บางกอก มอเตอร์ โชว์ (BIMS16) เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมวันที่23 มี.ค.
แอสตัน มาร์ติน DB10 & DB11
แอสตัน มาร์ติน (ASTON MARTIN )ทุ่มสุดกำลังด้วยการขนสองรุ่นไฮไลท์มาโชว์ตัวกันภายในงานปีนี้ ใครที่เป็นสาวกของหนังสายลับระดับโลกอย่าง เจมส์ บอนด์ 007 พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เมื่อแอสตัน มาร์ติน แบงคอก นำ DB10 (ดีบีเท็น) รถที่ใช้ในการถ่ายภาพยนตร์ ภาคล่าสุด ‘SPECTRE’ ซึ่งถูกผลิตขึ้นมาเพียง 10 คัน จากพื้นฐานของ Aston Martin DB9 เข้ามาจัดแสดงให้ได้สัมผัสกับความสวยงามอย่างเต็มที่
DB10 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.7 ลิตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะทำความเร็วได้กว่า 300 กม./ชม. ตัวถังจะใช้แซสซี่ขนาดใหญ่ในรุ่นแบบ Aston Martin Vantage แต่ใช้วัสดุการแต่งรอบคันเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ทั้งในส่วนของกันชนทางด้านหน้า, สเกิร์ตทางด้านข้างของตัวรถ, ปีกขนาดใหญ่ทางด้านหลังและท่อไอเสียแบบสปอร์ต ส่วนภายในเป็นงานฝีมือแบบแฮนด์เมดตกแต่งด้วยหนังแท้คุณภาพสูง คาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียม
อีกรุ่นที่จะทำการเปิดตัวครั้งแรกใน เอเซีย แปซิฟิก หลังจาก เจนีวา มอเตอร์โชว์ ก็คือ DB11 (ดีบีอีเลเว่น) สปอร์ตคลาสแกรนด์ทัวเรอร์รุ่นใหม่ล่าสุด เปิดศักราชใหม่ด้วยเครื่องยนต์ V12 ความจุ 5.2 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จให้พละกำลังสูงสุด 600 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรมาที่รอบต่ำเพียง 1,500 รอบ/นาที
DB11 มีระยะฐานล้อยาวขึ้น น้ำหนักตัวถังอยู่ที่ 1,770 กก.ใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมากขึ้น หน้าจอมาตรวัดขนาด 12 นิ้วและหน้าจออินโฟเทนเมนท์ 8 นิ้ว ควบคุมด้วยสวิทช์แบบหมุนและมีระบบสัมผัสเป็นอ็อปชั่นเสริม เนื้อที่จัดเก็บสัมภาระมากถึง 270 ลิตร
BMW 330e
บีเอ็มดับเบิลยู 330e ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี eDrive เช่นเดียวกันกับบีเอ็มดับเบิลยู i8 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความ ประหยัดที่เป็นเลิศ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ดีเซล 4 สูบ รุ่นใหม่ล่าสุด 1,998 ซีซี และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 88 แรงม้า ให้กำลัง รวมสูงสุด 252 แรงม้า
มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโม งแบตเตอรี่ไฮบริด สามารถชาร์จไฟได้จากปลั๊กไฟบ้านทั่วไป และขับขี่ด้วย พลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 40 กิโลเมตร
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง มาพร้อมกับอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยและอ านวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ ไฟหน้า แบบ LED และใบปัดน้ำฝนทำงานโดยอัตโนมัติ กล้องแสดงภาพด้านหลังของตัวรถ ระบบแผนที่นำทางบนจอภาพขนาด 8.8 นิ้วและแอพพลิเคชั่น BMW สำหรับสมาร์ทโฟน
BMW M2 Coupe
บีเอ็มดับเบิลยู M2 คูเป้ กับ ขุมกำลังบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 2,979 ซีซี 370แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ควบคุมด้วยเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วแบบ Double-spoke ตอบสนองการขับขี่แบบรถแข่งได้ในทุกจังหวะและในทุกย่านความเร็ว เพื่อแฟนพันธุ์แท้ของบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม โดยเฉพาะ
ภายในห้องโดยสารของ บีเอ็มดับเบิลยู M2 คูเป้ เลือกใช้โทนสีดำและเบาะหนังแบบสปอร์ตที่เดินตะเข็บสีฟ้า พวงมาลัยแบบ M Sport แผงประตูและเบรกมือหุ้มด้วยอัลคันทารา คาร์บอนไฟเบอร์ถูกนำมาใช้ตกแต่งบริเวณแผงหน้าปัด คอนโซลกลางและมือจับที่แผงประตูด้านข้าง
ช่วงล่างอะลูมิเนียมน้ำหนักเบามาจาก BMW M3 และ M4 ร่วมกับพวงมาลัย M Servotronic ที่สามารถปรับได้ 2 รูปแบบการขับขี่ให้ทำงานสอดคล้องกับระบบเบรก M Compound เพื่อช่วยให้ บีเอ็มดับเบิลยู M2 คูเป้ มีสมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
ฟอร์ด โฟกัส โฉมใหม่
