Home ข่าว ข่าวต่างประเทศ กระบะนิสสัน Frontier Pro(นาวาร่าใหม่) ปลั๊กอินไฮบริด แชร์แพลทฟอร์มจากมิตซูบิชิ

ข่าวต่างประเทศ

กระบะนิสสัน Frontier Pro(นาวาร่าใหม่) ปลั๊กอินไฮบริด แชร์แพลทฟอร์มจากมิตซูบิชิ

การเปิดตัวกระบะ ฟอร์นเทียร์ โปร (Frontier Pro) ใหม่ล่าสุดถือเป็นรถกระบะพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ นิสสัน Frontier Pro หรือ ในบางตลาดเรียกว่า นาวาร่าจะเริ่มต้นจำหน่ายในตลาดในปี2569 รวมถึงในประเทศไทย

Advertisements

การออกแบบ:

Frontier Pro รุ่นใหม่ล่าสุดได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงแนวคิด “Rugged Tech” โดยมีการออกแบบภายนอกที่ทันสมัยที่เข้ากันได้ดีกับภายในที่กว้างขวางและหรูหรา

ภายในหน้ากากด้านหน้า โลโก้แบรนด์ นิสสันส่องสว่างด้วยสีขาว แสดงถึงความสามารถในการใช้พลังงานไฟฟ้ายุคใหม่ของ Frontier Pro ขนานไปกับแนวกระโปรงหน้า มีไฟ LED ห้าดวงที่เว้นระยะห่างกันเพื่อเน้นความกว้างของตัวรถ ไฟตรงกลางสามดวงให้เกียรติรถกระบะรุ่นไอคอนิกที่สุดรุ่นหนึ่งของ นิสสัน อย่างแนบเนียน

Frontier Pro ใหม่ได้รับการออกแบบจากสตูดิโอเซี่ยงไฮ้ของ นิสสัน สมาชิกในทีมออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากช่องเปิดสามช่องอันโดดเด่นบนฝากระโปรงของรถกระบะ นิสสัน D21 รุ่นปี 1980(พ.ศ. 2523) ในการสร้างเอกลักษณ์ด้านแสงไฟของ Frontier Pro พวกเขาใช้ LED เพื่อสร้างสรรค์องค์ประกอบการออกแบบใหม่สำหรับยุคใหม่

รถทุกรุ่นใช้ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้วมาตรฐานพร้อมยาง 265/65R18

ระบบส่งกำลัง:

แกนหลักของรถคือระบบส่งกำลังแบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊กอันทรงพลังที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ติดตั้งในระบบเกียร์

เมื่อรวมกันแล้ว ระบบนี้จะส่งมอบพลังงานมากกว่า 300 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงถึง 800 นิวตันเมตร ช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและประสิทธิผล

สำหรับตลาดภายในประเทศจีน Frontier Pro แบบปลั๊กอินไฮบริดมีเป้าหมายที่จะให้ระยะทางสูงสุด 135 กม.* เมื่อใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

รุ่นทุกรุ่นมีระบบกันสะเทือนหลังแบบ 5-Link และระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะที่ควบคุมการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังโดยอัตโนมัติ ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดได้รับการสนับสนุน
จากระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า โหมดการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ ‘ไฮบริด, ไฟฟ้าล้วน, สมรรถนะ และหิมะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งประสบการณ์ได้ตามสภาพและความชอบของตนเอง

การออกแบบภายใน

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและตกแต่งอย่างดีด้วยหลังคาพาโนรามิกมาตรฐาน แผงหน้าปัด LCD ขนาด 10 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.6 นิ้ว เบาะนั่งคู่หน้ามีระบบทำความร้อน
ระบบระบายอากาศ และระบบนวดหลัง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่แอ็คทีฟของผู้เป็นเจ้าของ นิสสัน Frontier Pro ใหม่ล่าสุดจึงมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ราวหลังคาและฝาปิดแบบดึงกลับอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ
พื้นที่เก็บสัมภาระ เจ้าของสามารถชาร์จอุปกรณ์ภายในบ้านได้อย่างสะดวกโดยใช้พอร์ต Vehicle-to-load (V2L) ซึ่งใช้แบตเตอรี่ไฮบริดแบบปลั๊กอินเพื่อจ่ายพลังงานได้มากถึง 6 กิโลวัตต์
รถยนต์รุ่น Frontier Pro แบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดได้รับการพัฒนาร่วมกับ Zhengzhou นิสสัน (ZNA) โดยจะผลิตและวางจำหน่ายในประเทศจีนก่อนสิ้นปี 2568 นี้นอกจากนี้ ยังจะมีการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย

Nissan Frontier Pro และ Mitsubishi Triton เจเนอเรชันใหม่ (2023–2024)

ทั้ง Nissan Frontier Pro (หรือที่บางตลาดเรียกว่า Navara รุ่นใหม่) และ Mitsubishi Triton โฉมใหม่ (เปิดตัวปี 2023) ต่างพัฒนาบน แพลตฟอร์มร่วม ที่ Mitsubishi เป็นผู้พัฒนาหลัก โดย Nissan นำไปต่อยอดเป็น Frontier/Narava รุ่นใหม่ที่มีกลิ่นอายเฉพาะของแบรนด์ตนเอง

ความสัมพันธ์ระหว่าง Nissan และ Mitsubishi:

ปี 2016 Nissan ได้เข้าซื้อหุ้นของ Mitsubishi Motors จำนวน 34% ทำให้ Mitsubishi กลายเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของกลุ่ม Renault–Nissan Alliance และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Renault–Nissan–Mitsubishi Alliance
ความร่วมมือที่สำคัญ:
- การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน เช่น EV และ PHEV
- การแชร์แพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์เพื่อประหยัดต้นทุน
- การใช้โรงงานร่วมกันในบางประเทศ เช่น การผลิต Triton และ นาวาร่า (Frontier) ในอนาคตที่ประเทศไทย