ข้อมูลนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้สนใจงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” หรือ “Motor Expo 2024” ที อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ใช้เป็นคู่มือในการเดินชมงานซึ่งจะทราบถึงไฮไลท์ของค่ายรถแต่ละแบรนด์ หวังว่าการย่อยข้อมูลเหล่านี้ จะทำให้ผู้ชมสะดวกสบายมากขึ้น
สามารถเข้าชมงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 จัดโดยสื่อสากลได้ รอบประชาชนทั่วไปเริ่ม29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2567 ประตุเปิดเวลา 12 .00 น. ค่าบัตรผ่านประตู 100 บาท แผนที่เดินทาง Click ที่นี่
AION
แบรนด์ AION จาก GAC Motor โดยบริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดรถที่จองพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ3 ของงานรองจาก บีวายดีและโตโยต้า ไอออนนั้นเตรียมจัดแสดงรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 ด้วยการประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า AION V (2nd Generation) ค่าย AION ยังเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเตรียมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ระดับซูเปอร์สตาร์ซึ่งยังคงเป็นปริศนาว่าจะเป็นใคร AION V เป็นรถ C-SUV ไฟฟ้าระดับลักชัวรี ขับเคลื่อนล้อหน้าโดยมีคู่แข่งคือรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์อย่าง Kia EV5 , Geely EX5 และ Deepal S07
Aion V มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว มีมอเตอร์ไฟฟ้าให้เลือกถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ มอเตอร์รุ่นกำลังไฟฟ้าปกติ 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) แรงบิด 240 นิวตันเมตร และ มอเตอร์รุ่นกำลังไฟฟ้าสูง 224 แรงม้า (165 กิโลวัตต์) แรงบิด 240 นิวตันเมตร ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี 3C สถาปัตยกรรมการชาร์จ 400 โวลท์ ซึ่งใช้วัสดุซิลิคอนคาร์ไบด์เป็นครั้งแรกในรถยนต์ไฟฟ้า
แบตเตอรี Lithium iron phosphate battery แบบ Magazine Battery 2.0 ออกแบบใหม่โดยเฉพาะ มีความจุ 75.3 ให้ระยะทางวิ่ง 602กม.(NEDC) หรือ 650 (ตามมาตรฐาน CLTC) สามารถชาร์จไฟ 0-60 % ภายใน 15 นาที วิ่งได้ไกลถึง 370 กม. รองรับ V2L สูงสุด 3.3 กิโลวัตต์ ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 7.9 วินาที ราคาจำหน่าย 1.09 ล้านบาท นับเป็นการปรับกลยุทธ์ที่น่าสนใจของ AION ในการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยทำราคา รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงในราคาที่เข้าถึงได้
ค่าย AION ยังมีรถยนต์ทำตลาด 2 โมเดล 3 รุ่นเข้ามาแสดงคือ รถแบบเอนกประสงค์(SUV) AION Y Plus ที่ออกจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรก เมื่อ 9 ก.ย.2566 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ
1.AION Y PLUS 490 Elite ราคา 995,900.00 บาท (ความจุแบตเตอร์รี่ 63.2)
2.AION Y PLUS 550 Ultra ราคา 1,069,900.00 บาท(ความจุแบตเตอร์รี่ 68.2)
3.AION ES รถซีดาน ราคา 846,000.00 บาท
ราคาขายปัจจุบัน ลดราคาลงตามนี้
1. Aion Y Plus 410 Premium 859,900 บาท
2. Aion Y Plus 490 Elite จาก 1,069,900 เหลือ 899,900 บาท
3.Aion Y Plus 490 Premium จาก 1,099,000 เหลือ 949,900บาท
AION กำลังพยายามสร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันสูง ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ หรูหราในราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งก็หมายความว่า ไอออนนั้นลดราคารถยนต์ของตัวเองลงมาอย่างต่อเนื่อง ณ. เวลานี้ และราคานี่เอง อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้ ไอออนสามารถเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยได้อย่างมั่นคงมากขึ้่น
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์หนึ่งที่น่าจะไปต่อยากหน่อยนั่นคือ AION HYPTEC รถใหม่ในงานคือ SSR ราคา 7.999ล้านบาท รถคันนี้รู้จักกันในฐานะ รถซูเปอร์คาร์ คันแรกที่ผลิตขายจริงจากจีน มอเตอร์ให้กำลัง 1000 แรงม้า
ส่วนอีก2 รุ่น คือ HYPTEC HT 620 PREMIUM ราคา 1.449ล้านบาทและตัวทอปไลน์ HYPTEC HT 620 LUXURYราคา 1.749ล้านบาท
AUDI
ค่ายAudi เตรียมจัดแสดงรถหลากหลายรุ่นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 มากกว่า 20 คัน รถใหม่ในเวทีนี้คือ Q6 e-tron
Audi ประเทศไทย เตรียมครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ที่จำหน่ายในตลาดไทย ตั้งแต่รถยนต์หรูในกลุ่มซีดาน, เอสยูวี, สปอร์ตคาร์ ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า รวมรถแสดงกว่า 20 คัน รถที่น่าสนใจ ดาวเด่นของบูธ Audi ในปีนี้คือ Audi Q6 e-tron รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวตลาดโลกไปเมื่อเร็วๆ นี้ มาพร้อมเทคโนโลยีและสมรรถนะล้ำสมัยระยะทางการขับขี่ วิ่งได้ไกล 600 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม (WLTP) รองรับระบบชาร์จด่วนที่ใช้เวลาเพียง 22 นาที ในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% – 80% Audi Q6 e-tron พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ Premium Platform Electric (PPE) ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ, จอแสดงผลแบบ 3D และการเชื่อมต่อแบบดิจิทัล ส่วนรถอื่นๆ ที่น่าจับตาคือ A8 L ซีดานหรูระดับเรือธง Audi Q8 e-tron เอสยูวีไฟฟ้าสมรรถนะสูง Audi RS e-tron GT สปอร์ตคาร์ไฟฟ้าสุดเร้าใจ Audi TT และ R8 สำหรับสายสปอร์ตคาร์ ส่วนโปรโมชั่น AUDI ร่วมมือกับการบินไทย จองรถรับไมล์สะสม 1ล้านไมล์ เทียบได้กับไปยุโรป 5เที่ยว เอเซีย 11 เที่ยว
BMW /MINI
บีเอ็มดับเบิลยู และมินิในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีล่าสุด โดยการเปิดตัวรุ่นใหม่และไฮไลท์สำคัญดังนี้
-BMW X3 ใหม่ การผสานพลังและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2567 มาพร้อม ระบบปฏิบัติการ OS9 ใหม่ล่าสุด ออกแบบให้ใช้งานง่ายและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ในยุคดิจิทัล ระบบเชื่อมต่อที่ล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
-BMW M5 เจเนอเรชันที่ 7 ระบบขับเคลื่อน M-PHEV (Plug-in Hybrid) อันทรงพลัง จากแรงบิดสูงสุดถึง 1,000 นิวตันเมตร ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุดและความยั่งยืนไปพร้อมกัน
-BMW M4 เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง 550 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 302 กม./ชม. (จำกัดความเร็ว) การออกแบบที่เน้นความสปอร์ต พร้อมเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อการขับขี่ที่สนุกและปลอดภัย
MINI
Countryman โฉมรุ่นใหม่ เป็นการเปิดตัว ขุมพลังสันดาปภายใน ต่อยอดจาก MINI EV ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้เจ้าของ MINI สามารถเพิ่มออปชั่นได้หลากหลาย เครื่องยนต์ และสมรรถนะ MINI Countryman S ALL4 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ / 204 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวทันเมตร 2รุ่น ย่อย คือ Classic และ Hightrim อัตราการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ที่ 7.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 228 กม./ชม.
