ซูซูกิ แครี่โฉมใหม่ รถทางเลือกที่ไม่เหมือนใครใช้งานจริง ปรับเปลี่ยนมากกว่าที่คิด
หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในงาน บิ๊ก มอเตอร์ เซลซ์เมื่อเดือน ส.ค.62ที่ผ่านมาซูซูกิได้นำรถยนต์แครี่ ปิคอัพใหม่มาให้ทดลองขับกันโดยเป็นสัมผัสแรกกับรถขนของที่เราให้”นิยาม”ว่า รถขนสนุก
การทดสอบมีขึ้นจากกรุงเทพ วิ่งไปยังเส้นทางฉะเชิงเทราโดยระยะทางกำลังดี100กิโลเมตรกว่าๆ รวมไป-กลับ มายังที่ตั้งคือโพธาลัยเลเซอร์ปาร์คสเปครถเดิมๆ มีน้ำหนักบรรทุกถ่วงหลังเป็นปอปเป็นปลาของฮาซันคนดัง และผมไม้หลายหลายผมไม่ทราบน้ำหนักที่แท้จริงที่บรรทุกไปแต่ลองไปขยับแต่ล่ะลังแล้วไม่ไหวติงเลย
แครี่ ที่มา
แครี่ เป็นรถกระบะ ขับเคลื่อน2 ล้อ เป็นรถกลุ่มเวิร์ล โมเดลของซูซูกิ มอเตอร์ ญี่ปุ่น รถที่เปิดตัวใหม่ แทนตัวเก่า ( แครี่ปิคอัพ1.6L )ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรอบ 12 ปีของแครี่ซึ่ง ซูซูกิแครี่จัดเป็นรถกระบะตอนเดียว (Pickup No Cab) น้ำหนักบรรทุก 4000 กิโลกรัม
ขนาดของรถจัดอยู่ในกลุ่ม Light Truck คือมีขนาดบรรทุกไม่เกิน1 ตัน(ตามกฏหมายประเภทและข้อจำกัดรถ) ซึ่งจริงๆ แล้วกระบะ 1 ตันที่เราเรียกกันเวลาเอาไปบรรทุกจริงก็มีการบรรทุกได้เกิน1 ตันทั้งนี้ภาษากฏหมายก็ยังเรียกกระบะแบบนี้ว่า1 ตัน
:โฆษณาซูซูกิ แครี่ อินโดนีเซีย
รูปร่าง
หน้าตาของแครี่เปลี่ยนไปเพราะเป็นรถใหม่หมด โดยมีหัวเก๋งที่ใหญ่และกว้างขึ้นรูปร่างรถเวลาถ่ายรูปแล้วไม่ค่อยสวยแต่ตัวจริงน่ารักคิกคู ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศเวลาไปเดินโตเกียวที่รถเล็กๆน่ารักเต็มไปหมดบางคนชอบหน้าตาของตัวเก่ามากกว่าแต่เท่าที่ใช้งานและลองขับ ความสวยของตัวเก่าจะต้องแลกด้วยพื้นที่ๆคับแคบของหัวเข่าและเบาะนั่ง
การออกแบบรถแม้จะดูทรงดัั้งเดิม คือเส้นตรง และทรงเหลี่ยมมาประกอบกันแต่ก็ยังชอบเพราะมีเสนห์แบบญี่ปุ่นคันเก่าเหมือนแมวแต่คันใหม่จินตนาการให้เป็น”เต่า”ก็แล้วกัน ภายนอกสีเดียวคือสีขาวตามตำรับรถใช้และมีลายคาดเป็นสีฟ้า หรือสี CI ของซูซูกิ กระบะหลังแบบแบนเรียบมีขอบกระบะไม่สูงนักโดยไม่มีการเล่นระดับใดๆ ที่รอบคันและตัวกระบะขอเกี่ยวถูกนำมาเรียงไว้ด้านนอกเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้านหลังมีกันกระแทกที่กระจกหลัง เป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่ารุ่นเก่าด้านบนมีหูเกี่ยวสองข้างไว้สำหรับยึดของ
ภายในห้องโดยสาร
ในห้องโดยสารมีสิ่งที่ใหม่และแสดงให้เห็นการพัฒนาโดยเริ่มจากการออกแบบให้พื้นที่กระจกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งด้านข้างและด้านหน้าตัวคอนโซลออกแบบใหม่ ดูกว้างและมีพื้นที่เก็บของมากขึ้น ซูซูกิไม่ได้กรุ ภายในรอบๆ ห้องโดยสาร เราจึงจะเห็น “โครงสร้างเหล็ก” ตามเสาและขอบประตูซึ่งเป็นปกติของรถขนของราคาประหยัดแบบนี้ ซูซูกิย้าย “คันเกียร์”จากตรงเบาะนั่งติดคนขับมารวมอยู่คอนโทรลกลาง ทำให้พื้นที่ใช้นั่งมีพื้นที่มากขึ้นห้องโดยสารเคลียร์ขึ้น
