Tuesday, October 8, 2024

เจาะเบื้องลึกฮอนด้า CR-V ถอด2.0 เบนซิน เติมดีเซลเทอร์โบ 1.6

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

การปรับเปลี่ยนโมเดลใหม่ของฮอนด้า ได้ทำการเปลี่ยนไลน์โปรดักซ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษี ที่จะทำให้ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)สามารถที่จะได้เปรียบในแง่ของการนำเอาเทคโนโลยี ดีเซลสมัยใหม่(1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO )ที่จะช่วยให้ลดการปล่อยมลพิษและยังมีภาษีสรรพสามิต ลดลง 5%
ฮอนด้า ออโตโมบิลถือจังหวะที่ ภาษีสรรพสามิตรใหม่จัดเก็บโดยอิงจากมลพิษน้อยเสียภาษีต่ำ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของเครื่องดีเซล 1.6 ลิตร ที่เสียภาษีสรรพสามิต 30% จากเดิมที่เสียภาษี 35% ในรถที่มีมลพิษมากว่า 150กรัม/กิโลเมตร
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามต้องรอให้รถมีการเปลี่ยนโมเดลเพราะจะทำให้เกิดความคุ้มทุนและการเคลียร์ของเก่าได้ตามระบบแน่นอนว่า ซีอาร์-วี โฉมใหม่ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มี.ค.60 ได้จังหวะที่ลงตัวพอดิบพอดี
ซีอาร์-วี ใหม่ เป็นรถเจเนอเรชั่นที่ 5    ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง ด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง  พลังขับเคลื่อน มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์คือ
ดีเซล1.6ลิตรใหม่
เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซล ขนาดใหญ่ ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire) ประหยัดน้ำมัน  18.9 กิโลเมตร/ลิตร*  อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตรา 141 กรัม/กิโลเมตร* (*รุ่น DT E)
 เบนซิน 2.4 คงเดิม
เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ ให้กำลัง  173 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้การตอบสนองที่ทันใจ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85
2.0ลิตรหายไป
สำหรับเครื่องยนต์ 2.0ลิตรเบนซินที่เคยอยู่ในซีอารื-วี ตัวล่างได้ถูกยกเลิกไปซึ่งด้วยเหตุผลสำคัญคือ การเอาดีเซลเข้ามาทำตลาดแทนในตัวล่างและได้เปรียบในเรื่องภาษีที่ลดลงเพราะให้ค่ามลพิษที่ต่ำกว่า
โนริอากิ อาเบะ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยนับเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของฮอนด้า โดยเป็นฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ทั้งยังเป็นตลาดที่สำคัญในภูมิภาคอีกด้วย และในครั้งนี้ ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในภูมิภาคและเป็นประเทศ ที่สามของโลกต่อจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดาที่เปิดตัว ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ นี้ ซึ่ง ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งของฮอนด้า ด้วยการเป็นยนตรกรรมเอสยูวีที่ครองใจลูกค้าทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายสะสมกว่า 8.7 ล้านคัน โดยฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ จะทำการผลิตที่โรงงานของฮอนด้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และมีแผนการส่งออกรถซีอาร์-วี (CBU) และชิ้นส่วน (CKD Sets) รวม 75,000 คัน ภายในหนึ่งปี”
พลิกปูมซีอาร์-ซี
   นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่การเปิดตัว ฮอนด้า ซีอาร์-วี เจเนอเรชั่นที่ 1 เข้าสู่ประเทศไทย เมื่อปี 2539 ฮอนด้า ซีอาร์-วี นับเป็นโมเดลที่มีส่วนสำคัญในการสร้างกระแสความนิยมรถเอสยูวีให้เพิ่มขึ้นและกระจายความนิยมไปยังลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ฮอนด้าจึงได้เปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี และฮอนด้า บีอาร์-วี ซึ่งส่งผลให้ ฮอนด้า ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเอสยูวี ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 60% อีกทั้งทำให้ตลาดเอสยูวีเติบโตขึ้น และกลายเป็น เซ็กเมนต์ที่สำคัญของตลาดรถยนต์นั่งประเทศไทย ด้วยสัดส่วนกว่า 15% และในครั้งนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5 จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถเอสยูวีอีกครั้ง”
 
ภาพลักษ์โฉมหน้าสวยงาม
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ดีไซน์ใหม่รอบคันที่ให้ความรู้สึกหรูหรา แข็งแกร่ง ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่แบบ LED  มี  Daytime Running Light  กระจังหน้าแบบพรีเมียม และล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตใหม่
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3  แผงคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยเส้นสายลายไม้และ วัสดุสี Piano Black อุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ i-Dual Zone  ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย
ฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้าด้วยระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) พร้อมควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมท และสามารถปรับระดับความสูงของการเปิดฝากระโปรงท้ายได้ตามต้องการ และเบาะนั่งที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับผู้โดยสารและการใช้งานที่หลากหลาย
ความปลอดภัย ซีอาร์-วีติดตั้ง ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของ ผู้ขับขี่ (Driver Attention Monitor) ผ่านการควบคุมพวงมาลัยและแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT พร้อมการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold)
เปิดราคา อัพเดท
สำหรับราคาของซีอาร์-วีโฉมใหม่ มีดังนี้
เครื่องยนต์ดีเซล

Advertisements
  • รุ่น DT EL 4WD             ราคา 1,699,000 บาท
  • รุ่น DT E                        ราคา 1,549,000 บาท

เครื่องยนต์เบนซิน

  • รุ่น 2.4 EL 4WD             ราคา 1,549,000 บาท
  • รุ่น 2.4 E                       ราคา 1,399,000 บาท
    [table “164” not found /]
    ตัวเลือก5 สี  

สีรถฮอนด้า ซีอาร์-วี เจน5 มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวออร์คิด (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีใหม่ คือ สีเขียวดาร์กโอลีฟ (เมทัลลิก)
– สีดาร์กโอลีฟ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น DT EL 4WD และ 2.4 EL 4WD
– สำหรับสีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
การตลาด 
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เตรียมจัดแสดง ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย. 2560 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2560 สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2560 สำหรับ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศหรือ www.honda.co.th/crv
คู่แข่ง
ฮอนด้า -ซีอาร์ -วี มีคู่แข่งสำคัญ คือรถยนต์ในกลุ่มคอมแพค เอสยูวีทั้งรถแบบโมโนคอค และรถแบบ บอดี้ออนเฟรม
กลุ่มโมโนคอค ได้แก่ มาสด้า CX-5 และนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด เป็นตัวหลัก  ส่วนกลุ่ม บอดี้ออนเฟรมได้แก่รถPPVตัวล่างในตลาดทั้งหมดเช่น โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ฟอร์ดเอเวอร์เรส มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ตและเชฟโรเลต เทรลเบร์เซอร์  
 
 

Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img