BYD/Denza
การจัดแสดงของ BYD และ Denza ครั้งนี้เน้นความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป จนถึงการใช้งานเชิงพาณิชย์และรถในตลาดพรีเมียม เวทีบีวายดีแบ่งออกเป็น 3 เช็คชั่นคือ รถไฟฟ้า(BEV) รถคอมเมอร์เชียล และระดับพรีเมี่ยม”เดนซ่า” รถใหม่คือ BYD S07: จะเปิดตัวพร้อมเปิดราคาอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก พร้อมแคมเปญ “เออรี่เบิร์ด” สำหรับผู้ที่จองล่วงหน้า โดยเสนอราคาพิเศษพร้อมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม รถคอมเมอร์เชียล เปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในไทย เช่น:แทกซี่ BYD e-Bus: รถโดยสารไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับการขนส่งสาธารณะ e-Mixer: รถผสมปูนไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในงานก่อสร้าง หัวลากไฟฟ้า (Electric Tractor Head): เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าหนัก
ส่วนแบรนด์ Denza เปิดตัวแบรนด์ไปเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยเปิดตัวรถ Denza D9 เป็นรถตู้หรือรถ MPV ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวหรืองานผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในและความสะดวกสบาย DENZA D9 นั้นเป็นโมเดลแรกอย่างเป็นทางการสำหรับ ตลาดประเทศไทย โดยมีจำหน่าย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และ DENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท ส่วนรถใหม่ในเวทีคือ รถครอสโอเวอร์ (Crossover) อย่าง DENZA N7
DEEPAL/AVATA
ฉางอาน ค่ายที่เป็นเจ้าของรถหลายแบรนด์ซึ่งในงานจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ตามแผนการรุกตลาด EV ในไทย โดยรถใหม่ในงานของแบรนด์ Avata คือ รุ่นAvata 11 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกันยายน 2567 ที่ผ่านมาส่วนแบรนด์
ส่วนดีพอลจะเปิดตัวรถ E07 ซึ่งเป็นSUV แปลงร่างได้ โดยรถรุ่นนี้ในจีนชื่อว่า Changan Qiyuan Nevo E07 (ฉางอัน ฉีหยวน นีโว อี 07) เผยโฉมครั้งแรกในงาน Beijing Auto China 2024 โดยในไทยจะจำหน่ายในแบรนด์ DEEPAL E07 ซึ่งเป็นรถSUV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ามาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัยและความสามารถในการ “แปลงร่าง” คือ สามารถเปิดท้ายเป็นกระบะได้ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันหรือการใช้งานได้หลากหลาย
DEEPAL E07 ใช้แบตเตอรี่ 800V ขนาด 90 kWh วิ่งระยะ 650 km. มอเตอร์คู่ให้กำลัง 598 แรงม้า โดยรุ่นที่ทำตลาดในไทยมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีกำลังสูงสุด 342 แรงม้า 252 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 365 นิวทันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที แบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน ขนาด 89.98 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 640 กม. (NEDC)
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) มีกำลังสูงสุด 598 แรงม้า 440 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 645 นิวทันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.96 วินาที แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 89.98 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 590 กม. (NEDC) กระแสไฟฟ้าสูงสุดในการชาร์จแบบ DC 240 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จ 30-80 % ภายใน 15 นาที
FORD
ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ที่สำคัญอีกครั้งนั้นคือ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT กระบะV6เบนซิน เรซซิ่ง สไตล์ 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ4A พร้อม ทีเอ็มเอส(Terrain Management System) เปิดรับจอง จำกัด 200 คัน ราคา 1.749 ล้านบาท
สำหรับแพลทฟอร์ม V6 นั้นมีฟอร์ดเจ้าเดียวที่ทำตลาดกระบะแบบนี้ โดยก่อนหน้านี้ ฟอร์ดวางเครื่อง เบนซิน V6 ในรถยนต์แรพเตอร์ (Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT) 397 แรงม้า แรงบิดที่583 นิวตัน/เมตรที่3500 rpm ขายราคา 1.959 ล้านบาท และฟอร์ดยังวางเครื่องดีเซล V6 ในรถยนต์รุ่นเอเวอร์เรสต์ โดยราคา2.279ล้านบาท
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบ ราคาพิเศษเพียง 1.699ล้านบาท ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เทรนด์ 4×2 ราคาพิเศษ 1.249ล้านบาทเป็นการทำราคาให้เข้าถึงได้ง่าย ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS ใหม่ รุ่นปี 2024 กระบะ 4 ประตูยกสูงทำราคาลดลง 13%เปิดตัวในราคา 7.99แสนบาท)
FOTON
ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 (Motor Expo) หาก FOTON มีการเปิดตัวรถยนต์หรือแสดงนวัตกรรมใหม่ 3 ส่วนด้วยกันได้แก่
1. รถปิคอัพไฟฟ้า ไฮเอ็น (HiEN) 88kW เป็นรถปิคอัพไฟฟ้า กำลังมอเตอร์: 88kW (ประมาณ 118 แรงม้า) ระบบไฟฟ้าทั้งหมด (BEV – Battery Electric Vehicle) ช่วงล่างขยายเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การขนส่งหนัก หรือขนสินค้าขนาดใหญ่แบตเตอรี่ความจุสูง รองรับการใช้งานในระยะทางไกล มีฟังก์ชันการชาร์จที่รวดเร็ว (Fast Charging)
2. รถเก๋ง 4 ที่นั่ง รถเก๋งขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าขนาดเล็ก เหมาะสำหรับ การใช้งานในเมือง การออกแบบเน้นความสะดวกสบายในพื้นที่จำกัดประหยัดพลังงานและลดมลพิษ ภายในกว้างขวางรองรับผู้โดยสาร 4 คน อาจมาพร้อมระบบช่วยขับขี่ เช่น ระบบเตือนการชนหรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
