มิชลินและในการแข่งขันโมโตจีพี (MotoGP™) มิชลินในฐานะผู้สนับสนน ยางเพื่อการแข่งขัน ได้จัดเตรียมเทตโนโลยี เพื่อการแข่งขันรถจักรยานยนต์กรังด์ปรีซ์ระดับโลกขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย (Thai GP) ในรายการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ (PTT Thailand Grand Prix) อย่างเต็มรูปแบบ
มิชลินได้ใช้ยางรุ่น MICHELIN Power Slick การแข่งขันสนามแข่งขันระยะทางยาว 4,554 เมตร
เลือก4 แบบ
บุรีรัมย์เป็นสถานที่จัดใหม่และจากข้อมูลที่เปรียบเทียบในการทดสอบ ทำให้มีการตัดสินใจเลือกใช้ยางล้อหลังแบบที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ต่อสู้กับความร้อนโดยเฉพาะ
สำหรับการทดสอบสนาม มิชลินได้นำยางล้อหลังไปให้เลือก 4 แบบ โดยมีทั้งแบบ soft หนึ่งรุ่น แบบ medium สองรุ่น และแบบ hard อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นยางแบบไม่สมมาตร คือ มีด้านขวาที่แข็งกว่าเพื่อให้เหมาะกับเลย์เอาท์ของสนามที่มีโค้งขวาถึง 7 โค้ง ในขณะที่มีโค้งซ้ายอยู่เพียง 5 โค้ง สำหรับยางล้อหน้ามิชลินได้เลือกนำยางแบบสมมาตรไป 3 แบบ คือแบบ soft แบบ medium และแบบ hard
เทคโนโลยียาง2ล้อ
สำหรับสภาพอากาศในประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคมนั้นมีความไม่แน่นอนเพราะยังอยู่ในฤดูมรสุม ซึ่งสภาพอากาศที่เปียกชื้นก็อาจส่งผลกระทบกับการแข่งขันอย่างมาก มิชลินเองคำนึงถึงปัจจัยสำคัญอันนี้ด้วย ดังนั้นยางรุ่น MICHELIN Power Rain ก็อาจจะมีโอกาสถูกนำมาออกมาใช้ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีทั้งยางหน้าแบบ soft และแบบ medium และยางหลังแบบ medium ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นยางแบบสมมาตร จะมีแค่ยางล้อหลังแบบ soft เท่านั้นที่มีหน้ายางแบบไม่สมมาตรโดยมีด้านขวาที่แข็งกว่าเหมือนกับยางประเภท สลิค (slicks)
โมโตจีพีเริ่ม อย่างเป็นทางการในไทยซึ่งการฝึกซ้อมในวันศุกร์ที่5 ต.ค. และ ผลการซ้อมและจับเวลาในวันเสาร์ เพื่อหาตำแหน่งกริดสตาร์ทโดยมีผลปรากฏว่า นักแข่งจากทีม ฮอนดา มาร์ค มาเคซ ไดตำแหน่งผูนำออกสต๊าท ทังนี้ การแข่งจริงจริงมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม และครั้งนี้เป็นครั้งแรกในปฏิทินการแข่งขันที่จะเริ่มแข่งกันในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (08.00hrs CEST, 07.00hrs BST และ 06.00UTC) ซึ่งจะเป็นเวลาที่การแข่งขันจำนวน 26 รอบสนามจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ปิเอโร ทารามัสโซ่ ผู้จัดการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต ผลิตภัณฑ์ 2 ล้อ ของมิชลิน กล่าวว่า เรามีการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลแข่งขันที่จังหวัดบุรีรัมย์และได้รับข้อมูลที่สำคัญมากๆ โดยเราได้นำยางล้อหลังซึ่งได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับแทร็กนี้ไปใช้ทดสอบเหมือนกับที่เราเคยทำที่ออสเตรียและออสเตรเลีย เนื่องจากสนามแห่งนี้มีความแตกต่างจากสนามอื่นๆ และต้องการยางชนิดพิเศษ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่จริงๆ และเพิ่งมีการตัดสินใจหลังจากที่มีการทดสอบไป แต่ก่อนหน้านั้นเราได้เลือกยางที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ ซึ่งเราได้เลือกนำยางแบบ medium จำนวน 2 ชนิดไปลองว่าแบบไหนจะเหมาะกับแทร็ก มากที่สุดและจะได้นำมาช่วยประกอบการตัดสินใจในปีหน้าด้วย และเพื่อให้นักแข่งทั้งหมดได้มีตัวเลือกของยางที่ดีที่สุดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด