บีเอฟกู๊ดริช’กลับมาเปิดตลาดยางรุ่นใหม่สำหรับรถทางเรียบ หรือรถนั่ง รถเอ็มพีวีและเอสยูวี อีกครั้งหลังจากที่ห่างหายการทำตลาดนี้ในไทยนับสิบปีในขณะที่ภาพพจน์ของ บีเอฟฯกลายเป็นยางออฟโรดที่แข็งแกร่ง เป็นเรื่องท้าทายที่ทีมงานของสยามมิชลินจะทำให้ “แอดแวนเทจ ที/เอ ไดรฟ์” และ “แอดแวนเทจ ที/เอ เอสยูวี”ฝ่าฟันเข้าเป็นแบรนด์ในใจคนขี่รถเก๋งเมืองไทย
เพราะถ้าพูดถึง‘บีเอฟกู๊ดริช’ (BFGoodrich) ในเมืองไทย เป็นสุดยอดสายพันธุ์อเมริกันที่พิสูจน์ความเป็นเลิศด้านงานลุย ส่วนในต่างประเทศภาพนี้ก็แข็งแกร่ง เช่นเดียวกันแต่ยังมีทางเรียบแนวมอเตอร์สปอร์ต เจือปนมาบ้าง
ยาง “แอดแวนเทจ ที/เอ ไดรฟ์” และ “แอดแวนเทจ ที/เอ เอสยูวี”ใหม่ สองระหัส ตัวแรกสำหรับรถเก๋ง และอีกตัวเป็นยางสำหรับเอสยูวี เช่น ปาเจโร ฟอร์จูน เอเวอเรสต์ มาสด้าCX5 นิสสัน เอ็กซ์เทรล ฮอนด้า ซีอาร์-วี เอช อาร์วี ก็ใส่ได้
โดย“แอดแวนเทจ ที/เอ ไดรฟ์” มี 21 ขนาด ตั้งแต่ ขอบ13 นิ้ว (เก๋งเล็ก อีโค คาร์) ถึง ขอบ17นิ้ว (เก๋งใหญ่ พรีเมี่ยมคาร์ )และ“แอดแวนเทจ ที/เอ เอสยูวี”มี 11 ขนาด ตั้งแต่ ขอบ15 นิ้ว ถึง ขอบ18นิ้ว เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมี.ค.2559
ยางในตำนาน
‘บีเอฟ กู๊ดริช’ (BF Goodrich) เป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าของกลุ่มมิชลิน ที่มุ่งสร้างสรรค์ยางรถยนต์เพื่อผู้ที่ชื่นชอบและมองหาความสนุกสนานในการขับขี่รถ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่อย่างสมบุกสมบันสไตล์ออฟโรดหรือการประลองความเร็วบนสนามแข่ง ที่ผ่านมายาง ‘บีเอฟ กูดริช’ เป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะในการแข่งรถสนามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บาฮา (Baja) หรือ ซีบริง (Sebring) โดยส่งเสริมให้ผู้ขับขี่ใช้ประสิทธิภาพของรถไม่ว่าจะเป็นรถแข่งหรือรถทั่วไปได้อย่างเต็มสมรรถนะ
ตั้งแต่ปี 2439 (หรือราว115ปี) บีเอฟกู๊ดริช ได้ออกแบบและผลิตยางรถยนต์สำหรับผู้ที่หลงใหลในการขับขี่ โดยมีสมรรถนะที่ช่วยให้สามารถขับขี่ได้ในทุกสภาวะเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจจนถึงจุดหมายปลายทาง
บีเอฟกู๊ดริช ความหลงใหลในการขับขี่เป็นพลังที่สร้างแรงบันดาลใจ ในฐานะแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในสหรัฐอเมริกา สิ่งที่ทำให้ บีเอฟกู๊ดริช เป็นตำนานในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายควบคู่ไปกับการสร้างชื่อด้านยางรถยนต์ทางเรียบ ยางออฟโรด และยางรถแข่ง