3. รถ Commercial มาจัดแสดงทั้งระบบ คือรถเพื่อการพาณิชย์ รถตู้สำหรับขนส่งผู้โดยสาร รถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดกลางสำหรับการขนส่งสินค้า รองรับหลากหลายรูปแบบการใช้งานใช้พลังงานไฟฟ้าหรือระบบไฮบริด เพื่อลดต้นทุนเชื้อเพลิงออกแบบให้มีความทนทาน รองรับการใช้งานในระยะยาว
GEELY
ในงานมหกรรมรถยนต์ครั้งที่ 41 จีลี่ (GEELY) ใช้ตัวแทนคือ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด บริษัทใหม่ที่เพิ่งจดทะเบียนเมื่อ 6 ก.ย.67 นำเสนอความก้าวหน้าในธุรกิจยานยนต์ ด้วยการจัดจำหน่ายและให้บริการด้านรถยนต์ทุกประเภท โดยมุ่งเน้นยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และยานยนต์พลังงานแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมบริการซ่อมแซม บำรุงรักษา และตรวจสอบยานพาหนะอย่างครบวงจร ไฮไลต์สำคัญของงานคือ Geely Galaxy EX5 (GEELY EX5 ชื่อในไทย) SUV อัจฉริยะ ในกลุ่มรถยนต์ขนาด B-SUV ที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่า C-SUV
การแนะนำ Galaxy EX5 ถือเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ จีลี่ในไทย และที่สำคัญเป็นครั้งแรก ที่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาครั้งแรกในโลก สเปคและระบบขับเคลื่อนของ Geely Galaxy EX5 มีแบบ Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้า: 1 ตัว กำลังสูงสุด: 218 แรงม้าแรงบิดสูงสุด: 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี่: Lithium-Ion (LFP) ความจุ 49.52 kWh
สำหรับจีลี่ ก่อตั้งขึ้นในปี 2529 (38ปีที่แล้ว) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหางโจว ประเทศจีน เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ ที่มีชื่อเสียงในด้านนวัตกรรมของจีน ส่วนธนบุรีนอยสเติร์น เป็นบริษัทในกลุ่มธนบุรี ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 80 ปี กลุ่มธนบุรีเป็นของครอบครัว วิริยะพันธุ์รู้จักกันในฐานะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเช่น ธนบุรีประกอบรถยนต์ บริษัทวิริยะประกันภัย บริษัท เมืองโบราณ โดยปัจจุบันกลุ่มธนบุรี ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับหลายแบรนด์รถยนต์ที่มีชื่อเสียง เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฮุนได ทาทา ซังยอง เป็นต้น
GREAT WALL MOTOR
ไฮไลท์ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 Great Wall Motor (GWM) ได้เปิดตัวโมเดลใหม่และไฮไลท์ที่สำคัญในงาน โดยเน้นการนำเสนอยานยนต์ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเปิดตัวรถยนต์ระดับแฟลกชิปโดยรถรุ่นใหม่ แบ่งออกเป็น 2กลุ่มกลุ่มแรกคือ รถเรือธง 2 รุ่น คือ
– GWM WEY 80 (เว่ย 80) รถยนต์ Plug-in Hybrid (PHEV) แบบ 6 ที่นั่ง ที่มีโหมดขับเคลื่อน EV สามารถวิ่งได้ระยะทาง 110 กิโลเมตร (WLTP) การออกแบบภายนอกหรูหรา สไตล์ SUV ระดับพรีเมียม ภายในห้องโดยสารเน้นความสะดวกสบาย พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น หน้าจอควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่และระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ตอบโจทย์ครอบครัวและผู้ที่มองหารถอเนกประสงค์ระดับไฮเอนด์
-GWM TANK 700 PHEV รถประเภท: SUV Off-road Plug-in Hybrid เครื่องยนต์ V6 พร้อมระบบ PHEV รองรับโหมดการขับขี่ถึง 12 โหมด ที่ตอบสนองทุกการใช้งานทั้งถนนเรียบและทางออฟโรดดีไซน์ที่แข็งแกร่งและบึกบึน เน้นลุยทุกสภาพถนน พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมระบบเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและการขับขี่ขั้นสูงตอบสนองทั้งการใช้งานแบบครอบครัวและสายลุย
กลุ่มรถกระบะ-ไฮไลท์ของกลุ่มนี้ คือ การเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการครั้งแรก ของปิกอัพ GWM POER Sahara (โพเออร์ ซาฮา) รถปิกอัพรุ่นใหม่ที่ฟอร์มดีที่อุ่นเครื่องมานานมาก ล่าสุดตัดสินใจแน่วแน่ว่า ลุยสายกระบะโดยโพเออร์ ซาฮา มาพร้อมกับสองรุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO และรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD โดยทั้งสองรุ่น ใช้เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 78 กิโลวัตต์(106 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection
โพเออร์ ซาฮา HEV มาพร้อมกับโหมดการขับขี่หลากหลายโหมดเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ต่าง ๆ โดยรุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด และรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมด 4L และโหมด 4H มีให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ สีดำ(Sun Black) สีขาว(Hamilton White) และสีเทา(Ayers Gray) เฉดสีภายในอย่าง สีดำ Jade Black รถใหม่ต่างๆของ GWM บนเวทีมหกรรมยานยนต์เหล่านี้ เป็นการยืนยันกระแสข่าวลือเรื่องอุปสรรคการบริหารงานต่างๆ โดยเฉพาะการลดราคาอย่างโหดของ GWM ซึ่งเราจะเห็นแคมเปญเหล่านี้เมื่อไปเดินชมงาน
HONDA