ฟอร์ด กลับมาลุยในตลาดดีเซ็กเมนท์อีกครั้ง ด้วยการแนะนำฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์(Focus EcoBoost) มาพัฒนาใหม่ด้วยการนำเครื่องยนต์ อีโค่บูสท์ ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ที่รวมถึงระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูงแบบไดเร็คอินเจ็คชั่น และระบบแปรผันแคมชาร์ฟแบบอิสระคู่ ช่วยมอบพละกำลัง แรงบิดที่ดีกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบทั่วไป ทั้งยังประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า
รูปลักษณ์ใหม่ทั้งภายนอกที่ดูบึกบึนแต่เรียบหรูและภายในที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะแบบเทียบข้างหรือแบบถอยเข้าซอง ทำให้การจอดรถไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อตรวจพบว่าอาจจะเกิดการชนกับรถคันข้างหน้าได้
พร้อมด้วย ระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 3 (SYNC 3) รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบมัลติทัชขนาด 8 นิ้ว ช่วยให้สามารถควบคุมการใช้งานโทรศัพท์ และระบบความบันเทิง ที่มีการพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น รวมถึงรองรับ Apple Car Play และ Android Auto เมื่อมีการเปิดใช้
ฮุนได เจเนซิส
ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ นอกจากจะนำรถตู้ H-1 และ แกรนด์สตาร์เร็กซ์เข้าร่วมในงาน ยังทำการเปิดตัวรถในรุ่นเจเนซิส(Hyundai Genesis) รถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยความหรูหราจากดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น เทคโนโลยี อุปกรณ์และคุณสมบัติอื่นๆ ที่ล้ำสมัยเหนือระดับกว่าใคร โดดเด่นด้วยการออกแบบในแนวคิด Fluidic Sculpture 2.0 ทำให้รูปลักษณ์ Genesis หรูหรา ปราดเปรียวแบบสปอร์ตอย่างลงตัว มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ HID พร้อม LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED
ภายในได้รับการออกแบบใหม่หมด อุปกรณ์ต่างๆ ถูกจัดไว้ในตำแหน่งที่ใช้งานได้อย่างสะดวก อุปกรณ์และระบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ เบาะนั่งถูกออกแบบเพื่อความสะดวกสบายขณะขับขี่และขณะโดยสาร ภายในตกแต่งด้วยลายไม้บริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตู เพื่อความหรูหรา และยังครบครันด้วยระบบเครื่องเสียงชั้นเยี่ยม ระบบเปิดฝากระโปรงท้ายอัจฉริยะ ที่สามารถเปิดฝากระโปรงได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.8 ลิตร 6 สูบ ให้กำลังม้าสูงสุด 308 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 397 นิวตันเมตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ให้กำลังที่ต่อเนื่องและมั่นใจในทุกรูปแบบการใช้งาน ช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น และสะดวกสบายขณะเดินทาง และยังครบครันด้วยระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น ระบบเตือนรถในจุดอับสายตา ระบบกล้องรอบทิศทาง
อีซูซุ MU-X 1.9
อีซูซุส่งรถใหม่ในตระกูล “บลูเพาเวอร์” ลงตลาดเพิ่ม ครบทุกรุ่น ครบทุกเครื่องยนต์ พร้อมเกียร์อัตโนมัติใหม่ ด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1.9” ครั้งแรกของรถยนต์อเนกประสงค์ระดับหรูที่ใช้เครื่องยนต์ 1,900 ซีซี เปี่ยมด้วยความแรง ความสุนทรีย์ และความประหยัด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมชุดเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด ใหม่ สะดวกสบายอีกระดับด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มีให้เลือกระบบขับเคลื่อนทั้งแบบ 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ และครั้งแรกในรถยนต์นั่งอเนกประสงค์เมืองไทย กับกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติพร้อมกล้องบันทึกภาพวิดีโอด้านหน้า เพิ่มความมั่นใจในการเดินทางอีกขั้น
