จีนพยายามจัดระเบียบอุตฯยานยนต์ครั้งใหม่
หวังดัน ฉางอาน(Changan) อาจควบรวมกิจการกับ ตงฟง(Dongfeng )พรุ่งเป้า แซง BYD
รายงานสื่อหลายฉบับในจีน เปิดเผยว่า ฉางอานและตงฟงอาจจะควบรวมกิจการกัน ในฐานะแบรนด์ของรัฐ หรืออาจควบกิจการกับแบรนด์อื่นๆ ของรัฐที่ล่าช้าในการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
รายงานระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังผลักดันแนวทางที่เสริมความคล่องตัวมากขึ้นสำหรับค่ายรถที่รัฐบาลถือหุ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของรัฐเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และเร่งการเปลี่ยนไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ปัจจุบันจีนมีแบรนด์รถยนต์หลายร้อยแบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ของรัฐบาลในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนมีขนาดใหญ่ เติบโตรวดเร็ว บางครั้งแทบตามไม่ทันหากการที่ไม่มีการกำหนดแผนภูมิลำดับเหตุการณ์จะเกิดการซ้อนทับ เพราะเห็นตัวอย่างจาก ผู้เล่นรายใหญ่จากตะวันตก เช่น โตโยต้าและโฟล์คสวาเกน ที่ร่วมทุนกันหลายแห่งแต่ผลิตโมเดลที่ทับซ้อนกันเอง
รองประธาน คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาล ซึ่งกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจประมาณ 100 แห่ง เป็นหน่วยงานสำคัญในการกำหนดทิศทางกิจการของรัฐบาล ได้กล่าวสุนทรพจน์ในกรุงปักกิ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ว่า รัฐบาลเรียกร้องให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับโครงสร้างและปรับแนวทางการดำเนินงานใหม่ โดยการรวมทรัพยากรด้านการพัฒนาและการผลิตเข้าด้วยกันแนวคิดนี้ทำให้ค่ายรถของจีนเหล่านี้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแบรนด์อิสระของภาคเอกชนที่มีความคล่องตัว
รัฐบาลเรียกร้องให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับโครงสร้างและปรับแนวทางการดำเนินงานใหม่
คณะกรรมการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจประมาณ 100 แห่ง เช่น ฉงชิ่ง(Chongqing-นครที่ตั้งอยู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เป็นหนึ่งในสี่นครที่อยู่ภายใต้การบริหารโดยตรงของรัฐบาลกลาง) ค่ายรถ ฉางอาน ออโตโมบิล, ตงฟง มอเตอร์ คอร์ป)และไชน่าFAW กรุ๊ป
เมื่อเร็วๆ นี้ หนังสือพิมพ์ South China Morning Post รายงานว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาให้ ตงฟงและฉางอานอยู่ภายใต้กลุ่มโฮลดิ้งเดียวกัน หากเป็นเช่นนั้นการควบรวมกันนี้อาจแซงหน้า BYD และกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในจีนซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภาพรวม
นักวิเคราะห์ของ มอร์แกน สแตนเลย์ ( Morgan Stanley) กล่าวถึงข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นนี้ว่า การปรับโครงสร้างใหม่ หากเกิดขึ้นจริง จะถือเป็นก้าวสำคัญในการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนในระยะยาว
การควบรวมกิจการเป็นหนทางหนึ่งในการลดการแข่งขันภายใน และช่วยให้ภาคส่วนนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
ปี2567 ที่ผ่านมาค่ายฉางอานขายรถได้ 2.68 ล้านคัน ในขณะที่ตงฟงขายได้ 2.48 ล้านคัน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถตามทันBYD ในการเปลี่ยนผ่านสู่ EV และพลาดเป้ายอดขาย EV ในปีที่แล้ว
นายอีวาน ลี ผู้จัดการกองทุนLoyal Wealth Management กล่าวว่า รายงานข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงการควบรวมกิจการที่อาจเกิดขึ้นของบริษัทที่เป็นของรัฐแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ให้คำชี้แจงที่ชัดเจนก็ตาม รัฐบาลน่าจะมองว่าการควบรวมกิจการเป็นหนทางหนึ่งในการลดการแข่งขันภายใน และช่วยให้ภาคส่วนนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
แม้ว่าประสิทธิภาพของ EV ของทั้งสองบริษัทนี้อาจไม่โดดเด่นนัก แต่ทั้งสองบริษัทได้บูรณาการอย่างลึกซึ้งกับระบบนิเวศยานยนต์ในจีนตงฟงยังคงร่วมทุนกับ Nissan , Honda, Peugeot และ Citroen ในขณะที่ ฉางอาน เป็นพันธมิตรกับ Ford และ Mazda พันธมิตรเหล่านี้อาจทำให้การควบรวมกิจการมีความซับซ้อน แต่พันธมิตรเหล่านี้ยังเน้นย้ำถึงคุณค่าเชิงกลยุทธ์ของทั้งสองบริษัทในตลาดโลกอีกด้วย