ไฮไลท์ของฮอนด้าในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 คือ การเปิดตัว Honda HR-V e:HEV โดยเฉพาะฮอนด้าเริ่มทำสงครามราคาโดยปรับลดราคา รุ่น E ให้เข้าถึงได้ง่ายคือเริ่มต้น 8.99 แสนบาท ฮอนด้า โดดเด่นด้วยระบบฟูลไฮบริดที่ให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะการขับขี่ Honda City Turbo รุ่น S ปรับราคาใหม่ให้เข้าถึงง่ายขึ้น อัตราการผ่อนเริ่มต้นประมาณ 3,000 บาท/เดือน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ดึงดูดผู้บริโภคที่กำลังมองหารถซีดานในงบประมาณจำกัดโปรโมชั่นสุดพิเศษในงานโปรเดียวครบ: รถทุกรุ่นในงานมาพร้อมข้อเสนอพิเศษผ่อนต่ำ ดาวน์สบายเงื่อนไขการดาวน์ที่ยืดหยุ่น และช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายรายเดือน ฮอนด้าจัดแคมเปญช่วยผ่อนบางส่วนแคมเปญพิเศษโปรโมชั่นที่ออกแบบมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ
HYUNDAI
ฮุนไดค่ายเกาหลีแนะนำรถHyundai Palisade พรีเมียมครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีแบบเบาะ 3 แถวรุ่นใหม่ กลุ่ม D-segment มีให้เลือก 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 2WD Exclusive และรุ่น 4WD Prestige พาลิดเสด เป็นฟูลไซด์เอสยูวี นำเข้าจากเวียตนามเป็นครั้งแรก ขุมพลังเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร GDI ขับเคลื่นล้อหน้า 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ฮุนได ได้นำเอารถตัวขายรถยนต์ไฟฟ้ามาเต็มรูปแบบเช่นเคย
ISUZU
อีซูซู มีรถ 2 รุ่นที่เป็นไฮไลท์เป็นข่าวใหญ่กันไปแล้วเพราะถือว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงขุมพลังที่สำคัญนั่นคือการวาง เครื่องยนต์ 2.2 ลิตรใหม่ ในดีแมคซ์และมิว-X เครื่องยนต์ใหม่ 2.2 ลิตรนั้นต้องติดตามกันว่า 1.9 ลิตรจะอยู่อีกนานแค่ไหน อีซูซูอื่นๆ ยังคงมีไฮไลท์เช่น มิว-เอ็กซ์ RS , รถยนต์ไฟฟ้า ดีแม็คซ์ BEV และ D-Max Hi-lander 1.9 Ddi MHEV M A/T ราคา 1,145,000บาทซึ่งไฮแลนเดอร์ MHEV ถือว่าเป็นน้องใหม่ล่าสุดในไลน์ รถกระบะค่ายญี่ปุ่น กลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่
JEEP
ค่ายนี้ค่อนข้างน่าสนใจแม้ว่ารถของ JEEP จะเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มเพราะราคาคนทั่วไปเข้าถึงยาก ปีนี้บนเวทีมหกรรมยานยนต์มีการแสดงทั้ง แกรนด์ เชอโรกี และแรงเลอร์อัพเดททุกรายละเอียดต้องไปติดตามกันหน้างาน
*JY (จูนเหยา)
จูนเหยา หรือ JY AIR: ค่ายน้องใหม่ในวงการยานยนต์ไทย เข้าสู่ตลาดไทยครั้งแรกพร้อมเปิดตัวรถรุ่นแรกในงานมหกรรมยานยนต์ บริษัท JY AIR เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นบริษัทใหม่ที่มีความหลากหลายทางธุรกิจแล้ว ยังเตรียมเปิดตัวรถรุ่นแรกในประเทศไทยที่เป็นโกบอลโมเดล (Global Model) ค่ายนี้ตกลงให้เรียกชื่อแบรนด์ว่า “เจวาย” (JY) รถรุ่นแรกของค่าย ที่เตรียมเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์นี้จะเป็นโมเดลที่ได้รับการพัฒนาสำหรับตลาดโลกและมีจุดเด่นที่ทันสมัยและเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เขาว่ามาจากเทคโนโลยีเครื่องบิน การเปิดตัวรถรุ่นแรกของแบรนด์ “เจวาย” ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการก้าวเข้าสู่การแข่งขันที่เข้มข้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับโลกด้วย
KIA
ค่ายรถเกาหลีที่ดูดีมีอนาคตมากกว่าการบริหารของทีมงานเดิม เกียนำรถยนต์ 4 รุ่น มาจัดแสดง โดยในงานมหกรรมยานยนต์ ในปีนี้ มีไฮไลท์ที่น่าสนใจหลายรุ่น
-Kia Carnival ราคา: 1.99 ล้านบาท เป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งมีโปรพิเศษขณะนี้ลดราคาลง 4 แสนบาทจากราคาปกติ มีการเพิ่มฟีเจอร์เด่นๆ เช่นที่นั่ง Captain Seat ที่สะดวกสบายมากขึ้น
-Kia EV5 รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของเกีย มีการแนะนำรถ 4 รุ่นย่อย ที่สำคัญคือในงานมีการเพิ่มรถรุ่นย่อยที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 1.399 ล้านบาท (ลดราคา 2 แสนบาทจากราคาปกติ)ฟีเจอร์เด่น: ระบบไฟ LED และการตกแต่งภายในที่ทันสมัย
-Kia EV9 เปิดตัวในฐานะ Flagship รุ่นใหม่ ราคา: 3.499 ล้านบาท เป็นรถที่ได้รับรางวัล World Car Award, พร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
-Kia Sorento ใหม่ล่าสุดจากเกีย เป็นรถ SUVแบบ 6 ที่นั่ง มี2 รุ่นให้เลือกคือ Kia Sorento Premium Plus PHEV และ Premium HEV โดยรุ่น Plug-in Hybrid ผสานจุดเด่นจากมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ไฮบริดแบบ Lithium-Ion polymer ขนาด 13.8 kWh รองรับระยะทางการใช้งานใน EV mode สูงสุดถึง 66km (NEDC) และเครื่องยนต์เบนซิน Smartstream ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รวมแรงม้าสูงสุด 265 แรงม้า
*LEAPMOTOR
ลีปมอเตอร์ ค่ายรถที่เข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในไทย โดยค่ายพระนครยนตรการ(PNA) รถรุ่นแรกคือรถยนต์ไฟฟ้า C10 D เป็นรถเอนกประสงค์(SUV) ขับเคลื่อนล้อหลังในงานนั้นมีการทำราคาพิเศษสำหรับ 200 คันแรก Leapmotor C10 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีขนาดกลาง เป็นผลิตภัณฑ์ของ Leapmotor รุ่นแรก ขับเคลื่อนด้วย ไฟฟ้าล้วน 100 % ยังไม่มั่นใจว่าในตลาดไทย จะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบใด แต่ในตลาดโลกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิด 320 นิวทันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.29 วินาที พร้อมชุดแบทเตอรีแบบ LFP มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 52.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 69.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางไกลสุดอยู่ที่ 360-420 กม./การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ( WLTP) มิติตัวรถ มีความยาว 4,739 มม. ความกว้าง 1,900 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,825 มม.
