รถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 20 ธันวาคม 2566 ในงา่น MOTOR EXPO 2023 ฮุนได ไอโอนิค5 (IONIQ 5 )รถยนต์ไฟฟ้าภายใต้เครือฮุนได
ถือเป็น รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก จากแบรนด์เกาหลีใต้ที่มาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารโดยสมบูรณ์ จากฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ เป็นฮุนได โมบิลิตี้ (ฮุนได มอเตอร์ถือหุ้น100%)
ราคา
Hyundai IONIQ 5 เปิดราคาขายเริ่มต้นในไทย มาที่ 1,699,000บาท และ จบที่ 2,399,000.00 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเมือเทียบกับคู่แข่งอย่างไรก็ตามต้องไปดูว่าเชิงความคุ้มค่าเราได้อะไรจาก การจ่ายราคานี้ รายละเอียดรุ่นย่อยมีดังนี้
Hyundai Ioniq 5 รุ่นย่อย
– รุ่น Premium ราคา 1,699,000 บาท
– รุ่น Exclusive ราคา 1,899,000 บาท
– รุ่น First Edition ราคา 2,399,000 บาท
*ราคาเมื่อเปิดตัวครั้งแรกในไทย งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี วันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2566
โครงสร้างE-GMP
ไอโอนิค5 พัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มโมดูลาร์ไฟฟ้าE-GMP เทคโนโลยีระดับโลก ของฮุนได ซึ่งออกแบบแพลตฟอร์มพิเศษสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า Next Generation ที่ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้นประสิทธิภาพในการขับขี่สูงขึ้น สปีดการชาร์จไฟฟ้ารวดเร็วขึ้น ตัวรถมีขนาด 5ที่นั่งรูปทรง คอมแพ็คเอสยูวีหรืออาจเรียกว่า ครอสโอเวอร์ก็ได้ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า มิติตัวรถ
ความยาว (มม.) | 4,635 |
---|---|
ความกว้าง (มม.) | 1,890 |
ความสูง (มม.) | 1,605 |
ความกว้างช่วงล้อหน้า | 1,628 |
ความกว้างช่วงล้อหลัง | 1,637 |
ความยาวฐานล้อ | 3,000 |
ระดับต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 160 |
น้ำหนักรถโดยประมาณ (กก.) | 1,990 |
- การออกแบบคลาสสิก ผสมสมัยใหม่ผลงานจูเจียโร่
ไม่ต้องบอกเลยว่า ในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าของฮุนได มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ มีความแตกต่างและดูดึงดูดใจโดย IONIQ 5 เป็นฝีมือการออกแบบของสำนักออกแบบบ จิออเกตโต จูเจียโร่ (Giorgetto Giugiaro) สำหนักออกแบบยานยนต์ชื่อดัง ในอิตาลีที่เคยร่วมงานกับฮุนไดมาหลายรุ่น ฮุนไดเลือกใช้จูเจียโร่ เพื่อ ปลุกตำนานรถยนต์คลาสสิกอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในโลกยานยนต์
จูเจียโร่ นั้นมีผลงานมากมาย โดยมักจะให้ความความสำคัญกับเส้นสาย ที่ดูคลาสสิคและโครงสร้างที่ดูแข็งแกร่งสไตล์รถยุโรป
ฮุนไดพยายามสร้างเรื่องราวการออกแบบเช่น ไอโอนิค5 จะเชื่อมโยงการออกแบบของรถ ดีไซน์รุ่นคลาสสิกอย่าง ฮุนได โพนี่ ( Hyundai Pony) ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรก แบบราคาประหยัดของฮุนไดที่ส่งออกทั่วโลกในปี 1975 (ต่อมาคลี่คลายเป็น ฮุนไดแอคเซ็นต์ตัวแรก) ผสานกับรถยนต์ต้นแบบ Hyundai 45 ในปี 2019 ทำให้ IONIQ 5 เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยรูปทรงที่เพรียวบางพร้อมเส้นสายสบายตา ผสานความเฉียบคมจากแนวสันด้านข้าง สื่อถึงความล้ำหน้าแห่งอนาคตของพลังงานไฟฟ้า โดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้าทรง Clamshell ที่เปิดยกขึ้นได้แบบไร้รอยต่อกับตัวถัง มือจับประตูด้านข้างออกแบบมาให้ซ่อนเก็บอย่างมิดชิด ผสานดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Parametric Pixel LED ทุกองค์ประกอบทำให้ IONIQ 5 คือสุดยอดงานดีไซน์ที่ผสานความล้ำสมัย เข้ากับแบบฉบับคลาสสิกได้อย่างสวยงามลงตัว
- ห้องโดยสารพรีเมี่ยม
ไอโอนิค 5 วางตำแหน่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมดังนั้นในห้องโดยสารจึงใจความพรีเมี่ยมลงไป ในทุกรายละเอียด ห้องโดยสารของ IONIQ 5 ถูกออกแบบใหม่ภายใต้แนวคิด Living Space เพื่อให้รู้สึกสบายเหมือนอยู่ในบ้าน นอกจากนั้น วัสดุตกแต่งล้วนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น แผงประตูเคลือบด้วยสีชีวภาพที่สกัดจากน้ำมันพืช เบาะนั่ง ผ้าบุหลังคา และพรมหุ้มด้วยวัสดุชีวภาพที่ผลิตจากอ้อยและข้าวโพด วัสดุหนังที่ใช้ตกแต่งภายใน เคลือบด้วยน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์แทนสารเคมี แม้กระทั่งตะเข็บด้ายที่ใช้กับเบาะนั่งและที่วางแขนข้างประตู ยังผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล ห้องโดยสารที่ใช้เทคโนโลยีสูงเช่นนี้ ยังต้องได้รับการพิสูจน์ในระยะยาวว่า เมื่อเจอความร้อนแบบเมืองไทยจะเอาอยู่ไหม
เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว วัสดุบางชนิดที่รีไซเคิลมันจะมีประเด็นเรื่องความคงทนเมื่อต้องเจอความร้อนหนักๆ
IONIQ 5 เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปที่เน้น เทคโนโลยี ในห้องโดยสาร เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอระบบสัมผัสและความบันเทิง จอขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเชื่อมต่ออุุปกรณ์แบบ Bluetooth และระบบเครื่องเสียงพรีเมียมจาก BOSE™ with External Amplifier ลำโพง 8 ตัวรอบทิศทาง (เฉพาะรุ่น)
- สมรรถนะ2ทางเลือก
ทางเลือกที่ 1 รุ่น Premium/แบต58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
IONIQ 5 สมบูรณ์แบบด้วยระบบวิศวกรรมและฟีเจอร์อัจฉริยะ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet ขับเคลื่อน 2 ล้อ ทำความเร็วสูงสุดถึง 185 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion โดยในรุ่น Premium มีความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที และมีระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
ทางเลือกที่ 2 รุ่น Exclusive 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
หากต้องการสมรรรถนะและระยะทางขับขี่เพิ่มให้เลือก รุ่น Exclusive โดยความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงเพิ่มเป็น 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (เพิ่มแบต25%) กำลังสูงสุด 217 แรงม้า (เพิ่ม28%) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.4 วินาที และมีระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP(เพิ่ม20.1%)
ระบบชาร์จเร็ว350 kW Ultra-fast
ไฮไลต์ที่สร้างความแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป คือทุกรุ่นติดตั้ง ระบบชาร์จเร็ว 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10 – 80% ได้ภายใน 18 นาทีเท่านั้น หรือ สามารถวิ่งได้ 100 กม. โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ขจัดความกังวลใจในการเดินทางไกล และมอบความสะดวกสบายได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาดขณะนี้
ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด: 451 km*
Ultra Fast Charging (DC) 350kW: ประมาณ 18 นาที**
Fast Charging (DC) 50kW: ประมาณ 56 นาที**
Normal Charging (AC) 10.5kW: ประมาณ 6 ชั่วโมง**
ทางเลือกรุ่นที่ 3 – รุ่น First Edition ราคา 2,399,000 บาท
ทุกอย่างเหมือน Exclusive 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เพียงแต่มีออฟชั่นบางอย่างเพิ่มขึ้นเช่น กระจกหลังคาแบบวิชั่น ลูฟพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า เบาะปรับเอนนอนราบ ยางกับล้อเพิ่่มจาก 19 นิ้วเป็น20นิ้ว พอร์ทV2L ภายในไม่มี(ตัวอื่นๆ มีให้) อัตราการใช้ไฟฟ้า มากกว่ารุ่นอื่นๆ 5.33%
- Hyundai SmartSense
นอกจากฟีเจอร์ด้านระบบขับเคลื่อน ระบบช่วยขับอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยขั้นสูงของ IONIQ 5 ยังมีมาตรฐานการทำงานเทียบเท่าแบรนด์รถยุโรป นั่นคือ “Hyundai SmartSense” ซึ่งมีทั้งระบบรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Keeping Assist: LKA) ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ (Smart Cruise Control with Stop and Go) ระบบเตือนและเบรกฉุุกเฉินอัตโนมัติทางแยก (Forward Collision Avoidance Assist Junction Turning: FCA-JT) ระบบควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Collision- Avoidance Assist: BCA) รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (Surround View Monitor) ระบบกล้องมองภาพมุมอับสายตา (Blind Spot View Monitor: BVM) และอีกมากกว่า 10 รายการ
- การรับประกันและสิทธิพิเศษอื่นๆ เมื่อซื้อรถ
ฟรีค่าแรงเช็คระยะครั้งที่ 1 – 10 ตามตารางบำรุงรักษา (10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
รับประกันแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กม.
รับประกันตัวรถ (Warranty) 5 ปี หรือ 150,000 กม.
สิทธิประโยชน์รับบริการ V2V จำนวน 2 ครั้งต่อ ปี เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับการให้บริการในเขตในกรุงเทพฯ เท่านั้น
บริการยก/ลากไม่จำกัดจำนวนครั้งในระยะเวลา 5 ปี ไปยังศูนย์บริการฮุนไดหรือจุดชาร์จที่ใกล้ที่สุดโดย ไม่จำกัดระยะทาง
ฟรีโฮมชาร์จเจอร์พร้อมค่าแรงติดตั้ง*
การติดตั้งโฮมชาร์จเจอร์ สำหรับการเดินสายไฟพร้อมอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า ระยะ 15 เมตร และอุปกรณ์ที่กำหนดเท่านั้น พร้อมรับประกันงานติดตั้ง 1 ปี สำหรับการติดตั้งครั้งแรก (ไม่รวมแท่นชาร์จ และการดำเนินการที่นอกเหนือจากเงื่อนไขที่กำหนด) ทั้งนี้หากมีรายการเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่เกิดขึ้น เช่น งานกรีดฝ้า, งานกรีดผนัง และ งานกรีดพื้น หรือ ในกรณีที่ไฟฟ้าภายในบ้านไม่เพียงพอ ค่าใช้จ่ายจากการเดินวงจรไฟฟ้าเพิ่มเติม ไม่รวมอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ขาตั้งแท่นโฮมชาร์จเจอร์
IONIQ 5 มีจุดเด่นที่โดดเด่นต่อไปนี้:
- ดีไซน์ที่สมวัยและโดดเด่น: มีลักษณะดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และทันสมัย ทำให้ IONIQ 5 น่าสนใจในด้านสไตล์และความสวยงาม
- เทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้า: มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ทำให้มีประสิทธิภาพในการขับขี่และการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเชื่อถือได้
- ระยะทางขับที่ยาวไกล: มีความสามารถในการขับทางไกลได้ โดยจัดเป็นรถพิสัยกลาง
- ความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร: มีพื้นที่ในรถขนาดใหญ่และมีการจัดเรียงที่นั่งที่สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน
- ความปลอดภัยที่สูง: มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบการป้องกันที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
- ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากมาย เช่น การใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรองหรือการใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหลังการขับขี่ในระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่
- คุณภาพการขับขี่และการควบคุมรถที่ดี ถือเป็นจุดเด่นมากของรถยนต์ไฟฟ้าค่ายนี้
IONIQ 5 มีจุดด้อยที่ ควรพิจารณาดีงต่อไปนี้: - ราคาสูง: เนื่องจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีแต้มต่อภาษี เหมือนรถรถยนต์จากจีนที่ได้รับการยกเว้นภาษีจำนวนมาก ฮุนไดยังมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและคุณภาพสูง ราคาของ IONIQ 5 จึงมีราคาสูงกว่ารถยนต์คู่แข่ง ซึ่งอาจทำให้เป็นอุปสรรคสำหรับบางคนที่มองหารถยนต์ราคาประหยัด
- มุมมองพื้นที่บางส่วนของรถ: ข้อจำกัดในการใช้งานพื้นที่ในบางส่วนของรถ เช่น พื้นที่กระจกหน้าต่างข้างหลังอาจจะมีขนาดเล็กหรือมุมมองที่จำกัด เป็นผลมาจากการออกแบบ