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือพนักพิงศรีษะ 2 ตำแหน่ง คนขับและคนโดยสารมีที่วางแก้วน้ำ ตรงฝั่งคนขับ ในขณะทีคนโดยสารมีกล่องเอนกประสงค์แบบไม่มีฝาปิดไว้ใ้ห้ใช้งาน มือจับสำหรับโหนมีให้2 ฝั่งซ้ายขวาแต่ไปติดอยู่ที่เสาเอ เวลาใช้งานไม่ค่อยลงตัวมันควรจะติดไว้ที่เพดาน ชิดขอบประตูหลังคา สิ่งที่ชอบในห้องโดยสารคือพื้นที่วางเท้ากว้างและเรียบยาวจาก ซ้ายไปขวาโดยไม่มีซุ้มเกียร์มาคั่นกลาง แบบกระบะ1 ตันทั่วๆไป
” เวลาใช้งานจริงบางครั้งอุปกรณ์ทำงาน เช่น กล่องเครื่องมือ กระติกน้ำ โน่นนี่นั่นมันจะมาเยอะเราสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่วางนี้ได้ “
เบาะนั่งคนขับปรับเลื่อนได้เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่เพิ่มมาในแครี่ใหม่แม้มันจะยกสูงต่ำไม่ได้ ซึ่งก็ไม่จำเป็นสำหรับรถที่ออกแบบท่านั่งแบบเก้าอี้ แต่การเคลื่อนได้ระยะหน้า-หลัง ขยับแล้วท่านั่งดีขึ้น การนั่ง ฟังก์ชั่อื่นๆที่เพิ่มมาในห้องโดยสาร จากเดิมไม่มี คือ ลำโพง 2 ตำแหน่ง เครื่องเล่นวิทยุและMP3 ช่องเชิ่อมต่อUSB และAUX ช่องจ่ายไฟสำรองบริเวณคอนโซลหน้า ส่วนต่างๆ ที่เพิ่มมาถือเป็นมาตรฐานของรถยนต์ที่ควรจะมีในยุคปัจจุบันเพราะ มี อุปกรณ์เชื่อมต่อที่ต้องการไฟฟ้า12V ซัพพอร์ตมากมายและการมีวิทยุที่รองรับ USB ก็ช่วยให้เข้าถึงความบันเทิงมากขึ้นแต่อย่างไรก็ตามตัวรถยังไม่มีบลูธูทมาให้
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลสำคัญระหว่างGD(เก่า) กับ HD(ใหม่)
รายละเอียด | All New CARRY 1.5L MT | CARRY PICK-UP 1.6L |
---|---|---|
ระหัสตัวถัง | HD | GD |
ภาษีสรรพสามิต | 0.02 | 0.025 |
ราคา | 385,000.00 บาท | 369,800.00 บาท |
อัตราการปล่อยก๊าซ CO 2 (กรัม/กม.) | 173 | 193 |
กินน้ำมันเฉลี่ย (ลิตร/100 กม.) | 7.5 | 8.2 |
นอกเมือง(ลิตร/100 กม.) | 9.3 | 10.6 |
ในเมือง (Urban) (ลิตร/100 กม.) | 6.4 | 6.7 |
ปีที่เริ่มผลิต (Start of Production Year) | 2019 | 2005 |
โรงงานผู้ผลิต | PT SUZUKI INDOMOBIL MOTOR | PT. SUZUKI INDOMOBIL MOTOR |
ประเทศที่ผลิต | อินโดนีเซีย | อินโดนีเซีย |
เครื่องยนต์ | เบนซิน K15B (E20)1462cc | เบนซินG16A 1590 cc. |
ประเภทเชื้อเพลิงที่ใช้ได้ | เชื้อเพลิงผสม | เชื้อเพลิงเดี่ยว (เบนซิน) |
ระบบเกียร์ | เกียร์ธรรมดา 5สปีด | เกียร์ธรรมดา5สปีด |
เบรก | เอบีเอส | ไม่มีเอบีเอส |
ความกว้างของรถยนต์ (มม.) | 1765 | 1680 |
ความยาวของรถยนต์ (มม.) | 4195 | 4155 |
ความสูงของรถยนต์ (มม.) | 1910 | 1895 |
ขนาดยางล้อ | 165/80R13 | 185/R14C |
น้ำหนัก(กก.) | 1045 - 1065 | 1065 |
- ฐานล้อสั้นลง อีก420 มม สั้นลงไปถึง 19 % ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงมากแบบนี้เมื่อเทียบสัดส่วนความกว้างและความยาวแล้วจะเห็นว่ารถดู กว้างแต่สั้นลง ทั้งที่จริงๆ แล้วตัวรถโดยรวมยาวขึ้น40มม ในขณะที่ความสูงลดลง 5 มม.
