วันที่ 24 พฤษภาคม 2018 บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท จีทีเอ จำกัด ฝ่ายจัดการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที และผู้สนับสนุนหลักอย่าง บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด และ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวจัดการแข่งขัน ศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกรายการ “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018” ที่จะดวลความเร็วที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน -1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งนับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันในประเทศไทย
สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที ครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2014 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากแฟนความเร็วชาวไทย และตลอดทั้ง 4 ปีที่จัดการแข่งขันก็ทำสถิติตัวเลขผู้เข้าชมเป็นอันดับต้นๆ ของรายการนี้ โดยในปี 2018 สังเวียนความเร็วมาตรฐานโลกของไทยจะถูกบรรจุเป็นสนามที่ 4 ของฤดูกาลนี้ในศึก ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018
นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษา สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า “เราเปิดใช้สนามช้างฯ ครั้งแรกในปี 2014 ด้วยการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่อย่าง ซูเปอร์ จีที แน่นอนว่าเราได้เห็นความตื่นตัวของวงการมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยอย่างมาก และในปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 5 ปี ที่ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ จะระเบิดความมันส์ให้แฟนๆ ชาวไทยได้เร้าใจ เราในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขันในประเทศไทยขอทุ่มเต็มร้อยเช่นเดียวกับทุกๆ ปี เพื่อสร้างสรรค์การแข่งขันคุณภาพแบบนี้เช่นกัน”
“ตอนนี้ประเทศไทยแสดงให้โลกรู้ว่า เรามีศักยภาพด้านมอเตอร์สปอร์ตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามี อาร์โต้ แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลในศึก ซูเปอร์ จีที เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน นั่นหมายถึงการยกระดับการทำงานของคนไทยในการทำทีมแข่งระดับโลก และพวกเขาจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในการแข่งขันที่บุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีทีม เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอสต์ ที่จะลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ดต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทยด้วย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้ฉลองไปพร้อมๆ กันที่ สนามช้างฯ” นายเนวิน เผย
สำหรับการแข่งขันรายการ ซูเปอร์ จีที ถือเป็นศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอีกหนึ่งรายการที่มีผู้ติดตามมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การรวบรวมสุดยอดรถแข่งระดับโลกซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ โดยในรุ่น จีที 500 รุ่นใหญ่ที่สุดประกอบด้วยรถแข่งอย่าง เล็กซัส แอลซี 500, ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที และ นิสสัน จีที-อาร์ รวมถึงรุ่น จีที 300 ซึ่งรวมเอาสุดยอดแบรนด์ซูเปอร์คาร์ มาดวลความเร็วในแทร็กเดียวกัน นำโดย โตโยต้า, ซูบารุ, เล็กซัส, นิสสัน, โลตัส, เมอร์เซเดส, บีเอ็มดับเบิลยู, ออดี้, ปอร์เช่, ลัมบอร์กินี ฮูราคาน และ เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล
โดยในปีนี้แฟนๆ ความเร็วชาวไทยจะได้ส่งเสียงเชียร์ 2 ทีมแข่งไทยในการแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 นำโดย อาร์โต้ แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ที่ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขับโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ รวมถึงทีมแข่งไวด์การ์ดอย่าง เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอสต์ ที่จะลงแข่งขันโดยยอดนักขับดาวรุ่งชาวไทยอย่าง กันตธีร์ กุศิริ และแม็กซิม จูสส์ นักขับฝรั่งเศส
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวนการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวถึงกิจกรรมเสริมในสุดสัปดาห์ของ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ว่า นอกจากนี้การแข่งขันที่เข้มข้นแล้ว เรายังเติมเต็มสุดสัปดาห์ดังกล่าวด้วยบรรยากาศมอเตอร์สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ อาทิ พิตวอล์ค พาทัวร์พิตเลนที่รายล้อมด้วยนักขับระดับโลก และเรซควีนสุดน่ารักส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึง เซอร์กิต ซาฟารี กิจกรรมที่ จะพาทุกคนไปนั่งในรถรับบรรยากาศจากสนามแข่งจริง
“ในสุดสัปดาห์เดียวกันจะมีการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่เป็นซัพพอร์ตเรซ เพื่อสร้างสีนสันให้กับแฟนความเร็วที่เข้าชมในสนามช้างฯอย่าง โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2018 และ ฮอนด้า วันเมค เรซ รวมอยู่ด้วย”
“ฝากถึงแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต ที่ชื่นชอบความเร็ว ห้ามพลาดกับ รายการ ช้าง ซูเปอร์ จีทีเรซ 2018 ที่จะให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศความมันส์ จากสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เต็มๆ รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน และยังมีสินค้ามอเตอร์สปอร์ต มาร่วมออกบูธอีกมากมายภายในงาน” นายตนัยศิริ ทิ้งท้าย
นอกจากนั้นเองยังมีกิจกรรมจากทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย งาน “Thailand Shopping & Dining Paradise 2018” ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม ณ บริเวณ Buriram Castle เพื่อเสริมทัพรองรับนักท่องเที่ยวทั่วไทยและต่างชาติที่จะมาชมการแข่งขัน โดยมีพันธมิตรต่าง ๆ มากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า-ศูนย์การค้าชั้นนำทั่วประเทศ สายการบิน ธนาคาร และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มาออกบูธในงานดังกล่าว
ทั้งนี้แฟนความเร็วสามารถหาซื้อบัตรเข้าชมได้แล้ววันนี้ ผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขา หรือทาง เว็ป ออลล์ทิคเก็ต โดยบัตรเข้าชมมี 3 แบบ ได้แก่ บัตรวีไอพี 1 วัน ราคา 3,000 บาท/ 2 วัน ราคา 5,000 บาท, บัตรแกรนด์สแตนด์ 1 วัน ราคา 1,500 บาท/ 2 วัน ราคา 2,000 บาท และบัตรไซด์สแตนด์ 1 วัน ราคา 300 บาท/ 2 วัน ราคา 500 บาท และมีส่วนลดมากมายจากทางผู้สนับสนุน เพียงแค่แสดงผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง, แสดงกุญแจรถยนต์หรือจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น ,แสดงบัตร PTT Blue Card, แสดงกุญแจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่น ,แสดงกุญแจรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น ,ชำระผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตไทยพาณิชย์ทุกประเภท(ช่องทางออนไลน์) ,แสดงผลิตภัณฑ์อาหาร ซีพี ชนิดใดก็ได้ ,แสดงบัตร TRUE BLACK CARD ,บัตร TRUE RED CARD หรือ ใบเสร็จรับเงิน ทรู วิชั่นส์ ก็จะได้รับส่วนลด บัตรแกรนด์แสตนด์ 25% และบัตรไซด์แสตนด์ 50% ตั้งแต่วันนี้ ถึง 1 กรกฎาคม 2561
