“โดยในปีนี้มีแบรนด์รถยนต์เข้าร่วมงานมากถึง 30 กว่าแบรนด์ เริ่มจากค่ายญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Lexus, Nissan, Honda, Mitsubishi, Isuzu, Mazda, Subaru, Suzuki ส่วนรถเกาหลีอีก 2 แบรนด์คือ KIA และ Hyundai เป็นต้น ในส่วนของแบรนด์รถยุโรปและรถอเมริกัน ก็มาร่วมงานอย่างมากมาย อาทิ Audi, BMW, Bentley, Mercedes-Benz, MINI, Jaguar, Porsche, Land Rover, Volvo, MG, Ford, Maserati, Chevrolet ฯลฯ ส่วนค่ายรถจักรยานยนต์เข้าร่วมทั้งหมด 15 แบรนด์ อาทิ Honda, Yamaha, Suzuki, Kawasaki, Harley-Davidson, Triumph, Royal Enfield เป็นต้น รวมทั้งปีนี้ยังได้รับความร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบการชิ้นส่วน, อุปกรณ์ตกแต่ง จากประเทศจีน มาร่วมงานเป็นครั้งแรก! ซึ่งในอนาคตจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของงานที่เติบโตขึ้น จากความร่วมมือในหลายประเทศในภูมิภาคอีกด้วย ไฮไลต์ในงานยังคงเป็นรถคอนเซปต์คาร์ และรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกในไทย ที่แต่ละค่ายเตรียมมาสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชม รวมทั้งการนำเสนอการแสดงโชว์ที่ตื่นเต้นเร้าใจด้วยงบลงทุนมหาศาล ทั้งเวทีแสงสีเสียง เทคนิคพิเศษ เหมือนที่เคยแสดงมาแล้วในงานระดับโลก ถูกส่งตรงถึงประเทศไทย ส่วนเรื่องที่ต้องจับตาคือ “ยานยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งในอนาคตรถไฟฟ้าคืออะไร ไม่ใช่เพียงแค่รถส่วนบุคคลเท่านั้น ยังรวมถึงภาคการเกษตร ขนส่ง และกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งผู้เข้าชมงานสามารถมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันได้ภายในงาน
การจัดแสดง”นวัตกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ซึ่งรถยนต์ มีคโทรนิคตืแนวโน้มเป็นรถทางเลือก ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 มาพร้อมกับธีมงาน Revolution in Motion ‘ปฏิวัติทุกความเคลื่อนไหว’ ความก้าวหน้า และการพัฒนาทางเทคโนโลยียานยนต์ ส่งผลให้ยนตรกรรมเป็นมากกว่