ปักกิ่ง -มองโกเลีย สวรรค์แห่งทุ่งหญ้า 1

- Advertisement -
- Advertisement -

ปักกิ่ง -มองโกเลีย ระยะในใบนำทาง 2,200กิโลเมตร งานนี้ท้าทายกว่างานไหนๆ เส้นทางที่รอการพิสูจน์ให้สมกับสโลแกนมาสด้า บีที 50 โปรใหม่ ที่ว่า TOUGH AS LIFE “นิยามแกร่ง…คุณเท่านั้นที่กำหนด” Day1 กรุงเทพ-ปักกิ่งสู่มองโกเลียใน

Advertisements

หลังได้รับคำเชิญจากมาสด้า กับโปรเจ็คของผอ.อุทัย(ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์มาสด้าไทยแลนด์)นั่นคือการตั้งใจนำรถจากเมืองไทย ไปทดสอบกันในเส้นทางที่ท้าทายยาว ๆอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

เตรียมตัวเดินทาง

ดูกำหนดการเดินทางและรายละเอียดที่มาสด้าให้มา ทำให้ต้องทำตังเองให้พร้อมเพราะว่า จากรายละเอียดที่ต้องเดินทางไปนานกลางทุ่งหญ้า สเต็ปของทะเลทรายโกบีเอกสารแนะนำบอกว่าให้เตรียม ที่ชาร์จไฟ ผ้าเช็ดตัวไปเพราะว่าต้องนอนในกระโจมที่พักซึ่งจะดับไฟในตอนกลางคืนและที่อาบน้ำนั้นเป็นห้องน้ำแยก แน่นอนครับนักเดินทางอย่างเราไม่ต้องเตรียมตัวมาก ผมทำตัวเหมือนอยู่บ้านมีแต่เสื้อผ้า เท่านั้นที่ต้องเอาไปเผื่อ ถุงเท้าเอาไปมากหน่อยเพราะอยู่หลายวันและเผื่อเปียกเพราะสภาพอากาศจากที่มีประสบการณ์เดินทางมันโดนแน่ เรื่องฝน ขี้โคลน ยิ่งทีมจัดการคือทรานเอเซียฯในฐานะออกาไนซ์เซอร์ดูเหมือนแกชอบแถมออฟชั่นในบรรดาสมาชิกคาราวานได้มีเรื่องให้ท้าทายเสมอ โดยเฉพาะเรื่องกินข้าวไม่ตรงเวลา ทางวิ่งที่คาดเดาไม่ได้
“ผมเตรียมตัวเดืนทาง เหมือนไปออฟโรด และแคมปิ้ง มีไฟฉาย รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้น “ส่วนของการขับรถ ผมคว้าถุงมือขับรถ ของเทยิ่น(Tein) ติดมือไปด้วยเพราะว่า มันจะช่วยให้เราขับรถถนัดมือในช่วงที่อากาศเย็นๆ นอกจากนี้ก็มีถุงคุมหัวแบบถุงที่นิยมใช้กันตรงนี้ ก็เอาที่เคยใช้ในการขี่มอเตอร์ไซด์ยี่ห้อ OJ  ซื้อมาจากอิตาลีติดมือไป และทางมาสด้าให้ผ้าคลุมหน้ามาเป็นอุปกรณ์ประจำกายอีก 1 ผืน
รายงานข่าวจากCNNเรื่องอากาศ บอกว่า ไม่หนาวมากแค่10กว่าองศา อย่างนี้ไม่ถึงกับแจ๊คเก็ตขนเป็ดคู่กาย ที่ลุยธิเบตมาแล้วเอาแค่ เสื้อเจตเก็ตยูนิโค มีฮูดครอบหัว อันนี้สำคัญมากสำหรับการไปประเทศที่มีฝนและหนาว เสื้อด้านในเป็นเสื้อผ้าสำลี ของเคแคตรอน ก็ซื้อมาจาก ร้านเคแคตรอนใต้อาคารบางนา ทาวเวอร์ ร้านนี้ผมชอบไปซื้อของเพราะว่าสีอุปกรณ์ เสื้อผ้า สำหรับเอาท์ดอร์ให้เลือกเยอะดี แม้ช่วงหลังราคาของจะแพงขึ้นพอสมควร