นอกจากนี้ยังมีเพิ่มตัวเลือกในปิกอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ดีไซน์ล้ำสมัยในโทนดำ-แดงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีให้เลือกถึง 2 รุ่น ทั้งรุ่น SPEED ปิกอัพสำหรับผู้มีจิตวิญญาณเรซซิ่งและรักการแต่งรถ และรุ่น HI-LANDER ปิกอัพสายพันธุ์สปอร์ตพรีเมี่ยม เท่ ดุดัน แต่หรูหรามีสไตล์ ซึ่งจะมาพร้อมกับเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด” พร้อมโหมด REV TRONIC ใหม่ ช่วยให้ขับสนุก เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ให้อารมณ์สปอร์ตเร้าใจ
เมอร์เซเดส เบนซ์ NEW E-CLASS
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (MERCEDES-BENZ )นำรถรุ่นใหม่ล่าสุดมาแสดง ซึ่งในปีนี้ทุกท่านจะได้พบกับ New E-Class เจนเนอเรชั่นที่ 10 ในตระกูล E-Class ได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซีดานอัจฉริยะ ทั้งในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้อย่างดีเยี่ยม
ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยให้การขับขี่และโดยสารมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอาทิ ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED แบบความละเอียดสูง ระบบไฟส่องสว่าง (Intelligent Light System) ที่ทำงานด้วยระบบดิจิตอลทั้งหมด รวมถึงระบบ Active Light ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกของโลก สำหรับ The new E-Class ในประเทศไทย มีให้เลือกสรร 2 ดีไซน์ คือ The new E 220 d Exclusive และ The new E 220 d AMG Dynamic
นอกจากนั้นยังมี The new C-Class Coupé เจนเนอเรชั่นล่าสุด เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มยนตกรรมสปอร์ตสองประตูระดับพรีเมี่ยมที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน คือ The new C 250 Coupé AMG Dynamic และ The new C 250 Coupé Edition 1 เพื่อให้สาวกดาวสามแฉกที่มีหัวใจรักความสปอร์ตได้สัมผัสสุดยอดยนตกรรมคูเป้เหนือระดับก่อนใคร โดยรุ่น Edition 1 จะเป็นรุ่นพิเศษที่มีการจำหน่ายถึงสิ้นเดือนธันวาคมปีนี้เท่านั้น
มินิ Convertible
มินิ คอนเวอร์ทิเบิล (MINI Convertible) รถยนต์มินิเปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่ง ในเจเนอเรชั่นที่สาม ที่ยังคงรูปโฉมความออริจินัล ทรงสปอร์ต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และความสนุกสนานในการขับขี่แบบเปิดประทุน เปิดตัวพร้อมสีตัวถังใหม่ ในชื่อสีฟ้า Caribbean Aqua สวยงามอย่างที่เห็น
มิติของตัวรถ มินิ คอนเวอร์ทิเบิล เมื่อเปรียบเทียบกับเจเนอเรชั่นก่อนหน้ามีการขยายขนาดขึ้น มิติตัวถังมีขนาดยาว 3,821 มม. กว้าง 1,727 มม. และสูง 1,415 มม. ระยะฐานยาวยาวขึ้นอีก 28 มม. ซึ่งจะได้เปรียบมากขึ้นในเรื่องของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีพื้นที่ให้เก็บมากขึ้นถึงกว่า 25% รวมเป็น 215 ลิตรเมื่อปิดหลังคา และ 160 ลิตรเมื่อเปิดหลังคา แผงหลังคาเป็นวัสดุผ้าใบพับเก็บได้ แผงหลังคาใช้เวลาเปิดหรือปิดได้ภายใน 18 วินาที ขณะขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.
ในส่วนของเครื่องยนต์เป็นบล็อกเบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร พละกำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร (230 นิวตันเมตรในโหมดโอเวอร์บูสต์) ส่วนดีเซลมีพละกำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร (300 นิวตันเมตรในโหมดโอเวอร์บูสต์)
โรลส์-รอยซ์ คชมงคล
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส พร้อมจัดแสดง “คชมงคล” Ghost Extended Wheelbase เฉพาะประเทศไทย คันเดียวในโลก ยนตรกรรมหรูที่ได้รับการออกแบบสั่งทำพิเศษ โดยนำรถที่นำมาสั่งทำพิเศษเป็นรถ “โรลส์-รอยซ์ โกสต์” รุ่นขยายฐานล้อ “คชมงคล” ประดับด้วยลวดลายช้างทั้งด้านนอกและด้านในรถ เนื่องจากได้รับแรงบันดาลใจจาก “ช้าง” ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญประจำประเทศไทย
นอกจากนี้โรลส์-รอยซ์ จะเผยโฉมยนตรกรรมหรูสองประตูเปิดประทุน 4 ที่นั่งรุ่นใหม่ “ดอว์น” เป็นครั้งแรกใน South East Asia ความพิถีพิถันทางด้านวิศวกรรมและการผลิตนั้น ปรากฏอยู่ในการสร้างสรรค์ส่วนหลังคาของยนตรกรรมรุ่น ดอว์น สิ่งที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนในโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์จนถึงปัจจุบัน คือหลังคาของโรลส์ รอยซ์ ดอว์น สามารถเปิดออกได้อย่างเงียบเชียบที่สุดดุจเดียวกับรถยนต์รุ่น เรธ ในเวลากว่า 20 วินาทีที่ความเร็วในขณะรถวิ่งประหนึ่ง “จินตลีลาแห่งความเงียบ”
