11 ค่ายรถอเมริกาหวนใช้ มาตรฐานการชาร์จTesla

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

ในอเมริกาเหนือมีการพูดว่า ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมด 11 ราย จะนำมาตรฐานการชาร์จอเมริกาเหนือ (NACS) ของ

Advertisements

@Teslaมาใช้ บรรดาค่ายรถยนต์รายใหญ่เหล่านี้เช่น ฟอร์ด เมอร์เซเดส-เบนซ์ นิสสัน จีเอ็ม จากัวร์ วอลโว่ ฮอนด้า อคูร่า โพลสตาร์ การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาเป็นอย่างไรมีรายละเอียดทางเทคนิค ข้อดี ข้อเด่น อย่างไรลองติดตามดู
Tesla’s North American Charging Standard เป็นระบบการชาร์จไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดของ Tesla ในตลาดทางเหนือของอเมริกา โดยที่หลักการทำงานของมาตรฐานนี้คือการใช้ไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าเพื่อให้รถพร้อมใช้งานอีกครั้ง นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรฐานนี้:

ปลั๊กชาร์จ: Tesla ใช้รูปแบบของปลั๊กชาร์จที่เฉพาะเจาะจงสำหรับรถยนต์ของพวกเขา ซึ่งในทวีปเหนืออเมริกา ใช้ปลั๊กชาร์จแบบ Tesla’s proprietary connector ที่เรียกว่า Tesla Supercharger Connector ซึ่งเป็นปลั๊กชาร์จที่ทรงพลังและเร็ว สามารถชาร์จรถไฟฟ้าได้ด้วยกำลังสูง

ระบบชาร์จ: Tesla Supercharger Network เป็นระบบชาร์จที่ออกแบบมาเพื่อให้การชาร์จรถเร็วและมีประสิทธิภาพสูง สามารถให้พลังงานไฟฟ้าสูงสุดได้กับรถไฟฟ้า Tesla ซึ่งชาร์จได้ระยะเวลาสั้น มีความสามารถในการชาร์จกับความเร็วสูงสุดถึง 250 kW ที่ช่วยให้รถไฟฟ้า Tesla สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว ตัวระบบนี้ถูกติดตั้งใน Tesla Supercharger Stations ที่อยู่ในต่างประเทศทางเหนืออเมริกา

ข้อดีและข้อเด่นของ Tesla’s North American Charging Standard ได้แก่:

  1. ความเร็วในการชาร์จ: Tesla Supercharger มีความสามารถในการชาร์จรถไฟฟ้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ผู้ใช้รถ Tesla สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้พร้อมใช้งานได้รวดเร็วและสะดวก
  2. สะดวกและส่วนนี้เป็นข้อไปรษณีย์ของ Tesla: ทาง Tesla ได้สร้าง Tesla Supercharger Network อย่างกว้างขวางที่มีความถี่และครอบคลุมทั่วทุกที่ในทวีปเหนืออเมริกา ซึ่งทำให้เจ้าของรถ Tesla สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ
  3. ประสิทธิภาพพลังงาน: Tesla Supercharger Network ใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียว คือ ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ Tesla
  4. การสนับสนุนและบริการ: Tesla มีการสนับสนุนและบริการลูกค้าที่เป็นเอกเจริญ ทำให้เจ้าของรถไฟฟ้า Tesla รู้สึกมั่นใจและสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งาน Supercharger ได้รวดเร็ว
  5. การพัฒนาและขยายขนาด: Tesla มีแผนในการขยาย Tesla Supercharger Network อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มจำนวนชาร์จสถานีและปรับปรุงความเร็วในการชาร์จเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต

รวมถึง Tesla Supercharger Network เป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้ที่มุ่งสร้างระบบชาร์จไฟฟ้าที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าและลดการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่ไม่ยั่งยืนในระยะยาวของอนาคต

Advertisements

อย่างไรก็ตามในรายงานนี้ ไม่มีค่ายโตโยต้า มีการระบุว่า โตโยต้าไม่จำเป็นต้องใช้ NACS เพราะรถในอนาคตของพวกเขาจะวิ่งได้ 700 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img