LEXUS
ค่ายรถหรูจากโตโยต้า ยังคงเดินหน้าในแนวทางตัวเอง ปีนี้มาพร้อมแนวคิด”สไตล์ริส ลักชัวรี่” เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ LEXUSมีรถมาแสดงครอบทุกแบบคือ HEV, PHEVและ BEV รถรุ่นใหม่ในงานนี้คือ LBX บีสโปก รถที่ลูกค้าสามารถคัสตัมไมซ์ (customize) ได้เต็มที่ ทั้งภายนอกภายในนอกจากนี้ยังมีรุ่น RX ที่ได้รับการปรับปรุง ปรับฟีจเจอร์ และสมรรถนะการขับขี่
LOTUS
โลตัสที่ตอนนี้แปลงพอร์ตเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไป 100% แล้วงานนี้โลตัส แนะนำรุ่น อิเรคทรา รถไฮเปอร์ เอสยูวี โดยในปีนี้ไทยเป็นประเทศที่ 2 ในโลกที่มีโครงการ คาร์ฟแมน บิสโปก(Bespoke) หรือ การทำรถามคำสั่งซื้อลูกค้า อีกรุ่นได้แก่ ไฮเปอร์ ซีดาน “โลตัส อิเมย่า” ซึ่งโปรโมชั่นของโลตัสอิเมย่าก็มีการซัพพอร์ทเงินสดเพื่อเลือกออฟชั่น 2.5 แสนบาท/คัน และส่วนโปรโมชั่นรุ่นอิเรคทรา ซื้ออุปกรณ์ตกแต่งหรือลดเป็นเงินสด 4 แสนบาท/คัน
MASERATI
ค่ายมาเซราติมาพร้อมกับรถ 5 รุ่นบนเวที โดยมีรถเครื่องสันดาปภายใน แกรนด์ทัวริสโม โมดีน่าและรถยนต์ไฟฟ้า แกรนด์ ทัวริสโม โฟโกเร่ SUV -ไฟฟ้าเป็นไฮไลท์ ค่ายรถมาเซราติค่อนข้างเข้าถึงยากเพราะเป็นรถเฉพาะกลุ่มระดับราคาสูง
MAZDA
มาสด้ามาเต็มเวทีไฮไลท์สำคัญคือการแนะนำ มาสด้า CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ที่ปรับปรุงใหม่ มาสด้าปรับตัวสำคัญๆ คือ ทำรถให้คุ้มราคามากขึ้น เริ่มจาก CX-5 กลายเป็นรถSUVที่มีออฟชั่นเต็มที่สุดในคลาส ในระดับราคาเท่าเดิม แม้จะเป็นรถรุ่นใหม่นอกจากนี้ บนเวทีจะมีมาสด้า กระบะ BT-50 โฉมใหม่เครื่อง2.2ลิตรดีเซลเทอโบร์ มาจัดแสดงเป็นไฮไลท์ นอกจากนี้มาสด้าก็นำรถเด่นๆ ของตัวเอง ทั้งมาสด้า 2 ,มาสด้า CX-30 ,มาสด้า CX-8 ,มาสด้า 3 ,มาสด้า 6 ,มาสด้า MX5 แคมเปญของ ชื่อMAZDA YEAR-END PARTY โดยนำเสนอแคมเปญ Motor Expo โดยเลือกรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท หรือ รับดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นานสูงสุด 84 เดือนพร้อมฟรี ประกันภัยชั้น 1 พิเศษ เจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว ออกรถใหม่ ฟรี บัตรน้ำมัน มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท จองรถในงาน 3,000 บาท และออกรถภายในวันที่ 29 พ.ย. 67รับฟรี ลำโพง JBL CLIP 5 มูลค่า 2,790 บาท
MERCEDES-BENZ
ค่ายรถพรีเมี่ยมที่ชวนไปชมเพราะ ในฐานะไอคอนตัวแม่ ของรถแบรนด์พรีเมี่ยมมักมีของดีทุกปี สำหรับปีนี้ทุกสายตาจับตามองไปที่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสยูวี” สายลุยที่มาในรูปแบบพลังไฟฟ้า นั่นคือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาส รถที่ผลิตจากออสเตรีย และเป็นครั้งแรกที่ โชว์ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ในไทย จี-คลาส มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ความน่าสนใจคือหนึ่งในรุ่นย่อยนั้นมีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท เราไปดูรายละเอียดกัน
1. เมอร์เซเดส-เบนซ์ G 580 with EQ Technology (เริ่มเริ่มต้น)ซึ่งได้ทำราคาเริ่ม ต่ำกว่า 10 ล้านบาท(ราคาขาย 9.5 ล้าน)(เสียภาษี8%)
2. เมอร์เซเดส-เบนซ์ G 580 with EQ Technology EDITION ONE (ตัวทอปไฟฟ้า) (เสียภาษี8% )ราคา12.2 ล้านบาท
สองตัวบนนี่ ต่างกันที่ ล้อ 18 กับล้อ 20 และก็ชุดแต่ง เป็นAMG Line ตกแต่งรอบคันแบบ Night Package ไฟส่องสว่างที่พื้นพร้อมโลโก้แบบ MANUFAKTUR logo projector กาบบันไดข้างสีดําแบบ MANUFAKTUR running bords ตกแต่ง calliper brake ด้วยสีฟ้า ระบบปรับคุณภาพอากาศภายในห้องโดยสาร แบบ Ionisation of interior air ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging) สําหรับที่นั่งด้านหน้า ฟังก์ชัน ENERGIZING Package Plus พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต หุ้มหนัง Nappa ตกแต่งด้วยตะเข็บสีฟ้า ระบบ Active Multicontour Seat package Plus เข็มขัดนิรภัย MANUFAKTUR magma grey วัสดุตกแต่งห้องโดยสารแบบ Blue carbon–fibre trim elements ที่วางแก้วแบบควบคุมอุณหภูมิพรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ AMG ตกแต่งด้วยตะเข็บสีฟ้า
3.เมอร์เซเดส-เบนซ์ Mercedes-Benz G 450 d ไฮบริดดีเซล 3000cc เกียร์อัตโนมัติ(เสียภาษี35%) กินน้ำมันดีเซลที่ 12.5กม/ลิตร ถ้ากินน้ำมันพรีเมี่ยม ลิตรละ 47 บาทค่าใช้จ่ายจะตกอยู่ 3.74 บาท/ลิตร ก็แพงอยู่แต่คนซื้อรถ 0 ล้านคงไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องค่าน้ำมัน
G-Class ออฟโรดคลาสสิคนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกมากนักเป็นเวลาประมาณ 45 ปี การออกแบบภายนอกของรุ่นใหม่ทั้งหมดได้รับการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่นมีการเปลี่ยนแปลงแค่ กระจังหน้าหม้อน้ำ เป็นแบบ 4 ช่องแนวนอนแทนที่ 3 ช่องแนวนอนแบบเดิม กันชนหน้าและหลัง โดยกันชนหน้ามีรูปลักษณ์ที่โค้งมนขึ้นใหม่ แผงปิดเสา A ใหม่และสปอยเลอร์บน หลังคา มีการปรับปรุงพลศาสตร์อากาศเล็กน้อย ตรงที่จับประตูนั้น เป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม และเสียงปิดประตูก็ที่เป็นเอกลักษณ์ คือแน่นๆ ดิบๆ G-Class รุ่นใหม่นี้ เน้นที่ความเป็นออฟโรดเป็นหลัก ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า มีเทคโนโลยี G–TURN หรือการกลับรถเป็นวงกลมและการเคลื่อนที่แนวข้างคล้ายปู
สำหรับขุมพลังของ G-Class ไฟฟ้า ติดตั้งเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้า EQ Technology โดยใช้ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 116 กิโลวัตต์ มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แยกการทำงานอิสระสู่ทั้ง 4 ล้อมี กำลังมอเตอร์รวม 432 กิโลวัตต์/587 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,164 นิวตันเมตร แบตเตอรี่นั้นมีระยะการขับ 434-473 กม./ชาร์จ (WLTP) ความเร็วสูงสุด 180 กม/ชม.เมอร์เซเดสมียังรถยนต์รุ่นย่อยอื่นๆ อีกเช่น
วี -คลาส ไมเนอร์เชนจ์ หรือ V 300 d ปี 2025 รถตู้ขนาดใหญ่แบบ 6 ที่นั่ง มีการ ปรับโฉมเพื่ออัพเดทรถโดยปรับโฉมหน้าใหม่ให้กระจังหน้าเหมือน S-Class และยกโลโก้ดาวให้ลอยมาซึ่งหน้าเดิมนั้น โลโก้เบนซ์จะแปะไว้หน้าฝากระโปรง(คอนเซ็ป เบนซ์สปอร์ต) ทำให้หลายคนนำรถไปดัดแปลงแปลงหน้าให้เป็นแบบดาวลอย(คอนเซ็ป ลักชัวรี่) ตลาดคนใช้เบนซ์ไทยนั้นนิยมแบบ ยกดาวขึ้นมากกว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ V 300 d มีรุ่นย่อยรุ่นเดียวคือ Exclusive เป็นรถเบนซ์แบบตัวถัง “เอ็กซ์ตร้า ลอง”(Extra Long)หรือแบบยาวพิเศษ ที่นำเข้าจากโรงงานเบนซ์ สเปนใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ระหัส OM654 ให้กำลัง 237 แรงม้า มาพร้อมเกียร์อัตโนมัต 9 สปีด รถทำความเร็วสูงสุดได้ 220 กม/ชมอัตรากินน้ำมัน 14.3 กม/ลิตร (เฉลี่ย) เคาะราคามาที่ 5.82 ล้านบาท คู่แข่งต้อง VW คาราเวลที่ออกตลาดใหม่ คือ รุ่น Caravelle รุ่น Comfortline NGZ ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 5.1 ล้านบาท
อี-คลาส มีการปรับหน้าจากเดิมหน้าแบบสปอร์ต กระจังหน้ามีโลโก้ดาวขนาดใหญ่ มีการอัพเดท เป็นอี-คลาส ที่เป็นตัวดาวลอย เป็นการนำเอาหน้าดาวลอยกลับมาใช้อีกครั้งเพราะ ลูกค้ากลุ่มใหญ่ อี-คลาสนั้นมีความเป็นผู้อาวุโส
MERCEDE-Maybach
แบรนด์รถยนต์ ที่สุดของความหรูหราคือ เมอร์เซเดส- มายบัค คราวนี้มีรถยนต์ที่น่าสนใจ 2 รุ่น คือ เมอร์เซเดส- มายบัค S 580 e Premium ราคา 11.3 ล้านบาทและที่สดใหม่จริงๆ เปิดตัวครั้งแรกบนเวทีนี้คือ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV เป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกของมายบัค โดยนำเข้าจากอเมริกา วางจำหน่ายในราคา 16.3 ล้านบาท กําลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 658 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 950 นิวตันเมตร ระยะทางการขับเคลื่อนตํ่าสุด–สูงสุด 560-608 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)2
อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. 4.4 วินาทีความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 210 กม./ชม.
MG
ค่ายรถที่ค่อยๆ เติบโตในฐานะผู้ประกอบการจากจีนรายแรกๆที่บุกตลาดไทย ในงานนี้ เอ็มจี สร้างคอนเซปในการ “เอ็มพาวเวอร์ เดอะฟิวเจอร์” คอนเซ็ป เปิดตัว แบรนด์ย่อย คือ IM โดยรถรุ่นแรกคือ IM6 รุ่นพวงมาลัยขวาครั้งแรกของโลก รถยนต์ คูเป้ SUV สำหรับมาขายในไทยไม่แน่ใจว่า MG จะวางเป็นแค่รุ่นย่อยในแบรนด์ MG หรือว่า เป็นซัพแบรนด์ สำหรับ IM Motors เป็นแบรนด์ภายใต้การร่วมทุน ของ SAIC Motor ร่วมมือกับ Alibaba และ Shanghai Zhangjiang Hi-Tech Park Development โดย IM Motors ย่อมาจาก “ Intelligence in Motion ” ก่อตั้งครั้งแรกในเดือน ธันวาคม 2565 ( 2022) IM6 เป็นรถไฟฟ้า100% ตัวถังแบบ SUV Coupe’ โดยเป็นรุ่นที่ 3 ของแบรนด์ ต่อจาก LS7 รถSUV และ L7 รถSedan โชว์ตัวครั้งแรกในเฉิงตู ออโต้โชว์ โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ เดือนตุลาคม2567 ที่ผ่านมาส่วนรถอื่นๆ ของ MG มีการอัพเดท ไซเบอร์เตอร์ โรดเดอร์ EV สีใหม่ เป็นการเพิ่มไลน์อัพเข้ามาใหม่ และยังมีรถโชว์ในเวทีไม่ว่าจะเป็นรถ MG3 ไฮบริดพลัส MG4 อิเลคทริค แมกซัส 9 และแมกซัส 7