ซูซูกิ สวิฟท์ Sai
ซูซูกิ(SUZUKI) เพิ่มความสดใหม่ให้กับ ซูซูกิ สวิฟท์(SWIFT ) อีกครั้ง ด้วยรุ่นพิเศษที่มากพร้อมกับสีสันแปลกตาอย่างสีม่วง Moonlight Violet ภายนอกโดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าและกันชนดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟส่องสว่าง LED ล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว แสดงความลิมิเต็ดอิดิชั่นด้วยสติ๊กเกอร์ติดฝาถังน้ำมัน Sai Edition ภายในเลือกใช้โทนสีดำ เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ผสมผสานหนังคุณภาพสูง ดูลงตัวกับความสปอร์ตที่เป็นสัญลักษณ์ของสวิฟท์ ส่วนเครื่องยนต์ยังคงเดิม รหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว
ซูบารุ ฟอเรสเตอร์
ทีซี ซูบารุ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าลุยตลาดรถยนต์ในกลุ่มครอสโอเวอร์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (SUBARU FORESTER )ใหม่ ภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 37 โดยรูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก เน้นที่กรอบไฟหน้า กระจังและแผงกันชน ขณะที่ไฟท้ายถูกปรับดีไซน์เป็นแพตเทิร์นรูปตัว U ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลวดลายใหม่ มีสีตัวถังเฉดพิเศษทั้งน้ำเงินเข้ม Dark Blue Pearl และบรอนซ์เมทัลลิก Sepia Bronze Metallic ห้องโดยสารเพิ่มวัสดุเมทัลลิกเพื่อความทันสมัยบนแผงแดชบอร์ดสลับกับการใช้วัสดุสีดำมันเงา นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแอลซีดีแสดงผลการทำงานของตัวรถที่รองรับ Siri Eyes Free และชุดเครื่องเสียง Harman Kardon
เบาะที่นั่งแบบปรับอุณหภูมิและเลื่อนสูง-ต่ำได้ พร้อมกับมีฟังก์ชันจดจำการปรับตั้งเบาะ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่าง Active Lane Keep, Pre-Collision Braking Control และ Adaptive Cruise Control เสริมระบบความปลอดภัยภายใต้แพ็กเกจ Advanced Safety Package ไม่ว่าจะเป็น Blind Spot Detection, Lane Change Assist, Rear Cross Traffic Alert และ Adaptive Driving Beam ที่มีกรอบไฟหน้าแบบฟูลแอลอีดี
ส่วนขุมกำลังจะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 6.5-6.9 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร
ซังยองทิโวลี
ค่ายเกาหลี ซังยองแนะนำ ทิโวลี (Tivoli) เป็นผลผลิตใหม่ล่าสุดของซันยอง ในกลุ่มของรถยนต์ SUV อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด ซึ่งทำให้มีความคล่องตัวสูงเหมาะกับการใช้งานในเมืองและอเนกประสงค์ เป็นรถยนต์ที่ได้รับการพัฒนามาจากรถต้นแบบ XIV ของซันยองที่เปิดตัวไปแล้วในงาน “แฟรงก์เฟิสต์ มอเตอร์โชว์” เมื่อปี 2011 จากนั้นจึงได้มีการพัฒนาและคิดค้นปรับเปลี่ยนจนกระทั่ง ได้มีการผลิตเป็นนิวโปรดักส์ใหม่ล่าสุดออกมา และเริ่มจำหน่ายในตลาดเกาหลีเป็นตลาดแรกปีที่ผ่านมา
Tivoli ที่จะนำมาจำหน่ายในตลาดประเทศนั้น จะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซี คอมมอลเรล เทอร์โบดีเซล DOHC 4 สูบแถวเรียง มาพร้อมกับระบบเกียร์อัจฉริยะอัตโนมัติ 6 สปีด แบบ E Tronic ให้กำลังแรงม้า 115 แรงม้าแรงบิด ที่ 300 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสามารถทำได้ที่ 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง
มิติของตัวรถ สูง 1,600 มิลลิเมตร กว้าง 1,795 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ แมคเฟอสันและคอยย์สปริง ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ เทอร์ชั่นบีมคอยย์สปริง อุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ ระบบการกระจายแรงดันเบรคแบบอัตโนมัติ ระบบช่วยเบรคเพื่อป้องกันการลื่นไถลของตัวรถ ด้วยระบบ ABS, EBD, EAS และภายในรถยังอำนวยความสะดวกสบายด้วยฟังชั่นต่าง ๆ ภายในรถ อาทิเช่น สวิทช์ควบคุมระบบวิทยุบนพวกมาลัย, ระบบ Bluetooth และช่องเสียบ USB
[fblike]