัศนวิสัยได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นโดยการเพิ่มกล้องมุมฝั่งผู้โดยสาร (passenger corner camera) ซึ่งช่วยเสริมมุมมองด้านข้างรถบรรทุกผ่านหน้าจอแสดงผลด้านข้าง

I-Shift ซอฟท์แวร์ใหม่
รูปแบบของระบบขับเคลื่อนและแชสซีที่หลากหลายทำให้รถบรรทุกรุ่นใหม่นี้สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานและประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้นสำหรับงานประเภทต่างๆ นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะต่างๆ เช่น ระบบเสริมแรงบิดวอลโว่ (Volvo Torque Assist) และซอฟต์แวร์ใหม่ในเกียร์วอลโว่ I-Shift ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น

บริการวอลโว่คอนเน๊กซ์ เพิ่มเวลาวิ่งงานให้สูงสุด
สำหรับรถบรรทุกรุ่นใหม่นี้ วอลโว่ ทรัคส์ได้พัฒนาระบบ Volvo Connect ซึ่งเป็นโซลูชันดิจิทัลที่มีความยืดหยุ่น เพื่อรองรับธุรกิจขนส่งในทุกด้านโดยเชื่อมต่อฟังก์ชันและแอปพลิเคชันที่สำคัญไว้ในแพลตฟอร์มเดียวเพื่อให้ใช้งานง่าย

ลูกค้าสามารถเข้าใช้ Volvo Connect ได้ทุกที่ทุกเวลาจากอุปกรณ์และขนาดหน้าจอที่หลากหลาย อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายช่วยให้ผู้ใช้วางแผนเส้นทาง จัดสรรเวลาขับขี่และเวลาพักผ่อน และตรวจสอบตำแหน่งของรถบรรทุกเพื่อติดตามความคืบหน้าได้โดยสะดวก นอกจากนี้ยังง่ายสำหรับการค้นหากำหนดเข้ารับบริการ และตรวจสอบประวัติการซ่อมแซมและบำรุงรักษา จึงช่วยลดการหยุดรถโดยไม่ได้วางแผนและทำให้รถบรรทุกพร้อมวิ่งทำงานได้เต็มที่ตลอดเวลา

วอลโว่ ทรัคส์ยังมีแผนสัญญาบริการอีกด้วย ซึ่งเป็นแผนบริการที่สามารถปรับให้เหมาะกับรถบรรทุกของคุณ และออกแบบมาเพื่อให้รถบรรทุกทำงานได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลกำไรของลูกค้า

“เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวครั้งนี้ เราจะมีข้อเสนอพิเศษสำหรับสั่งซื้อรถบรรทุกใหม่มอบให้ทุกท่านที่สนใจ และผมรับรองได้ว่าทุกท่านจะสามารถวางใจได้กับการบริการลูกค้าอย่างเป็นกันเองและมืออาชีพจากเครือข่ายตัวแทนศูนย์บริการ ทั้ง 15 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเรามีแผนจะขยายตัวแทนศูนย์บริการเพิ่มเป็น 18 แห่งทั่วประเทศในต้นปี 2565 อีกด้วย”

นายมาร์ติน ซอมเมอร์ รองประธานฝ่ายขายวอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย กล่าวปัจจุบันธุรกิจภาคขนส่งหรือ Logistics ทั่วโลก มีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงไปของโลก และการปรับตัวสู่ New Normal ซึ่งมีผลต่อปัญหาขาดแคลนพนักงานขับรถที่มีทักษะสูงสำหรับบริษัทขนส่ง ด้วยเหตุนี้วอลโว่ ทรัคส์ จึงได้ตั้งเป้าหมายในการสนับสนุนลูกค้าที่จะสรรหา และรักษาพนักงานขับรถที่ดีและมีคุณภาพที่สุดไว้กับองค์กร จึงเป็นที่มาของการพัฒนารถบรรทุกรุ่นใหม่ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเพื่อให้พนักงานขับรถได้ความสะดวกสบายจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับเพิ่มความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจในการขนส่งสินค้าไปยังเป้าหมาย ซึ่งจะสร้างความมั่นใจแก่พนักงานขับรถ และเป็นการดึงดูดให้ทำงานร่วมกับองค์กรอย่างมั่นคงและยั่งยืน

Advertisements
Exit mobile version