- ความสูงของตัวรถจากพื้น 1910 มม.ลดไป5มม หรือประมาณ 0.26% นั้นซึ่งแทบจะสังเกตุไม่ได้และไม่มีผลต่อหลังคา และระยะของรถเมื่อต้องลอดทางต่ำ
ความสูงพื้นบรรทุก
วิธีการใช้รถแบบนี้การบรรทุกคือหัวใจสำคัญ พื้นที่บรรทุกนั้นได้พัฒนาขึ้นให้มีขนาดใหญ่ขึ้น 15% โดยด้านยาวเพิ่มขึ้น365มม ส่วนด้านกว้างเพิ่มอีก75มม.ส่วนความสูงของขอบกระบะเท่าเดิม พื้นที่ได้เพิ่มจากส่วนของซุ้มล้อหลังที่หายไป พื้นบรรทุกเป็นแบบแบนเรียบซึ่งยกของเข้าออกง่าย นอกจากนี้ถ้าเปิดกระบะ3ด้านแล้ว พื้นกระบะไม่สูงนัก(750มม)ทำให้”ขึ้นของ”คล่องตัว ยิ่งเป็นของที่ต้องใช้คนยกก็ ยกได้จังหวะพอดีไม่ต้องเขย่งหรือโยนของขึ้นไป
ตารางเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
รายละเอียด | เดืม(GD) | ใหม่(HD) | เปลี่ยนแปลง(%) |
---|---|---|---|
ภายนอก(มม) | |||
ความกว้าง | 1680 | 1765 | +5.06 |
ความยาว | 4155 | 4195 | +0.95 |
ความสูง | 1895 | 1910 | +0.79 |
ฐานล้อหน้าซ้าย-ขวา | 1435 | 1465 | +2.09 |
กระบะ(มม) | |||
ความกว้าง | 1585 | 1660 | +4.73 |
ความยาว | 2200 | 2565 | +16.59 |
ขอบกระบะสูง | 360 | 360 | ไม่เปลี่ยนแปลง |
อื่นๆ | |||
ถังน้ำมัน(L) | 46 | 43 | -6.52 |
อัตรากินน้ำมันเฉลี่ย(L/100กม.) | 8.2 | 7.5 | -8.54 |
กำลังเครื่องยนต์(KW) | 68 | 71 | +4.41 |
วงเลี้ยว(เมตร) | 4.6 | 4.4 | -4.55 |
ราคา | 385000 | 369800 | +4.11 |
เครื่องยนต์
กำลังของแครี่ได้มาจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด1.5ลิตรใช้รหัสว่า K15B ซึ่งเป็นเครื่องที่มีอยู่ในจิมมี่และเออร์ติกาเทียบกับตัวเก่าแล้วความสามารถของเครื่องยนต์นั้นดีขึ้นทุกมิติ ตั้งแต่กำลังเพิ่มขึ้นในรอบที่ต่ำลง และแรงบิดที่สูงขึ้นในรอบการทำงานที่ต่ำลง ข้อเด่นของเครื่องตัวนี้คือ มีความไหลลื่น ทำงานเงียบและกำลังดีโดยเอกลักษ์ของซูซูกิคือเครื่องยนต์ที่จัดจ้าน เวลาทำงานรอบจัดไม่รู้สึกเค้นเครื่อง นึกถึงเครื่องมอเตอร์ไซด์รอบจัดๆ ที่ไม่กั๊ก แครี่ได้อารมณ์นั้นเลยทีเดียว แรงบิดของเครื่องเพียงพอที่จะทำให้แครี่ที่มีน้ำหนักตัวเปล่า 1 ตัน พ่วงบรรทุกอีก1 ตันไปได้สบายแถวด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง เครื่องตัวใหม่นี้ถือเป็นจุดเด่นของแครี่เลยทีเดียว การใช้เครื่องเดียวกับรถที่มีในโชว์รูมก็มีส่วนช่วยในเรื่อง ความชำนาญของช่างในการบำรุงรักษา และต้นทุนค่าอะไหล่ต่างๆ ที่จะได้อิโคโนมี ออฟ สเกล
อัตราการกินน้ำมัน 6.52%
มีภาพเก่าของของตัวGD ที่มีการพูดถึงการกินน้ำมันซึ่งสเปคของตัวเดิม เฉลี่ย 8.2ลิตร/100กม.แต่แครี่ตัวใหม่กินน้ำมันลดลง 8.54%หรือใช้น้ำมันอยู่ที่ 7.5ลิตร/100กม.ซึ่งดีขึ้นมากและไม่น่าจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างไร อย่างไรก็ตามอาจจะมีความรู้สึกว่าต้องเติมน้ำมันบ่อยขึ้นเพราะว่า แครี่ตัวใหม่ทำขนาดถังน้ำมันลดลง 6.52%หรือจุน้อยลงไปกว่าเดิม 3ลิตร และแน่นอนว่าหากไปขับกระบะ1 ตันดีเซลมาไม่ว่าตัวรีโว่ หรือดีแมคซ์ที่เขามีขนาด80ลิตรมันคงจะรู้ว่า”น้ำมัน”มันกิน(คนส่วนใหญ่ชอบเอาถังเทียบถัง ทั้งที่มันไม่เท่ากันและเทียบกันไม่ได้)
การควบคุมการขับขี่
ภายใต้การทดลองขับ แครี่ มีน้ำหนักบรรทุกหลังประมาณ1 ตัน นึกว่าจะขับยากและอืดแต่กลับตรงกันข้าม ผมนั่งพร้อมปรับเบาะ เลื่อนประจำตำแหน่ง มือขวาดันกระจกมองข้างให้ได้ระยะ ส่วนข้างซ้ายวานมือเพื่อนให้เอื้อมจัดมุมเพราะว่ากระจกมองข้างไม่มีระบบไฟฟ้า ท่านั่งของการขับขี่ แบบเก้าอี้”สูงขาวางลงไปตั้งฉากเป็นท่านั่งที่ได้มุมมองทั้งหมดรอบๆ พื้นที่บอด ถูกขจัดไปด้วยกระจกหน้าที่กว้างใหญ่ เท้าควานหาแป้นเบรก และคลัชน์ แป้นเหนียบแบบมินิ ได้ตำแหน่งพอดีลองกดดู”คลัชน์นิ่มมาก”แทบจะรู้สึกไม่ได้เหนียบอะไรเลยหรือเพราะว่าผมชินกับ วีโก้IMV1 ที่ว่าคลัชน์เบาแล้ว แต่วีโก้ก็ต้องใช้กำลังอยู่พอสมควร (แต่ยังดีกว่า นาวาร่ากับโคโรลาโด)
พวงมาลัย หมุนลื่นไม่หนัก สัมผัสแรกคือ มันขับง่ายมากผมคิดว่าถ้าภายนอกไม่ใช้กระบะม้างานมันคือการควบคุมรถเก๋งธรรมดาคนหนึ่ง”ผู้หญิง”คงชอบลองเคลื่อนรถด้วยการที่ไม่แตะคันเร่งเลย ซึ่งรถเคลื่อนออกไปได้ง่ายๆหลายคนใช้เกียร์ธรรมดาแบบเคยชินต้องมีคันเร่งตอนออกตัวซึ่งก็ไม่ผิดถ้าเราอยู่ทางชันหรืออยู่ในจังหวะเร่งรีบแต่หากความเร็วต่ำๆ ค่อยๆใช้คลัชน์เป็นตัวควบคุม”การเคลื่อนรถ”แบบไม่ต้องเติมคันเร่งก็สามารถทำได้ยิ่งคนหัดขับรถเกียร์ธรรมดาใหม่ๆ ต้องใช้เทคนิคนี้นั่นคือ คิดว่าการเริ่มต้นความเร็วของรถอยู่ที่คลัชน์ไม่ใช่คันเร่ง ขับซูซูกิแครี่ต้องบอกก่อนว่า หากไม่เคยชับรถที่นั่งอยู่บนล้อต้องปรับตัวเล็กน้อย เพราะว่า มุมมองด้านหน้าจะใกล้ถนนมาก แต่ผมเชื่อว่าท่านจะใช้เวลาปรับตัวไม่นานเพราะว่ารถมันขับง่าย
