การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของมาสด้า ค่ายรถที่มีโครงการพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่ในไทย โดยหลักการของมาสด้า เน้นไปที่”การลดการใช้พลังงาน”และ”การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”อย่างมาก ผ่าน ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มาสด้าเชื่อว่า เหมาะสมกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะการ ปลุกชีพเครื่องยนต์โรตารี่ ที่จัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เมืองทองธานี
การจัดแสดงรถยนต์ มาสด้า MX-30 e-SKYACTIV R-EV ซึ่งเป็นรถเด่นของมาสด้าบนเวที เป็นการสื่อให้เห็นถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ไปได้ไกลกว่า และการวางยุทธศาสตร์สู่ความยั่งยืนของมาสด้า
บูธจัดแสดงรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด ภายใต้ธีม Love of Cars เพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของมาสด้าในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตที่กำลังดำเนินไปตามกรอบระยะเวลา ตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ที่หลงไหลในการขับขี่และรักในรถยนต์
การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของมาสด้าเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ค่ายรถยนต์นี้ได้เริ่มต้นในประเทศไทย
Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV นั้นเป็นการ ผสานการทำงานร่วมกันระหว่างระบบไฟฟ้ากับเครื่องยนต์โรตารี่ หรือเรียกว่า ระบบ Plug-in Hybrid ที่ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายและไปได้ไกลกว่า
นายทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยี Multi-Solution มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ส่งมอบเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายและมีความเหมาะสมในแต่ละภูมิภาค เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า ในยุคที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากพลังงานเชื้อเพลิงไปสู่พลังงานไฟฟ้า หลายคนคงจดจำเครื่องยนต์โรตารี่ สัญลักษณ์แห่งการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และความคิดสร้างสรรค์ นี่คือหนึ่งใน Multi-Solution เทคโนโลยีแห่งอนาคตจากมาสด้า
เทคโนโลยี Multi-Solution จากมาสด้านำเสนอการลดการใช้พลังงานโดยมีความหลากหลายและเหมาะสมในแต่ละภูมิภาค
การนำเทคโนโลยี e-SKYACTIV R-EV มาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นการปลุกฟื้นคืนชีพตำนานเครื่องยนต์โรตารี่ ต้นกำเนิดรถสปอร์ตมาสด้าหลากหลายรุ่นในอดีต ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบันกลายเป็นดีเอ็นเอสายพันธุ์สปอร์ตที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
หากพิจารณาถึง แนวคิดการประหยัดพลังงานไม่ได้มีเพียงเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับ ขุมพลังว่าจะต้องเป็นไฟฟ้าหรือเครื่องสันดาปภายใน แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ประกอบไปด้วย
เทคโนโลยีไฟฟ้ารถยนต์: สำหรับมาสด้าได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีไฟฟ้ารถยนต์ของตนเอง โดยใช้แนวคิด SKYACTIV ที่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้รถยนต์มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและการขับเคลื่อนที่ดี โดยมีการวิจัยและพัฒนาในด้านการจัดการพลังงานไฟฟ้า ระบบการควบคุมการเข้าถึงพลังงานและการทำงานของเครื่องยนต์ โดยการใช้โซลูชันสตาร์ท/สต็อปที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อลดการใช้พลังงานในการเริ่มต้นรถ
ระบบเกียร์ สกายแอคทีพ : การพัฒนาระบบเกียร์ที่มีความเสถียรและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้การขับเคลื่อนดูเป็นธรรมชาติและเหมือนกับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงปกติ นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีการเร่งเคลื่อนที่ลื่นไหลที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ระบบการเก็บพลังงาน: การพัฒนาระบบการเก็บพลังงานในรถยนต์ไฟฟ้าของมาสด้า คือแนวทางเพื่อให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นและมีการรับรองเพื่อความปลอดภัยและความทนทาน
การลดน้ำหนัก: การพัฒนาวัสดุที่เบาและแข็งแรง เพื่อลดน้ำหนักของรถยนต์ เช่นใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและระยะทางของการขับขี่
ระบบควบคุมอัจฉริยะ: การพัฒนาระบบควบคุมอัจฉริยะที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกและระบบการสื่อสารระหว่างรถยนต์
Plug-in Hybrid: การผสานการทำงานร่วมกันระหว่างระบบไฟฟ้ากับเครื่องยนต์โรตารี่ สามารถสร้างระยะ ขับเคลื่อนด้วยพลังานไฟฟ้าได้ไกลถึง 85 กิโลเมตร และเมื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้ากลับเข้ามาในแบตเตอรี่จะทำให้ขับขี่ได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร
จากแผนการลงทุนของมาสด้า ในประเทศไทย เทคโนโลยีของมาสด้า เต็มรูปแบบเหล่านี้ ตลาดเมืองไทยจะได้เห็นในเวลาไม่นานนัก