นิสสันอัพเกรด จีที-อาร์สู่ ที-สเปค สปอร์ตคูเป้ เคาะราคา 12.2ล้านบาทกลายเป็นรถนิสสันที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทย โชว์ตัวงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่38
กรุงเทพฯ -4 ตุ.ค.64 – นิสสัน ประเทศไทย เปิดตัว นิสสัน จีที-อาร์ ที-สเปค (GT-R T-spec) ในประเทศไทย โดยเปิดให้จองผ่านดีลเลอร์ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High-Performance Center – NHPC) (นิสสัน กรุงไทย ผู้จำหน่ายจีที-อาร์ อย่างเป็นทางการแห่งเดียวในประเทศไทย)จีที-อาร์ ที-สเปค คันแรก พร้อมส่งมอบในเดือนธ.ค.2564 และนิสสันจะเปิดให้ชมแบบสาธารณะในงานในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 (Thailand International Motor Expo 2021) ที่เมืองทองธานี
สำหรับชื่อรุ่น T-spec มาจากปรัชญาของจีที-อาร์ ในการเป็นผู้นำ และผู้กำหนดเวลา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคำว่า “trend” และ “traction” ที่หมายถึงการยึดเกาะถนน ในฐานะผู้กำหนดเทรนด์ จีที-อาร์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ล้ำหน้าอยู่เสมอ และมีสมรรถนะของรถในการขับขี่ด้วยการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม โดยทีมวิศวกรได้มุ่งมั่นทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด ดังนั้นรถรุ่นนี้จึงโดดเด่นด้านการยึดเกาะถนนอย่างแท้จริง
Nissan GT-R T-spec
จีที-อาร์ ที-สเปค เป็นรุ่นพิเศษที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นเมื่อเดือนก.ย.2564 เป็นการอัพเกรดตัวถังเดิมคือ R35 ให้เป็นรุ่นพิเศษ(T-spec) และผลิตจำนวนจำกัดในปี 2021 ซึ่ง จีที-อาร์ ที-สเปค มีสีตัวถังอันเป็นเอกลักษณ์2สี พร้อมฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเกรดมากมาย GT-R T-spec ใหม่แบบจำนวนจำกัดที่นี้มาเสริมในไลน์นิสสันจีที-อาร์ อยู่เหนือเกรด GT-R Premium มีการปรับบังโคลนหน้าให้กว้างขึ้นจากรุ่น Track Edition รุ่นก่อนล้ออัลลอยเป็นของ RAYS® เคลือบสีทองและสปอยเลอร์หลังคาร์บอนไฟเบอร์ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ และป้าย T-spec ทำให้การเปลี่ยนแปลงภายนอกสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีเบรกคาร์บอนเซรามิกพร้อม ท่อนำอากาศเบรกจาก GT-R NISMO
GT-R T-spec มีจุดเด่นที่ สังเกตได้มากที่สุดคือสีภายนอก เป็นสีพิเศษสองสี – สีเขียว มิลเลนเนียม เจด( Millennium Jade) และ สีม่วง มิดไนท์ เพอร์เพิล (Midnight Purple) ก่อนหน้านี้ Millennium Jade ถูกนำมา ใช้ใน R34 GT-R V-Spec II Nür ซึ่งเป็นหนึ่งใน GT-R ที่หายากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยชื่อที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง Nürburgring จึงผลิต V-Spec II Nür เพียง 718 คัน โดยมีเพียง 156 คันที่มีสี Millennium Jade นี่เป็นครั้งแรกที่จะนำเสนอสี สีเขียว มิลเลนเนียม เจดมาใช้
ส่วนสีม่วง มิดไนท์ เพอร์เพิล ใหม่เป็นการตีความที่ทันสมัยของ Midnight Purple III จาก R34 V-Spec ซึ่งมีจำนวน จำกัด ที่ 132 คันและ Midnight Opal R35 GT-R รุ่นพิเศษปี 2014 ที่มีจำกัด เพียง 100 หน่วยทั่วโลก (50 คันอยู่ในตลาดอเมริกา)ในตลาดอเมริกาเหนือ ราคา GT-R T-spec และ GT-R NISMO Special Edition จะอยู่ที่ 138,490 ดอลลาร์ และ 215,690 ดอลลาร์ตามลำดับ
สเปคไทย
ในประเทศไทยนิสสันนำเข้ารถมาแบบสำเร็จรูป(CBU)จากโรงงานโทชิงิ (ToChigi) ทางตอนเหนือของโตเกียว ใช้สเปคเดียวกับการอัพเกรด จีที-อาร์ T-spec ทั่วโลกนั่นคือ สเปคที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะและดีไซน์ ด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิก สปอยเลอร์หลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ฝาครอบเครื่องยนต์พิเศษสำหรับรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น และตราสัญลักษณ์รุ่น ที-สเปค ลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ล้ออัลลอยฟอร์จจาก RAYS สีบรอนซ์ (สีแตกต่างจากสเปคอเมริกา)ขนาด 20 นิ้ว และสีตัวถังใหม่ 2 สี ได้แก่ สีม่วง มิดไนท์ เพอร์เพิล (Midnight Purple) และสีเขียว มิลเลนเนียม เจด (Millennium Jade) ส่วนสีหลักอื่น ๆ อีก 4 สี ยังคงมีให้เลือกในรุ่น พรีเมี่ยม