ถนนที่ทดลองชับซูซูกิเลือกเอา แบบให้มีถนนไฮเวย์ไว้ทำความเร็วนอกเมืองและซิตี้ไดร์ คือ ตัวเมืองฉะเชิงเทราในเมืองนั้นถือว่าถนนแคบๆ คล่องตัวกว่ากระบะ1 ตันอย่างเห็นได้ชัด จะด้วยตัวสั้นกว่าก็ใช่นอกจากนี้วงเลี้ยว 4.4 เมตรจัดว่าแคบแล้วกลับได้ง่ายเมื่อจำเป็น วิ่งในเมืองเบรก บ่อยเร่งบ่อย และต้องปรับเปลี่ยนเกียร์ตามความเร็วการใส่เกียร์ ก็ไม่ยากตำแหน่งคันเกียร์ใกล้คือก้านสั้นกระชับ ใช้ง่าย ที่ความเร็วสูงแครี่ก็ยังไปได้ ความเร็วเดินทางประมาณ 80-100 กม./ชม คือช่วงปลอดภัยสูงสุด แต่หากจะดันไปสูง 120 กม/ชม เราจะรับรู้ถึงกระแสรลมปะทะ และต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
ข้อดีข้อเสีย
แครี่ไม่มีเกียร์ออโต้ให้เลือก สอบถามในขั้นต้นจากผู้บริหารยังไม่มีโครงการออกมาให้เลือกดังนั้น คนขับขี่สมัยใหม่ที่ลืมเกียร์ธรรมดา5 สปีดต้องมาฝึกกันใหม่ซึ่งจริงๆแล้วไม่ยากมากนักสำหรับคนที่ขับรถได้อยู่แล้ว ในส่วนของตัวรถส่วนของวัสดุกรุหลังคาภายใน และวัสดุภายใน เช่นเบาะไวนีล ใช้วัสดุที่ดูราคาถูกแม้อาจจะไม่ใช่สาระสำคัญของรถขนของก็ตามแต่หากได้ดีกว่านี้ก็จะดี ภายนอก รู้สึกว่ามองรถแล้ว”ล้อเล็ก”หน้ายางกว้างน้อยไปทำให้รู้สึกถึง ฐานไม่มั่นคง แม้การขับการเกาะถนนของรถดี แต่ผลกระทบจากหน้ายางเล็กมากนี้ มีผลต่อที่ราวเร็วสูง ส่วนข้อดีคือ ราคาประหยัด คุ้มค่ามาก และคุณภาพซูซูกิเชื่อถือได้
รถนี้เหมาะกับใคร
แครี่เป็นรถขนสินค้า ตลาดใหญ่ของแครี่ที่ผ่านมาคือ”รถฟู๊ดทรัคส์”หรือรถต่อตู่้ขายอาหารเพราะด้วยการรูปทรง และสเปครถเหมาะกับงานแบบขนระยะใกล้ รถนี้เหมาะกับผู้ที่ ต้องการรถไปทำอาชีพหรือต่อยอดธุรกิจ”ราคา”ที่แครี่เสนอมาเมื่อ คิดเป็นต้นแล้วยังพอมี โอกาสทำได้ได้ ทำกำไร เรียกว่า ลงทุนไม่มากคุ้มทุนเร็วกว่าไปถอยกระบะรถตัวใหม่ ตอนนี้ซูซูกิ ดโปรโมท “กู๊ดส์ทรัค” คือ การนำรถไปทำเป็นร้านเคลื่อนที่แบบไม่ได้จำกัดเฉพาะร้านอาหาร มีผู้ซื้อรถบรรทุกนี้ไปทำร้านขายเสื้อผ้า ขายอะไหล่ เรียกว่าหลากหลาย
คำแนะนำการซื้อรถชนิดนี้ไปทำธุรกิจ ต้องคำนวนเรื่อง รายได้ ต้นทุนกำไร ค่าบำรุงรักษารถ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและเรื่องของความพร้อมใช้งาน “ล้อไม่หมุน เงินไม่มา”เป็นข้อพิจารณาเรื่องซื้อรถไปทำอาชีพ
คู่แข่งขัน
ทาทา ซูเปอร์ เอช มินท์ :375,000 บาท