สุวรรณภูมิ -ปักกิ่ง
เรียบเรียงของยัดใส่กระเป๋าเดินทางใบเก่าใบเก่งที่รับใช้ผมมากว่า15ปีไปกับผมทุกที่อย่างอื่นเปลี่ยนไปแต่กระเป๋ายังอยู่แถมมันไม่เคยเกเรหรือพังล้อหลุด เอาประเป๋าใหม่ๆ ไปพังหมดเสียดายของ คืนนี้นั่งเครื่องไปยังเป้าหมายคือปักกิ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการทดสอบ รถมาสด้าบีที-50 โปรได้รับการขับส่งโดยทีมงานจากเมืองไทยไปรออยู่ที่นั่นแล้ว ผมไปสนามบินโดยบริหารของมินนี่เจ้าของไดร์ฟ ออโต้ บล็อคเวบไซด์น้องใหม่ของวงการ สรุปง่ายคือ อาศัยโบกรถเขาไปมีน้องเบิร์ด เป็นสาระถีให้ พอถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้คนมากมายก็เข้าไปทำขั้นตอนการเช็คอินที่เคาร์เตอร์สายการบิน แอร์ไซน่า งานนี้ได้ไมล์สะสมเล็กน้อยเพราะว่าเขาอยู่ในเครือสตาร์อัลไลแอนซ์ ผ่านตม.ไทยเรียบร้อยรอเครื่องขึ้นกำหนดถึงปักกิ่ง ประมาณ4ชั่วโมงถึงเช้าตรู่และลงเครื่องเช้าที่ปักกิ่งแล้วก็ ออกรถมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเลยทีเดียว
สวัสดีปักกิ่ง
ผมนอนบนเครื่องบินจากเมืองไทยหลับๆตื่นๆพอเช้าเครื่องเข้าจอดที่จีน ซึ่งเร็วกว่าไทย1ชั่วโมง บรรยากาศของสนามบินผมคุ้นเคยดีมากเพราะ เคยมารอเครื่องบินที่ดีเลย์แล้วดีเลย์อีกที่นี่เกือบ12ชั่วโมงตอนที่มาดูงานของเบนซ์ ที่เมืองจีน วันนี้มาถึงแต่เช้าตู่ ตม.จีน ยังงัวเงีย กว่าจะเดินผ่านตก.ของปักกิ่งเล่นเอาเกือบหลับเพราะคนเข้าจีนมากมายเหลือเกิน จากนั้นเราพบกับทีมงานของทรานเอเซีย ต้อนเราขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปยังจุดจอดรถที่ห่างไปราวครึ่งชั่วโมง พอถึงรร.บรรยากาศฝนโปรยเม็ด เรากินอาหารเช้ากันแบบไม่เคยชินเป็นมื้อแรกเพราะว่าเมนูข้ามต้ม แบบจีน หมั่นโถไม่เข้าพวกที่ผมคุ้นหน้า คือไมชอบเลย ไปมาหลายประเทศแต่ทานทางฝั่งจีนแบบง่ายๆ แบบนี้ไม่ไหว พอทานข้าวเช้าเสร็จภายใต้เวลาอันน้อยนิด ทีมงานต้องรีบออกรถ หลายคนตุนหมั่นโถ ไข่ต้มติดกระเป๋าเพราะว่า ช่วงแรกเดินทาง 700 กิโลเมตร แม้เป็นถนนดำล้วนๆ แต่ทางที่ยาวแบบนี้ต้องวิ่งไม่หยุด หยุดก็น้อยทุกอย่างต้องทำกันอยู่ในรถ
หลังจากคาราวาน เคลื่อนออกจากที่จอดทีมงานทรานเอเซียฯก็นำทางเพื่อไปขึ้นทางด่วนเพื่อตัดผ่าน เมืองปักกิ่งซึ่งต้องผ่านหลายด่านเก็บเงิน ด่านต่างๆ ก็ผ่านมาแล้ว ปรากฏว่า มีด่านหนึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ผ่านทางด่วน รถกว่า10คันก็จอดคาป้อมจ่ายเงิน เดือนร้อน ตำรวจมาเครียร์ทางแต่ก็ไม่ได้การยินยอม บอกว่า ทางการจีนห้ามรถบรรทุกผ่านเข้าเมืองในช่วงพิธีสำคัญคือการสวนสนาม ใหญ่ประจำปี ลำบากเลยคราวนี้เพราะว่าต้องวิ่งอ้อมหาทางไปขึ้นทางด่วนที่อื่นๆ แน่นอนการขับในถนนโลคอลของจีน สนุกเป็นไหนๆ เพราะว่า เราไม่อยากให้ขบวนขาด ทางรถท้องถิ่นก็จะแซงตรงนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ ฝีมือ ไม่งั้นก็ตามคาราวานไม่ทัน แม้จะมีรถปิดท้ายแต่มีโอกาสหลุดผิดทางไป  แต่สุดท้ายเราก็หาทางขับไปตามทางที่วาแผนไว้
อินเนอร์มองโกเลีย
เส้นทางระหว่าง ปักกิ่ง ไปชายแดนมองโกเลีย ถือว่า ขับสบายๆ มาเพราะเป็นทางไฮเวย์ล้วนๆ บางช่วงเกือบหลับเพราะว่า ไม่มีรถสวนไ่ม่มีรถตาม ทางสี่เลนคงไม่มีรถสวนแน่นๆ แต่รถตามก็ไม่มีนี่สิ ทำให้นึกว่าเขาใช้เส้นทางนี้กันหรือเปล่า พอถึงชายแดน มองโกเลีย เราก็ตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมจากป่าแบบบ้านเราเป็นทุ่งหญ้าสุดตาและมีแท่นเจาะน้ำมันให้เห็นเป็นระยะรวมถึง โรงงานไฟฟ้าจากกังหันลมและเรามองเห็นโรงงานประกอบกังหันลมขนาดยักษ์สองข้ามทางด้วย แถมด้วยรถขนส่งกังหันที่ใหญ่และยาว และก่อนถึงรร.เราต้องตื่นตาตื่นใจกับ ไดโนเสาแลกลิ้น เป็นรูปปั้นไดโนเสายื่นคอคล่อมถนนเแสดงให้เห็นถึง ดินแดนของไดโนเสาที่มีการขุดค้นพบไดโนเสามากสุด คืนนี้คาราวานเข้าสู่ที่พักด้วยความปลอดภัย เราขอนอนฝั่งจีนก่อน (มองโกเลียใน)เพราะว่า พรุ่งนี้งานหนักช่วงแรก คือ การทำพิธีผ่านแดน ออกจากแผ่นดินจีน ไปมองโกเลีย มีข่าวว่าเชาใช้เวลานานมากทำให้กำหนดการตื่นต้องลุกกันแต่เช้าเป็นพิเศษ เจอกัน8โมงเช้า แบบมีลุ้น[fblike]

Advertisements
- Advertisement -

Related news

- Advertisement -
Exit mobile version