30 เม.ย.68-ในงานเซี่ยงไฮ ออโต้ โชว์ 22025 Huawei ได้แนะนำ ระบบ Qiankun ADS 4.0 หรือ ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving System) รุ่นล่าสุดของหัวเว่ยที่พัฒนาภายใต้แพลตฟอร์ม “Qiankun” (เฉียนคุน – 乾坤) ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะด้านการขับเคลื่อนในอนาคตที่เน้นความปลอดภัย ความแม่นยำ และการเรียนรู้ตลอดเวลา โดย ADS 4.0 (Autonomous Driving System 4.0) คือหัวใจหลักของระบบขับขี่อัตโนมัติระดับสูงที่ Huawei พัฒนาสำหรับใช้ในรถยนต์ยุคใหม่ โดยเฉพาะกับพันธมิตรแบรนด์จีน เช่น AITO, Chery, Avatr, และ Arcfox
แนวคิดของ Huawei Qiankun ADS 4.0 ในวงการยานยนต์
1. ขับขี่อัตโนมัติระดับสูง (High-Level Autonomous Driving)
Huawei ADS 4.0 ตั้งเป้าหมายสู่ L3 ถึง L4 (ขับขี่อัตโนมัติแบบมีการแทรกแซงจากมนุษย์น้อยมากหรือไม่ต้องแทรกแซงเลยในบางพื้นที่) โดยสามารถขับขี่ได้เองในหลายสถานการณ์ เช่น:
- ขับขี่อัตโนมัติบนทางด่วน (NOA)
- ขับขี่ในเมือง (City NOA)
- จอดรถอัตโนมัติ (AVP – Autonomous Valet Parking)
2. ไม่พึ่งพาแผนที่ HD (Map-Free Driving)
ADS 4.0 ไม่จำเป็นต้องใช้แผนที่ความละเอียดสูง (HD map) เพื่อขับขี่ในเมือง ซึ่งถือเป็นความสามารถล้ำหน้าที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานในเมืองใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
3. ระบบประมวลผลที่ใช้ AI ขั้นสูง
- ใช้ชิป Huawei MDC 810 และ AI algorithm ขั้นสูง
- เรียนรู้จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ (Real-Time Perception + Decision Making)
- รองรับการเรียนรู้จากคลาวด์ (Cloud + Edge fusion)
4. เซนเซอร์ระดับเรือธง
- มีการติดตั้ง LiDAR ความละเอียดสูง, กล้องหลายตัวรอบคัน, เรดาร์, และอัลตราโซนิก
- จับภาพสิ่งรอบตัวรถได้อย่างแม่นยำและครอบคลุมแบบ 360 องศา
5. ประสบการณ์ใช้งานแบบ Human-Centric
- ออกแบบมาให้ “เข้าใจมนุษย์” เช่น:
- ปรับความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร
- เปลี่ยนเลนอย่างนุ่มนวล
- หยุดและออกตัวในสภาพรถติดอย่างปลอดภัย
จุดเด่นของ Huawei Qiankun ADS 4.0
ด้าน | รายละเอียด |
---|---|
ความสามารถขับขี่ | NOA ในเมืองและนอกเมือง ไม่พึ่งแผนที่ HD |
เทคโนโลยี AI | ใช้ deep learning, decision engine แบบเรียลไทม์ |
ความปลอดภัย | วางเป้าหมายให้ขับขี่ปลอดภัยกว่าโดยเฉลี่ยของมนุษย์ |
ต้นทุน | Huawei ผลักดันให้สามารถติดตั้งในรถระดับกลางได้ |
ความร่วมมือ | ติดตั้งแล้วใน AITO M9, Chery Luxeed, Avatr 12 ฯลฯ |
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
- ลดความจำเป็นในการใช้แผนที่ HD ซึ่งเคยเป็นอุปสรรคของการขยาย NOA ในเมืองต่าง ๆ
- ทำให้รถจีนสามารถแข่งขันกับ Tesla FSD ได้มากขึ้น
- Huawei กำลังกลายเป็น “ผู้ให้บริการระบบขับขี่อัตโนมัติอันดับต้น ๆ ของจีน” สำหรับแบรนด์รถที่ไม่พัฒนาระบบนี้เอง
- สร้างมาตรฐานใหม่ด้าน “Autonomous-as-a-Service” (บริการระบบขับขี่อัตโนมัติให้ OEM)
หากคุณสนใจ ผมสามารถสรุปรายชื่อรถที่ใช้ ADS 4.0 และจุดต่างจาก Tesla FSD ให้เพิ่มเติมได้ไหมครับ?
4o
You said:
เพิ่มเติม จุดต่างจาก Tesla FSD
ChatGPT said:
แน่นอนครับ ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบ Huawei Qiankun ADS 4.0 กับ Tesla Full Self-Driving (FSD) ในแง่เทคโนโลยี แนวคิด และการใช้งานจริง:
🔍 ตารางเปรียบเทียบ Huawei Qiankun ADS 4.0 vs Tesla FSD
หัวข้อ | Huawei Qiankun ADS 4.0 | Tesla FSD (v12) |
---|---|---|
หลักการทำงาน | ใช้ sensor fusion: LiDAR, กล้อง, เรดาร์, ultrasonic sensors | ใช้ Camera-only Vision-based (Tesla Vision) |
การพึ่งพาแผนที่ HD | ไม่พึ่ง HD map ในเมือง (Map-Free NOA) | ไม่ใช้ HD map แต่ใช้ Neural Net ที่เรียนรู้จากข้อมูลการขับจริง |
ขุมพลังประมวลผล | Huawei MDC810 (AI SoC สำหรับยานยนต์) | Tesla FSD Computer (custom HW3/HW4 chips) |
ระดับอัตโนมัติ (เป้าหมาย) | L3-L4 บางพื้นที่ (อัตโนมัติแท้ในเขตควบคุมได้) | L2+ ถึง L3 (ยังต้องจับพวงมาลัย) |
แนวคิด | ขับได้โดยไม่ต้องใช้แผนที่หรือโครงสร้างคงที่ | ขับโดยใช้ AI end-to-end จากภาพกล้อง |
การใช้งานจริง | ใช้งานได้ทั้งทางด่วนและเมืองบางพื้นที่ในจีน | ใช้งานได้ในเมืองสหรัฐฯ และบางประเทศ (อยู่ระหว่างขยาย) |
การเปลี่ยนเลน/ตัดสินใจ | ใช้ AI + เซนเซอร์จริง วิเคราะห์สถานการณ์แบบรอบด้าน | ใช้ end-to-end Neural Net คาดการณ์จากกล้อง |
ประสบการณ์ผู้ใช้ | ขับแบบ “มนุษย์จริง” ราบรื่น เน้นความปลอดภัยและนุ่มนวล | ยังมีอาการกระตุกหรือพฤติกรรมไม่เป็นธรรมชาติในบางสถานการณ์ |
ความร่วมมือกับผู้ผลิตรถ | เป็น supplier ให้หลายค่าย เช่น AITO, Avatr, Luxeed, Chery | พัฒนาระบบใช้เองเฉพาะกับรถ Tesla เท่านั้น |
สถานะการให้บริการ | เริ่มใช้งานจริงในจีนบนรถรุ่นใหม่ | ใช้งานจริงในสหรัฐฯ แบบ Beta และในบางประเทศ |