เริ่มจากรถราคาถูกในตลาดทรงเดียวกันคือ ทาทา ซูเปอร์ เอซ มินท์(4ฺB3147) รถกระบะเล็กหนึ่งเดียวที่ใช้เครื่องดีเซลเล็ก 1400cc 70แรงม้าคันนี้ผลิตโดยทาทา อินเดีย ราคา375000บาท ถูกกว่าแครี่โฉมใหม่ 1หมื่นบาทแต่ทาทาตัวเล็กกว่าไปเสียแล้วเมื่อเทียบกับขนาดใหม่ของแครี่ ทาทาจึงไม่ใช่ตัวเลือก ณ.เวลานี้
เกีย K2500:699,000 บาท
กระบะพื้นเรียบ เปิด3ด้านจากเกาหลี เครื่องยนต์ดีเซลใหญ่ 2.5CRDi ให้กำลัง96KW มากกว่าแครี่ถึง35.21% เกียน่าจะไม่ใช่คู่แข่งตรงๆ เพราะดูราคาแล้ว ต้องจ่าย699,000บาทสูงกว่า แครี่ 55.08% หรือเป็นเงิน 314,000บาทเพิ่มอีกนิดได้แครี่ใหม่เพิ่มอีกคัน
บทความนี้เขียนโดย ยุทธพงษ์ ภาษี อนุญาตให้นำไปเผยแพร่แบบฉบับเต็ม กรุณาอย่าตัดต่อขอบพระคุณอย่างสูง
LAST POST
- วิเคราะห์ความท้าทายญี่ปุ่น VS จีน ใครจะเข้าวินโลกยานยนต์ยุคใหม่?
- แกะรอยโตโยต้า รีโว่ 2025 ใกล้เปิดตัวใหม่ทั้งหมดหรือไม่?
- รู้ก่อนประหยัดก่อน ฟอร์ดหั่นราคากระบะ SUV 4 รุ่นลด 13% เจาะตลาด มอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2024
- ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นย่อย 2.4 Leader S หั่นราคาลง13% เริ่มต้น 1.239ล้าน
- ทีเค ถอนทัพเช่าซื้อจากตลาดเมียนมา หลังเจอเหตุการณ์ไม่สงบ
- มาสด้า CX-5 SUV สายหล่อผู้บุกเบิกเทคโนโลยีสมัยใหม่
- MG3 ใหม่ ตัดเกรดความปลอดภัยเพียง 3 ดาว ทดสอบการชนล่าสุด
- กลุ่มธุรกิจเรเว่จัดทัพผู้บริหารพร้อมขับเคลื่อนประเทศสู่ NEV Nation เต็มรูปแบบ
- นักแข่ง Red Bull KTM Factory Racing โชว์ฟอร์มซิ่งรถกระแทะ
- มิตซูแตกไลน์ SUV พัฒนา DST ใหม่เจาะรถ 7 ที่นั่งขายจริงปี 2568
- TK แนะผู้บริโภคเปรียบเทียบ “เช่าซื้อ” กับ “รถเช่า” ทางออกช่วงไฟแนนซ์เข้มสินเชื่อ
- เกรท วอลล์ รุกงานบริการเปิดศูนย์ซ่อมสี 6 แห่งรวด
- อัพเดทสองล้อฮอนด้า ไฟฟ้า 2025
- มาสด้า ออสเตรเลียเปิดตัว “BT-50” ใหม่
- มินิ แลนด์ครูสเซอร์ (ไฮลักซ์ แชมป์ SUV)
- GIIAS 2024 โลกตะวันออกต้องกล่าวถึง อินโดนีเซีย มอเตอร์โชว์
- เบนซ์ จัดแคมเปญบริการ มอบส่วนลดสินค้ากลุ่มแบตเตอรี่
- มาสด้ามัดใจลูกค้าเก่าขับเกิน 100,000 รับคูปอง 1,000 บาท
- อีซูซุ ทำถึงไหม?กับ กระบะดีเซล ไฮบริดตัวแรกของตลาดไทย Isuzu D-MAX MHEV 2025
- อีซูซู เปิดขาย ดีแมคซ์ไฮบริด ดีเซล 1.9
- เปิดตัวคัมรี่ใหม่ ราคาเดิม ตัดเครื่องยนต์เหลือแต่ไฮบริด เล็งขาย1หมื่นคัน/ปี