การเปิดตัวยางรถยนต์รุ่นล่าสุด “แอดแวนเทจ ที/เอ ไดรฟ์” และ “แอดแวนเทจ ที/เอ เอสยูวี” ถือเป็นการตอกย้ำสถานะความเป็นจ้าวแห่งนวัตกรรมยางรถยนต์พัฒนาการขั้นสูงของแบรนด์ บีเอฟกู๊ดริช ซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมยางรถยนต์ ยางรุ่นล่าสุดเหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้การเดินทางในชีวิตประจำวันและการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นความเพลิดเพลินที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง” อเล็กซองด์ อองนิยง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์นั่งและรถปิกอัพ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด กล่าว
ส่องจุดขายยางทางเรียบ
การรุกตลาดยางรถยนต์ทางเรียบ (On-Road) ครั้งนี้ บีเอฟฯต้องการ มีส่วนร่วมในตลาดเก๋งเพราะว่า แบรนด์บีเอฟ ไม่เคยมียอดในตลาดนี้ แน่นอนว่า หากเทียบกับบริดจสโตน นั้นมี ยางไฟร์สโตน เป็นแบรนด์ไฟเตอร์ (บอกแบบนี้คนอเมริกันโกรธตาย) เพราะว่า ไฟร์สโตน คือ คู่ฟัด กับบีเอฟฯตลอดการในตลาดอเมริกา เรียกว่าระดับเดียวกัน (ในเมืองไทย บริดจสโตน มีแผนจะบูมตลาดไฟร์สโตน ในปี2560)
ผลิตภัณฑ์ยางทางเรียบในตระกูล “แอดแวนเทจ ที/เอ” ที่เปิดตัวใหม่นี้สยามมิชลินบอกว่า ให้ประสิทธิภาพในการควบคุมที่เหนือกว่าไม่ว่าจะเป็นบนถนนเปียกหรือถนนแห้ง ช่วยควบคุมรถในยามคับขันได้ง่าย เข้าโค้งแม่นยำ ระยะเบรกสั้น ส่งผลให้การขับขี่ทุกวันคือความสนุกเร้าใจ ยางรุ่นใหม่นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง โดยได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อผู้ขับขี่รถซีดานและรถเอสยูวีโดยเฉพาะ
“แอดแวนเทจ ที/เอ ไดรฟ์” และ “แอดแวนเทจ ที/เอ เอสยูวี” เป็นยางรถยนต์รุ่นที่พิสูจน์แล้วว่ามีสมรรถนะและคุณค่าเป็นเยี่ยม ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดีในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน โดยยางทั้ง 2 รุ่นตอบสนองต่อการควบคุมของผู้ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการออกแบบ ลายดอกยางแบบสมมาตร พร้อมด้วยไหล่ยางและบล็อกดอกยางที่แข็งแกร่ง ทั้งยังมีร่องดอกยางแบบซิกแซก ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้ขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลินและเร้าใจ
ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ในทุกสภาวะอากาศ เนื่องจากยาง “แอดแวนเทจ ที/เอ ไดรฟ์” และ “แอดแวนเทจ ที/เอ เอสยูวี” มีบล็อกดอกยางขนาดใหญ่ที่มีร่องลึกและกว้างตามแนวขวางและแนวยาวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถทั้งบนพื้นเปียกและพื้นแห้ง