MITSUBISHI
แนะนำ เอ็กซ์แพนเดอร์ ฟูลไฮบริด HEV เป็นไฮไลท์โมเดล2025 นอกจากนี้ยังมีกระบะ ไทรทันตกแต่งพิเศษ
NATA
ค่ายน้องใหม่ขวัญใจคนประหยัด คือ เนต้า โดย บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ปีนี้NETA มาพร้อมกับการเปิดตัวรถ NETA S Shooting Brake ครั้งแรกในไทย พร้อมนำเสนอ เทคโนโลยียานยนต์ใหม่แห่งอนาคต Super EREV เป็นอย่างไรต้องไปติดตามดูกัน
NISSAN
ค่ายนิสสัน มาคราวนี้นำรถนิสสัน เซเรนา ( Nissan Serena) MPV ยอดนิยม มาเปิดตลาดในไทย ในตลาดโลกเซเรน่า เริ่มทำตลาดครั้งแรกในปี พศ. 2534 และถูกส่งออกไปทั่วตลาดเอเชีย และยุโรปในภายหลัง รวมทั้งมีการผลิตในหลายภูมิภาค เซเรนา ใหม่ ไดัรับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Big. Easy. Fun.” สะท้อนจุดเด่นในด้านความกว้างขวางภายในรถ ความสะดวกสบาย ขึ้นลงง่าย การปรับเบาะที่นั่งได้หลายรูปแบบ สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ในนงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งนี้รถบนเวที Nissan ยังคงนำรถยนต์รุ่นหลักมาโชว์ในงาน ได้แก่นิสสัน คิคส์ อี-เพาเวอร์ นิสสัน นาวาราไมเนอร์เชนจ์ใหม่ นิสสัน อัลเมรา นิสสัน เทอร์รา พร้อมโปรโมชันพิเศษ ในแคมเปญ Say Yes! ที่มีความหลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของตนเอง ตั้งแต่ดอกเบี้ยต่ำ 0 % ไปจนถึงผ่อนนาน 96 เดือนหรือช่วยผ่อนขับฟรี 90 วัน
*OMODA & JAECOO
แบรนด์โอโมดะและเจคู เข้ามอเตอร์ เอ็กซ์โปรเป็นครั้งแรก โดยจัดแสดงรถคอนเซ็ป คาร์ 2 คัน คือ เชอรี่ E05 phev เพิ่มเปิดตัวเมื่อ ส.ค. ที่ผ่านมาการเข้างานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 นี้ เป็นการโชว์ตัวครั้งแรกนอกจีน
รถที่มาทำตลาดต่อยอด คือ เจคู 6 (ในจีน เรียกไอ คาร์ X25 ) ยังมีรถเข้ามาทดสอบตลาดอื่นๆ 2 รุ่นเพื่อ ทำตลาดในอนาคตได้แก่ JAECOO J7 และ OMODA C9 ,OMODA C5 EV JAECOO 6 โชว์แอสเซสเซอรี่
PEUGEOT
ค่ายรถในเครือของSTELLANTIS ที่มีรถในเครือจำนวนมากแต่ไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนโดดเด่น หรือ ชี้นำตลาดได้ สำหรับเปอโยต์ปีนี้ไม่มีของใหม่ใดๆ แค่นำ 2008 สปอร์ต กำลังเครื่องยนต์ 218 ม้ามาเปิดตัว และ 3008 เอสยูวี STELLANTIS’ เกิดจาก เปอโยต์ SA หรือ กรุ๊ป PSA และ เฟี๊ยต ไครส์เลอร์ ออโตโมบิล หรือ FAC ประกาศควบรวมกิจการเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ภายใต้ ชื่อใหม่‘STELLANTIS’
PORSCHE
ปอร์เช่นำรถครบทุกรุ่นขึ้นเวทีโดย ปีนี้เป็นปีที่ปอร์เช แนะนำรถรุ่นใหม่ทุกโมเดล ไม่ว่าจะเป็น พานาเมร่า มาคัน คะเยน และ911 โฉมใหม่ ไฮไลท์คือ คะเยน ที่เป็นรีจินัล แอสแซมบลี คือรุ่น SE Hibyid cupe จำหน่ายในราคา 6.29 ล้านบาท เป็นตัวเริ่มต้นของไลน์ รับประกัน 15 ปี สิทธิ์ในราคาพิเศษ สุดยอดสปอร์ตไฟฟ้า รถไฮไลท์ ครั้งแรกคือ ไทคัน เทอร์โบ จีที มาพร้อม 1,034 แรงม้าท็อปสุดของไลน์ นอกจากนี้ยังเปิดตัว ยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้า 911 ใหม่ เป็นครั้งแรก
SUZUKI
ค่ายซูซูกิขวัญใจรถยนต์ราคาประหยัด ทั้งประหยัดน้ำมันและประหยัดค่าใช่จ่ายในงานนี้ ซูซูกิมาเต็มเวทีด้วยสวิฟท์ แบบแต่งเต็มหลากหลายอารมร์ ส่วนมินิ ออฟโรด “จิมนี่” มีอิดิชั่นใหม่ๆ ที่แต่งโชว์เป็นไอเดีย นอกจากนี้ซูซูกิยังร่วมกับ กาแฟพันธุ์ไทย ออกแบบร้านขายกาแฟเคลื่อนที่ สำหรับซูซูกิแครี่ซึ่งเป็นทางของซูซูกิอยู่แล้วนอกจากนี้ในพื้นที่จัดแสดงยังออกแบบ เพลย์กราวน์ จำลอง จิมนี่ ออฟโรด เพื่อสร้างบรรยากาศส่วนแคมเปญซูซูกินั้นรายละเอียดต้องไปดูกันหน้างาน
TOYOTA
ค่ายโตโยต้า มีรถดิสเพลย์ 25 คัน 11 รุ่น ไฮไลท์เน้นไปเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้นโดยเฉพาะงานนี้ เปิดตัว จีอาร์ โคโรลล่า ไมเนอร์ เชนจ์ โดยรับจองออกไลน์ เปิดเว็บไซต์หลังแถลงข่าว ซึ่งรถมีจำนวนจำกัด ส่วน คัมรี่ ใหม่ ก็เพิ่งเปิดตัวถือเป็นไฮไลท์ของค่ายนี้ บนเวทียังมีความหลากหลายของรถโดยเฉพาะ ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นย่อยใหม่ รีดเดอร์ S ทำราคาลงมาอยู่ที่ 1.239 ล้านบาทเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายสุดที่เคยทำ เศรษฐกิจแบบนี้เราจะเห็นรถยนต์หลายค่ายลดราคารุ่นย่อยตัวล่างลงเพื่อให้ลูกค้าเอื้อมถึงมากขึ้นนอกจากนี้โตโยต้า ยังนำ ยาริส เอทีฟ และ นิวโคโรล่าโมเดล เยียร์ 2024 มาจัดแสดง ส่วน แคมเปญโตโยต้า คานิว๊าว ที่เริ่มมาก่อนงานมหกรรมยานยนต์ 2เดือนมาแล้วก็น่าสนใจคือมี รางวัลส่วนลด 5 หมื่นบาทจำนวน 4 หมื่นรางวัล แคมเปญนี้มีมูลค่าส่วนลดรวม 231 ล้านบาท และรวมรางวัลอื่นๆ อีกจำนวน 4.55หมื่น รางวัล เรียกว่าแจกกันทั่วหน้าโตโยต้าเป็นค่ายเดียวที่ประกาศขยาย พื้นที่ปิดการขายของเซลส์เพิ่มขึ้นโดย ขยายที่นั่ง เป็น 100 ชุด
