ปัญหาชิปขาดแคลนวิกฤติยาวรถไทยขาดตลาด “เวเลช” รอได้ 3เดือน ในขณะที่รถฮอนด้า ซิตี้ส่งมอบเช่นกันด้านรถใหม่หลายรุ่น เลื่อนไม่มีกำหนดเจาะลึกปัญหาชิปช็อตเกิดขึ้นได้อย่างไรอนาตมีแนวโน้มจบหรือไม่?
ปัญหาใหญ่มีเงินต้องรอ
ภาวะเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ขาดแคลนหรือเรียกสั้นๆ ว่า “ชิป ช็อตเตท”เหมือนเป็นเรื่องไกลตัวแต่ว่าช่วงไตรมาสแรกปี2565นี้กลับกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะการส่งมอบรถยนต์ใหม่ให้แก่ลูกค้าในปี2565 ภาวะการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์มีผลกระทบนี้เป็นรูปธรรมและเดิมคาดว่าปัญหานี้จะคลี่คลายในปลายปี2565 แต่แนวโน้มปัญหาการขาดแคลนชิปจะลากยาวไปจนถึงปี2566
การขาดแคลนชิปมีสาเหตุจากปัจจัยรอบด้านเริ่มตั้งแต่โรงงานผลิตได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการผลิตและซัพพลายเชนมีพนักงานติดโควิด-19ทำให้ผลิตได้น้อยลง ในขณะที่การเปลี่ยนพฤติกรรมมาทำงานที่บ้านของผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการทำงานหรือแม้แต่การเรียนของนักเรียนที่บ้าน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เหล่านี้ต้องการอัปเกรดทำให้เกิดความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความต้องการการผลิตจำนวนมาก รวมถึงภาวะการตื่นตัวลงทุน ทำเหมืองสำหรับขุดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrencies)ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ระดับสูง
สงครามการค้าผลกระทบระยะยาว
ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการขาดแคลนชิปด้วยการกำหนดเงื่อนไขการค้าขายระหว่างบริษัทผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนกับบริษัทผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ในสหรัฐ ซื้อขายกันยากขึ้นมากเหมือนบังคับให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ต้องซื้อขายกับบริษัทอื่นนอกจีน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการกระจายการผลิตและการซัพพลายชิปของบรรดาผู้ประกอบการไปยังแหล่งผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงหลังนี้แม้สงครามการค้าจะเบาบางลงไปแล้วก็ตามปัญหาต่อมา คือ การขาดแคลนน้ำในการผลิตของโรงงานที่ไต้หวันเนื่องจาก ไต้หวันเกิดภัยแล้งรุนแรงสุดในรอบ 50 ปี ทำให้ขาดแคลนน้ำสำหรับโรงงานผลิตซึ่งแหล่งผลิตชิปที่สำคัญของโลกอยู่ที่ไต้หวัน ดังนั้นบริษัทผู้ผลิตชิปซึ่งมีจำนวนน้อยรายจนน่าใจหายคือ
มีแค่2 รายใหญ่อย่างTSMC (ไต้หวัน)และซัมซุงก็เลยผลิตไม่ทันเป็นที่รู้กันว่าเซมิคอนดักเตอร์ คือ ชิ้นส่วนที่จำเป็นสำหรับคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กแต่เหนือสิ่งอื่นใดชิปถูกนำไปใช้กับ ระบบที่ต้องมีการคำนวณในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและผลิตรถยนต์จำนวนมากดังนั้นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคืออุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์รองลงมาคืออุตสาหกรรมยานยนต์
การปรับเทคโนโลยีรถจากICE สู่Bev
ในวงการรถยนต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้สายการผลิตหยุดชงักจาก‘ปัญหาชิปขาดแคลน’ จะเห็นว่าบริษัทผลิตรถยนต์ต่างมีความต้องการชิปในการประกอบรถเนื่องจากได้พัฒนาระบบภายในรถยนต์ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นอย่างเช่นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่สมัยใหม่ (ADAS) ซึ่งแทบจะทุกยี่ห้อมีระบบนี้ ADAS ประกอบไปด้วยระบบพื้นฐานเช่นระบบช่วยจอด,ระบบระวังการถูกชนด้านข้าง ระบบล็อกความเร็วคงแปรผัน,ระบบรักษาเสถียรภาพขณะวิ่ง,ไปจนถึงระบบแอดวานซ์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเช่น การประมวลผลของฟังก์ชันต่างๆในคอมพิวเตอร์ส่วนกลางเพิ่มจาก2-3 เครื่องแทนที่จะอาศัยหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ชุดเดียว รวมถึงส่วนประกอบความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆของระบบควบคุมรถที่ใช้การขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ (Autonomous Driving) ในหลายๆ ระดับนอกจากนี้ในการออกแบบรถยนต์สมัยใหม่ต้องการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจากส่วนกลางที่รองรับแอปพลิเคชันอื่นๆ และบริการคลาวด์และการใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับโลกแห่งความบันเทิงของรถยนต์แห่งอนาคต
การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า
การลดปัญหาความต้องการชิปยังมีสิ่งที่ทำให้ยากยิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์นั่นคือการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรถเหล่านี้มีปริมาณการใช้ชิปจำนวนมากในการประกอบเนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ยกระดับขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมรถยนต์โลกกำลังเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีจากรถเครื่องสันดาปภายใน(ICE) ไปสู่ Bevs หรือรถยนต์ไฟฟ้านั้นเอง ปกติแล้วรถทั่วไปใช้ชิปประมาณ 300 ชิป/รถ1คัน แต่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ต้องการชิปที่มีความสามารถมากถึง 3,000 ชิป ความต่างกันของปริมาณการใช้ชิปประกอบรถนี้เองจะทำให้การขาดแคลนที่มีอยู่แล้ว รุนแรงขึ้นไปอีก
ชิปขาดส่งผลต่อราคารถยนต์เพิ่มสูงขึ้น
การขาดแคลนชิปนี้ส่งผลต่อ”ราคาชิป”เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สินค้าต่างๆที่ใช้ชิปเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังต่างปรับราคาสูงขึ้นไม่เว้นแม้แต่รถยนต์ บรรดาผู้ผลิตต่างทะยอยประกาศปรับราคารถใหม่เพิ่มขึ้นจะเห็นว่ารถยนต์ใหม่และรถรุ่นเก่าได้ประกาศปรับราคาหลายๆ ค่ายไม่เว้นรถในไทยเช่น ค่ายเอ็มจี ค่ายซูซูกิ ค่ายBMWนักวิเคราะห์ระบุว่าราคารถยนต์ใหม่และรถใช้แล้วมีแนวโน้มสูงขึ้นไปถึงปีหน้า และอาจไม่กลับสู่ภาวะปกติจนถึงปี2566
การขาดแคลนชิปนี้ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หันไปทำการผลิตรถยนต์ที่มีความต้องการไม่มาก และหันไปลดการผลิตรถรุ่นที่ไม่ได้กำไรลง แน่นอนค่ายรถยังคงผลิตรถรุ่นที่สร้างผลกำไรได้มากๆ อย่างเช่นรถในเช็คเมนท์ ปิคอัพและSUV ในการย้ายชิปจากรุ่นกำไรน้อยไปสู่รถรุ่นที่กำไรมาก เป็นเพียงการเกลี่ยการใช้ชิปวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว
ประกอบก่อนเติมชิปทีหลัง
แหล่งข่าวจากสายการผลิตระบุว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาการผลิตรถอีกแนวทางหนึ่งคือ เพื่อให้ไลน์การประกอบรถยังคงดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องหยุดสายการผลิตทั้งหมด คือการประกอบรถโดยเว้นชิ้นส่วนขาดแคลน แล้วผลิตจอดรถรอไว้จนกว่าจะมีชิปเข้ามาจึงนำมาเพิ่มเติมภายหลัง นอกจากนี้ไลน์การประกอบบางเกรดได้หยุดลงเพื่อนำชิปไปใส่รถรุ่นอื่นๆ อีกนัยยะหนึ่งคือการลดสเปค รถลงไปโดยลดคุณสมบัติด้านไฮเทคบางอย่างออกเพื่อลดการใช้ชิป เช่น การตัดระบบ สตาร์ทและสตอปอัตโนมัติสำหรับในไทยผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่แก้ปัญหาไลน์การผลิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาเลือกที่จะหยุดทำตลาดรถบางรุ่นเป็นการชั่วคราว เช่นเกรทวอลล์(GWM) ได้หยุดการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า โอร่าแบบไม่มีกำหนด
รถใหม่ส่งมอบช้าทั่วโลก
ขณะนี้ในตลาดโลกค่ายรถยนต์หลักๆต่างระบุว่ายอดการจำหน่ายจะลดลงเพราะปัญหาการส่งมอบชิ้นส่วนล่าช้าซึ่งก็คือการไม่สามารถส่งมอบรถใหม่ให้เป็นไปตามเป้าหมายในส่วนของประเทศไทย บรรดาผู้ผลิตรถต่างแจ้งต่อลูกค้าถึงคำสั่งซื้อรถว่าต้องรอรถนานกว่าปกติ การจองรถในปัจจุบันมีกำหนดส่งมอบนาน 2-3เดือน แหล่งข่าวจากตัวแทนจำหนายโตโยต้าเปิดเผยว่า รถยนต์เอนกประสงค์รุ่นเวลอช ใหม่นำเข้าจากอินโดนีเซียต้องใช้เวลารอรถอย่างน้อย3เดือนในขณะที่ผู้แทนจำหน่ายฮอนด้าระบุว่ารถหลายรุ่นของฮอนด้าต้องใช้เวลาในการรอส่งมอบอย่างน้อย2เดือนขึ้นไป ในขณะที่ แผนการเปิดตัวออกสู่ตลาดของรถยนต์บางรุ่นอาจจะต้องชะลอเวลาการเปิดตัวตลาดออกไป เช่น ฮอนด้า BR-V,โตโยต้า วีออส ออลนิว
แนวโน้มรถขาดชิปจบเร็วหรือไม่?
การขาดแคลนชิปยังมีต่อไปอีกยาวนานจนกว่า แผนการเพิ่มกำลังการผลิตของบรรดาโรงงานชิปจะสมบูรณ์โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐที่สนับสนุนการลงทุนใหม่ๆอย่างไรก็ตาม สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ทำให้เกิดการเสียหายต่อซัพพลายเชนของชิป นี่เป็นปัจจัยที่เหนือการควบคุมดังนั้นมากกว่า1ปีข้างหน้าปัญหานี้ยังคงอยู่แน่นอนและผู้บริโภคต้องปรับตัวรับมือกับการมีเงิน”ซื้อรถ”แต่ไม่ได้รถอีกระยะหนึ่ง และมีประกาศเรื่องต้นทุนใหม่ของชิปแล้วในเวลานี้แน่นอนว่า”ราคาต้องสูง”กว่าเก่า