โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ คว้าแชมป์แรลลี่ AXCR 2024 สุราษฎร์-กาญจนบุรี ระยะทางกว่า 2,100กม.เป็นครั้งแรกหลังรอคอยมานาน
ในประเภท 4 ล้อ รถ Hilux ของ Toyota Gazoo Racing (ประเทศไทย) คว้าชัยชนะครั้งแรกที่รอคอยมานานในการแข่งขัน ชัยชนะตกเป็นของรถเบอร์ #105 มานะ พรสิริเชิดชู และ กิตติศักดิ์ กลิ่นจันทร์ (ประเทศไทย)
โดย วันที่ 17 สิงหาคม 2558 เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน Asia Cross Country Rally ครั้งที่ 29 รถเบอร์ #105 มานะ พรสิริเชิดชู (ประเทศไทย) และ กิตติศักดิ์ กลิ่นจันทร์ (ประเทศไทย) จาก TOYOTA GAZOO RACING THAILAND แข่งขันด้วยรถยนต์ Toyota Hilux Revo และคว้าชัยชนะในการแข่งขัน โดยรวม
มานะ/กิตติศักดิ์ ขึ้นนำในวันแรก แต่ความผิดพลาด ในวันที่สองทำให้พวกเขาต้องเสียเวลาอย่างมาก แม้จะเป็นเช่นนี้ พวกเขายังทำเวลาได้เร็วเป็นอันดับ 3 ในวันที่สาม และในวันที่สี่ พวกเขายังทำเวลาได้ดีที่สุด ในวันที่ห้า พวกเขาแซงทีม MITSUBISHI RALLIART ซึ่งเป็นผู้นำอยู่ก่อนหน้านี้ ชยพล โยธา (ประเทศไทย) และพีรพงศ์ สมบัติวงศ์ (ประเทศไทย) จากทีม MITSUBISHI RALLIART ซึ่งเป็นผู้นำในการแข่งขัน แต่กลับหลุดจากการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดเนื่องจากปัญหาเครื่องยนต์ ทีมสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ และพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะในสเตจแรกได้สำเร็จ
รายงานข่าวจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ทีม“TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า TOYOTA GAZOO Racing Thailandส่งรถHilux REVO GR SPORT Wide Tread 3 คัน ลงการแข่งขัน “Asia Cross Country Rally 2024”เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของทั้งรถและคน เพราะในสภาวะกดดันของการแข่งขันจะช่วยเค้นศักยภาพทั้งหมดออกมาเพื่อมุ่งสู่เส้นชัย TOYOTA GAZOO RacingThailand ร่วมกับวิศวกรชาวไทย (TMA) ในการศึกษาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนายนตรกรรมที่ดียิ่งกว่าให้กับผู้ใช้รถคนไทยในอนาคตตามแนวคิด MAKE EVER-BETTER CARS FROM CIRCUIT TO THE ROAD หลังพิธีตีธงเปิดการแข่งขันในวันที่ 11 สิงหาคม ณ หอนาฬิกาใจกลางเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี เช้าวันที่ 12 สิงหาคม ก็เป็นการสตาร์ทออกตัวของLeg1 จ.สุราษฎร์ธานี และต่อเนื่องจนถึง Leg6 จ.กาญจนบุรี ต้องผ่านเส้นทางที่ยากลำบากทั้งทางที่เป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่เต็มไปด้วยก้อนหินตะปุ่มตะป่ำทางแคบขับยาก มีร่องน้ำลึกข้างทาง และมีเงาป่ายางที่ทำให้ทัศนวิสัยลดลง ทั้งนักขับและ Co-Driver ต้องใช้ประสบการณ์ในการสังเกตจุดมาร์คต่างๆ เป็นอย่างดี และมีทางขึ้นลงเขาที่มีฝนตกหนัก ทำให้ค่อนข้างลื่น ขับยาก บางวันเจอกับป่าหิน ร่องน้ำและทางขาด รถทั้ง 3 คัน และทีมงานเบื้องหลังต้องปรับแผนปรับรถสู้เต็มที่ในทุกวัน
จบการแข่งขันทั้ง 6 วันด้วยชัยชนะยิ่งใหญ่คุ้มค่าการรอคอย เมื่อรถหมายเลข105 ClassT1D ขับโดย มานะ พรศิริเชิด และกิติศักดิ์ กลิ่นจันทร์(Co-Driver) จบการแข่งขันคว้าแชมป์อันดับ 1 ของรุ่นและแบบโอเวอร์ออลใช้เวลารวม 14:22 ชม.
รถหมายเลข 111ClassT2A-D ขับโดย จรัส แจ้งกมลกุลชัย และ ศิณพพงษ์ ไตรรัตน์ (Co-Driver) จบการแข่งขันไปด้วยอันดับ 5 ของรุ่น ใช้เวลารวม 16:26ชม. และรถหมายเลข 114ClassT1Dขับโดยณัฐพล อังฤทธานนท์และ ธันยพัต มีนิล (Co-Driver)จบการแข่งขันใช้เวลารวม 27:37:26 ชม.