นอกจากนี้ ยางรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นยังมีโครงสร้างยางที่แข็งแรง มาพร้อมไหล่ยางและลวดขอบยางที่เพิ่มความแข็งแกร่งจึงมีความทนทานในการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่รักการขับขี่บนสภาพถนนที่ท้าทาย
จะเห็นว่า การวางจุดขายของบีเอฟฯจะเน้นเรื่อง การควบคุมรถและการขับสนุกหากจะพูดว่า สมรรถนะ คล้ายยางสปอร์ตก็คงไม่ผิดแต่หน้าตาเอาแบบบ้านๆ เพื่อให้ทุกคนใส่ได้ไม่ขัดเขินเพราะว่า หากใส่ลายคมๆ เข้าไปแก้มสวยบาดใจแน่นอนว่า อาจจะทำให้ กระทบต่อ ภาพลักษณ์ของรุ่นหลักอย่างไพรอท แม้ในเรื่องสมรรถนะจะไม่ได้แต่ ในเรื่องความหล่อนี่คนเลือกซื้อยางเลือกเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกัน
แบรนด์ อเมริกันชน
สำหรับในบ้านเราคงต้องบอกว่า ยางแบรนด์ญี่ปุ่น ครองตลาดไว้อย่างแน่นหนา ตลาดยางแบ่งออกเป็น2ส่วนคือ ตลาดยางติดรถจากโรงงาน เรียกว่า OEM เจ้าตลาดคือ บริดจสโตน รองลงมาหาตัวไม่ค่อยเจอ เพราะกระจายกันไป คอนติฯ มิชลินฯ โยโก ฯโตโยฯ ส่วนอีกตลาดหนึ่งนั้น คือตลาดทดแทน หรือ REM ที่เจ้าของรถเลือกเปลี่ยนแทนยางโรงงาน ตลาดนี้ ทาง มิชลิน บริดจสโตน หรือแบรนด์อื่นๆ กระจายส่วนแบ่งได้หลายแบรนด์
ในบ้านเราบีเอฟ เป็นแบรนด์อเมริกา เช่นเดียวกับ กู๊ดเยียร์ และไฟร์สโตน จะเห็นว่ายางแบรนด์อเมริกาไม่ดัง ขายไม่มากในบ้านเรา ทั้งที่แบรนด์เหล่านี้เข้ามาตลาดนานมาก ทั้งนี้เพราะว่า เจ้าของแบรนด์ตัวจริงไม่ใช่อเมริกัน ยกเว้นกู๊ดเยียร์
ยางบีเอฟฯ บริษัทแม่คือ มิชลิน ฝรั่งเศสส่วนไฟร์สโตน เป็นของบริดจสโตน ญี่ปุ่น ซึ่งจะแบ่งภาคการทำตลาดด้วยแบรนด์หลากหลาย แล้วแต่กำหนด ไม่ได้ทำทุกแบรนด์ ทุกประเทศ
บีเอฟฯ มาในเมืองไทยยางเก๋งคงจะไม่มีอิทธิพลมากนักในตลาดเพราะว่า คนเชื่อไปแล้วว่า บีเอฟ ฯมันต้องยางลุย ในขณะที่แนวทางการเดินกลยุทธ์ของ สยามมิชลินถือว่า ของดีก็เดินด้วยตัวสินค้าเอง ดังนั้นบรรดาการตลาดและอื่นๆ ก็ไปแบบอนุรักษ์นิยมตามขั้นตามตอนตามสัดส่วน ขายน้อยใช้จ่ายน้อย ขายมากใช้จ่ายมาก บีเอฟฯจะขายได้สำหรับคนที่มีประสบการณ์ เหมือนคนเคยใช้ฟอร์ด ใช้โอเปิล ใช้ฮุนไดอยู่เมืองนอกก็ใช้เพราะว่าเชื่อมั่นทำนองนี้ ทีมงานthaiautopress.com มีประสบการณ์ทดสอบหนักๆกับ ยางแบรนด์นี้ ในเจนเนอเรชั่นเก่าราวสิบกว่าปีที่แล้วที่ออสเตรเลีย กล้าพูดได้ว่า ยางนั้นรีดสมรรถนะได้เด่นไม่แพ้ยางอื่นๆ และมีจุดแข็งเหมือนต้นตระกูลของเขา ในขณะที่ยางรุ่นใหม่เจนใหม่ ยังคงต้องรอการพิสูจน์ให้เห็นจริงในอนาคต[fblike]