VOLVO
เปิดตัว EX90 รถยนต์ไฟฟ้า SUV 7 ที่นั่งวอลโว่ เป็นแห่งแรกในเอเซีย(ยกเว้นจีน) มีรถผู้บริหาร รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น
WULING
ค่ายหวู่หลิงทำตลาดไทยเป็นปีที่ 2 และเข้าแสดงรถในงานเป็นปีที่ 2เช่นกัน มาคราวนี้หวู่หลิงมาในคอนเซ็ป” BE THE ICON” ถือเป็นรถขนาดเล็กที่สุดในงาน หวู่หลิงเน้นจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในเมือง บนเวทีมีการนำเสนอรถแต่ง 7 คันในรูปแบบที่แตกต่างกันไปโดยชูความเป็นเอกลักษณ์ คาแรคเตอร์ผู้ใช้ เมื่อขับบนถนนแล้วไม่เหมือนใคร เพราะการแต่งที่ฉูดฉาด หวู่หลิงน่าสนใจที่ปีนี้จะนำเสนอรถที่ออกจำหน่ายในไทยแบบ ประกอบในประเทศทั้งหมด (รุ่น CKD เป็นครั้งแรก) โดยฉลองความสำเร็จในการประกอบรถในประเทศด้วยการให้ประกันแบบ”ไลฟ์ไทม์ วารันตี”รุ่นสำคัญของหวู่หลิงบนเวที ได้แก่
1.Bingo EV รถแบบ5 ประตูแฮทแบค ที่มีระบบชาร์จไฟ DC ระยะขับขี่สูงสุด 333km
2.หวู่หลิง Air EV รถแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็กที่มีระยะขับขี่ 300Km
หวู่หลิงยังมีแคมเปญดอกเบี้ย 0.8% และฟรีประกันภัย 3 ปี เพิ่อแก้ปัญหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาประกันภัยค่อนข้างสูง
*XPENG
เป็นครั้งแรกที่แบรนด์ XPENG เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ แบรนด์ เอ็กซ์เผิงนั้นได้ชื่อว่า เทสล่าน้อย หรือ”เทสล่า โคลนนิ่ง ” เป็นแบรนด์จีนเพียงแบรนด์เดียวที่พยายามอย่างหนักในการเลียนแบบเทสล่า โดยเลือกที่จะนำแนวคิดของ Tesla มาเป็นต้นแบบ ไม่ใช่เพียงแค่ในด้านเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและประสบการณ์ของลูกค้า เช่น Xpeng ลงทุนอย่างมากในด้านระบบขับขี่อัตโนมัติ เช่น XNGP (Xpeng Navigation Guided Pilot) ซึ่งมีฟังก์ชันการนำทางและขับขี่อัตโนมัติที่เทียบชั้นกับ Tesla สำหรับการเปิดตัวในเวทีมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 นี้ Xpeng มาในคอนเซ็ป “ฟิวเจอร์ เทคโนโลยี โมบิลลิตี้” โดยรถรุ่นเอ็กซ์เผิง ประเทศไทย เปิดตัวคือ XPENG รุ่น X9 อัลตร้าสมาร์ท คูเป้ MPVซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 ที่ส่งลงตลาดต่อจาก XPENGรุ่น G6 อัลตรา สมาร์ท SUV คูเป้ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI มีระบบ ชาร์จ 800v เป็นเทคโนโลยีใหม่สามารถชาร์จได้เร็ว ในอัตราสิ้นเปลืองต่ำความเร็วในการชาร์จนั้นตู้จากปกติได้เร็วเท่ากับตู้ซูเปอร์ชาร์จเลยทีเดียว
*ZEEKR
“ซีเคอร์” ในเครือ จีลี่ รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี ในไทยจัดจำหน่ายโดยบริษัท ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ในงานมหกรรมยานยนต์ 2024 ZEEKR ไทยแลนด์ เข้าแสดงรถเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เปิดแบรนด์ไปเมื่อเดือนเมษายน 2567 ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ มาถึงงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 ซีเคอร์” จัดแสดงรถยนต์รวม 9 คัน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชม โดยไฮไลต์สำคัญคือรถแห่งอนาคต ที่นำมาแสดงเพื่อสำรวจความต้องการของตลาด
ได้แก่ ZEEKR 001 FR ผลิตมาตามคอนเซ็ปเพื่อทำลายขีดจำกัดของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ซีเคอร์”001FR ให้แรงม้ารวม 1265 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100กม/ชม.ในเวลา 2.02 วินาที ZEEKR 7X C-SUV (บนแพลทฟอร์ม ZEEKR007 ) ลูกค้าต้องการพื้นที่และ ระยะวิ่งไกลกว่า 700 กม.ส่วนรถที่จำหน่ายได้แก่ รุ่น ZEEKR X (โครงรถ BXE) รถระดับ แฟลกชิป City SUVและ ลักชัวรี่แวน ZEEKR 009 สำหรับ ZEEKR X มีการแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ
1.STANDARD RWD ราคา 1.199 ล้านบาท ความจุแบตเตอรี่ 67 kW/h ระยะทางวิ่งสูงสุด: 540 กม.(CLTC)
2.FLAGSHIP AWD ราคา 1.349 ล้านบาท มอเตอร์คู่ ความจุแบตเตอรี่ 67 kW/h ระยะทางวิ่งสูงสุด: 470กม. (CLTC)
ส่วนZEEKR 009 ลักชัวรี่แวนแบบ 6 ที่นั่ง กำลัง 450 kW หรือ603 แรงม้า แรงบิด 693 นิวตันเมตร 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.5 วินาที แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน 116 kWh เป็นรถที่เพิ่งเริ่มส่งมอบเมื่อ ก.ย.67 ที่ผ่านมาความพรีเมี่ยมวัสดุที่ใช้ คุณภาพหนังเทียบเฟิร์ส คลาส เครื่องบิน การปรับความสะดวกเบาะในแนวนอน ส่งมอบเทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีในปัจจุบัน
* หมายเหตุ รถที่เข้าร่วมงานครั้งแรก
**-NEDC