การออกแบบและตกตกภายใน T-spec ใช้เฉพาะด้วยสีเขียว โมริ กรีน (Mori Green) และมีเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกลับ หลังคาบุด้วยวัสดุอัลคันทาร่า (Alcantara®) และ สัญลักษณ์ T-spec บริเวณคอนโซล สมรรถนะของจีที-อาร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบVR38DETT เครื่องยนต์ V6 24 วาล์ว ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ เครื่องยนต์ทุกเครื่องประกอบด้วยมือจากช่างเทคนิคระดับสูงสุดของจีที-อาร์ หรือ ‘ทาคูมิ’ ให้พละกำลังสูงสุด 555 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร กำลังของเครื่องยนต์ถูกส่งไปยังล้อทั้งสี่ล้อ ผ่านชุดเพลาส่งกำลังขับเคลื่อนในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
นอกจากรุ่น ที-สเปค ใหม่แล้ว นิสสัน จีที-อาร์ ยังมีรุ่น Premium Luxury ซึ่ง ใช้เครื่องยนต์และระบบเกียร์แบบเดียวกันกับ T-spec คือ เครื่องยนต์แบบVR38DETT เครื่องยนต์ V6 24 วาล์ว ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ มีสีภายนอกให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีฟ้า เบย์ไซด์ บลู (Bayside Blue) สีแดง แวเรียนต์ เรด (Variant Red) สีเงิน ซูเปอร์ ซิลเวอร์ (Super Silver) สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White) สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic) และสีดำ แบล็ค (Pearl Black) ขณะที่การตกแต่งภายในของรุ่น Premium Luxury มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา เออเบิร์น เกรย์ (Urban Grey) สีแดง แอมเบอร์ เรด (Amber Red) และ สีดำ ซามูไร แบล็ค (Samurai Black)
จีที-อาร์ ใหม่ รุ่น ที-สเปค ราคา 12.2 ล้านบาท มาพร้อมกับการรับประกันของนิสสัน ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยช่างเทคนิคที่ได้รับการฝึกอบรมจากประเทศญี่ปุ่น ศูนย์บริการรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสัน มอบการบริการลูกค้าที่ดีที่สุด ด้วยอะไหล่แท้ของนิสสัน จีที-อาร์ นอกจากนี้ นิสสัน จีที-อาร์ รุ่น Premium Luxury ราคา 10.7 ล้านบาท
ราคา
GT-R รุ่นเครื่องยนต์ VR38DETT ระบบขับเคลื่อน4ล้อ( 4WD) ระบบเกียร์แบบดูอัลคลัตช์ 6 สปีด (GT-R GR6 Dual Clutch Transmission)
รุ่น T-spec edition ราคา 12.2 ล้าน
รุ่น Premium Luxury edition ราคา 10.7 ล้าน
ศููนย์บริการพร้อมส่งมอบ
นายอิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์นิสสัน จากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จีที-อาร์ ทุกคันจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของนิสสัน มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ มีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย
นายพิสิทธิ์ จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสันกรุงไทย จำกัด กล่าว ว่าทีมงาน และ บุคลาการที่มีประสบการณ์ของนิสสัน กรุงไทย ได้รับการฝึกฝนความชำนาญเพื่อดูแลลูกค้าจีที-อาร์ ชาวไทยโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับรถยนต์ที่เป็นไอคอนคันนี้ และในฐานะที่เป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของนิสสัน แห่งเดียวในประเทศไทย มาตรฐานบริการหลังการขายของเราได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อดูแลจีที-อาร์
ลูกค้าจีที-อาร์ จะการบริการหลังการขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ของนิสสัน โดยนิสสัน กรุงไทย (สำนักงานใหญ่) รามอินทรา กม.4 ผู้จำหน่ายและให้บริการสำหรับรถยนต์นิสสัน จีที-อาร์ อย่างเป็นทางการของประเทศไทย โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2510-5555 หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากนิสสัน กรุงไทย ได้ที่ https://www.facebook.com/gtr.krungthai หรือเว็บไซต์ของ นิสสัน ประเทศไทย
