ทีม นักขับไทย 3 คน นำโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ-ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ คู่หูจาก อาร์โต้-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ และ กันตธีร์ กุศิริ จาก เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต พร้อมเต็มร้อยลุยศึก “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018” เผยรถแข่งสมบูรณ์กว่าทุกครั้ง สร้างความมั่นใจให้ทีมอย่างมาก ตั้งเป้าพาธงชาติไทยฉลองโพเดี้ยมโฮมเรซในสุดสัปดาห์นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลกรายการ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 เตรียมระเบิดความมันส์เป็นปีที่ 5 ในแผ่นดินไทยระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-1 กรกฎาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยล่าสุดทีมแข่งทุกทีมได้นำรถแข่งทั้งในรุ่น จีที500 และ จีที300 เข้าเซ็ตอัพในพิตเป็นที่เรียบร้อย
โดยในปีนี้มีทีมแข่งไทยลงดวลความเร็วในบ้านเกิดถึง 2 ทีม นำโดย อาร์โต้-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ซึ่งลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยการขับของคู่หูจอมเก๋าอย่าง ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ รวมถึงทีมที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดอย่าง เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต ขับโดยดาวโรจน์ชาวไทยอย่าง กันตธีร์ กุศิริ และทีมเมทชาวฝรั่งเศส แม็กซิม จูสส์
ล่าสุด บรรดานักขับทั้งหมดในศึก ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ ได้ลงทำการเดินสำรวจแทร็กเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันอย่างพร้อมเพรียง รวมถึงนักขับไทยทั้ง 3 คน ที่ต่างก็ทำงานร่วมกับทีมอย่างหนักเช่นกัน
ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ เผยว่า “หากเทียบกับปีที่แล้วทีมของเราลงตัวขึ้นมากครับ เราสามารถลดช่องว่างระหว่างรถคันอื่นๆ ใน จีที300 ได้เยอะมาก ตอนนี้เวลาต่อรอบตามหลังกลุ่มหน้าไม่มาก แต่คงต้องรอดูผลการซ้อมครั้งแรกในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ก่อนจะวางแผนขั้นต่อไป ผมคิดว่าเราจะต้องผ่านควอลิฟายแรกให้ได้ เชื่อว่าศักยภาพตอนนี้ไปถึงท็อปเท็นได้ไม่ยาก ส่วนแผนการทำงานจะต้องเป็นตามขั้นตอนไปก่อน และวิเคราะห์ในทุกๆ ช่วงของการลงซ้อม เชื่อว่าจะได้เห็นผลงานดีๆ ในสนามช้างฯ ครับ”
ด้าน ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ กล่าวว่า “ในปีนี้มีความพร้อมมากขึ้นกว่าปีที่แล้วซึ่งเป็นปีแรกที่ลองผิดลองถูกกับการแข่งขันแบบเต็มฤดูกาล รถแข่งที่ใช้ก็ลงตัวมากขึ้น มีการเซ็ตอัพที่เหมาะกับสนามต่างๆ มากกว่าเดิม รวมถึงตัวนักขับทั้งผมและพี่ณัฐวุฒิ ก็ทำได้ดีขึ้นตามลำดับ เราทำเวลาต่อรอบได้เร็วกว่าปีที่แล้วใน 3 สนามแรก เร็วกว่าเดิมถึง 1 วินาทีเศษๆ ในทุกสนาม ทำให้มั่นใจว่าการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศไทย ค่อนข้างมีลุ้นเลยทีเดียว ผมคิดว่าเราจะติดท็อปเท็นได้ ส่วนการลุ้นโพเดี้ยมขึ้นอยู่ที่จังหวะและเกมการแข่งขันที่อะไรก็เกิดขึ้นได้”
ขณะที่ กันตธีร์ กุศิริ วัย 25 ปี ซึ่งได้รับโอกาสจากทีมลงแข่งขันในศึก ซูเปอร์ จีที เป็นครั้งแรกในชีวิต เปิดเผยว่า “เป็นครั้งแรกของผมกับ ซูเปอร์ จีที ครับ ในฐานะนักแข่งรถที่คือรายการในฝันที่นักขับทั่วโลกอยากลงแข่งสักครั้ง ฉะนั้นนี่ก็เหมือนฝันที่เป็นจริงเลยก็ว่าได้ ความพร้อมตอนนี้ร่างกายเต็มร้อย ส่วนรถแข่งของเราซึ่งใช้ เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที3 ถือว่าพร้อมมากครับ ล่าสุดทีมได้ทดสอบยางมิชลินถือว่าทำเวลาต่อรอบได้ค่อนข้างคงที่”
“เราเดินทางมาถึงที่นี่ด้วยความมั่นใจ ผมกับ แม็กซิม (ทีมเมท) ร่วมงานกันมาเกือบ 1 ปี โดยเขาเป็นเทรนเนอร์ในทีมและแข่งขันในระดับนานาชาติหลายรายการ และจากเวลาที่ทำได้กับรถคันนี้ในรายการอื่น ผมเชื่อว่าเราจะติดท็อปเท็นอย่างแน่นอน แต่ในการแข่งขัน ซูเปอร์จีที มีตัวแปรหลายอย่างมากๆ ผมเองตั้งเป้าขอขึ้นโพเดี้ยมในบ้านเกิดให้ได้ครับ และคิดว่าเรามาโอกาสทำผลงานได้ดีต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทย” กันตธีร์ กล่าว
ส่วน แม็กซิม จูสส์ นักขับฝรั่งเศสในทีม เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต เผยว่า “สุดสัปดาห์นี้เรามีความพร้อมค่อนข้างมาก ผมทำงานกับรถแข่งคันนี้มาตั้งแต่ต้นปีกับการแข่งขันในรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ทำให้มั่นใจว่าจะสู้กับทีมระดับหัวแถวใน จีที300 ได้ ผมพร้อมทำเต็มที่เพื่อช่วยให้ทีมไทยก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของเอเชียรวมถึงในรายการนี้ แม้จะเคยลงแข่งขันที่นี่ไม่บ่อยนัก แต่ทีมของเราก็มีข้อมูลที่นี่ค่อนข้างมาก เป้าหมายของเราคือพาทีมไทยขึ้นโพเดี้ยมครับ”
สำหรับการแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมครั้งแรกในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จากนั้นจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมนี้ เวลา 15.00-17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ผู้สนใจเข้าร่วมชมการแข่งขันยังได้พบกับ ช้าง เจแปนีส สตรีท เฟสติวัล ( Chang Japanese Street Festival ) ได้ชมและชิมอาหารญี่ปุ่น, แฟชั่นโชว์ คอสเพลย์, โชว์ cover dance สุดมันส์จาก บีสตาร์ทีม ที่มียอดวิวหลักล้าน ทางยูทูป,ไขตู้ชากาปอง,กิจกรรม ศึกชิงแชมป์จ้าวนักกิน ชิงเงินรางวัลรวม 20,000 บาท พร้อม ช็อปปิ้ง สินค้า ญี่ปุ่นมือสอง มากมาย ยกเมืองญี่ปุ่น มาไว้ที่บุรีรัมย์ บริเวณหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต”