BYD e6 รถไฟฟ้า 100% วีไอพีแท็กซี่ไทย 2018

- Advertisement -
- Advertisement -

BYD  ย่อมาจาก (Build Your Dream) โดยพื้นฐานเป็นบริษัทฯผลิตแบตเตอรี่ในจีน แล้วมาต่อยอดมาเป็นบริษัทรถ EV ณ.ปัจจุบัน BYD e6 เป็นรถแท็กซี่ยอดนิยมในจีน สำหรับในประเทศไทยในปี2018 ทาง BYD มีโปรเจคนำร่องนำรถ e6เข้ามาให้บริการแท็กซี่ วีไอพี รถไฟฟ้าเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ รถสาธารณะให้บริการในประเทศไทย

Advertisements
รถไฟฟ้าBYD  E6
รถไฟฟ้าBYD  E6

รถไฟฟ้าBYD  E6 ผลิตในจีน นี้เป็นรถขนาด5นั่ง  ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์หรือประมาณ 125 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ชนิดลิเทียม มีความจุแบตเตอรี่ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมงโดยใช้เครื่องชาร์จ 40 กิโลวัตต์(Quick Charge คือความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่ ให้ได้ปริมาณไฟที่มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง) ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้าไม่ถึง 2 ช.มซึ่งการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ชาร์จ ใช้ไฟฟ้าสามเฟสในการชาร์จสามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 350 ก.มความเร็วสูงสุด 150 ก.ม/ช.ม ในกรณีที่ใช้เครื่องชาร์จแบบธรรมดา เครื่องชาร์จ 7 กิโลวัตต์ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้าไม่เกิน10-11 ช.ม(ต้องแบตเตอรี่ในรถ 0%ทั้ง2เครื่องชาร์จ)ซึ่งการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ชาร์จ ใช้ไฟฟ้าซิงเกิ้ลเฟสหรือไฟบ้านที่เราใช้กันประจำในการชาร์จนั่นเองครับ นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นในเฉพาะรถไฟฟ้าทุกรุ่นใช้เทคโนโลยีการชาร์จและการถ่ายเทไฟฟ้าไปอีกคันโดยกรณีที่รถอีกคัน แบตเตอรี่หมดสตารท์ไม่ได้หรือเคลื่อนย้ายรถไม่ได้ ถ้าให้นึกภาพก้อจะคล้าย การใช้เพาเวอร์แบ็งค์ที่ชาร์จสำรอง ครับส่วนของราคาที่เปิดตัวจำหน่าย รุ่นธรรมดา 1.89 ล้าน ถ้าเป็นรุ่นลักซ์ชัวรี่ ที่อุปกรณ์เติมแต่ง ราคาที่ 1.92ล้าน ราคานี้ไม่รวมเครื่องชาร์จไฟ2แบบที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ขนาดชาร์จเร็ว (ควิกชาร์จใช้ไฟ3เฟส หรือ ไฟบ้านธรรมดา ซิงเกิ้ลเฟส )

เครื่องชารท์ 40 กิโลวัตต์(Quick Charge)

โดยในปี2018นี้จะมีการนำรถยนต์นั่งไฟฟ้ารุ่น E6 นี้ ซึ่งจะเปิดตัวเป็น”แท็กซี่วีไอพี”  มาใช้ในภาคธุรกิจการขนส่งสาธารณะเเละบริการในเดือน สิงหาคมจำนวน100คันและในปี2019 เป้าหมายที่บริการ จำนวน 1,ooo คันเนื่องจากเป็นรถประหยัดพลังงาน ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไม่มีไอเสีย ปราศจากมลพิษภาวะเเละเงียบขณะขับขี่ ช่วยให้อากาศในเมืองสะอาดขึ้นในอนาคตรถไฟฟ้าอาจจะเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลก ก้อต้องดูกันต่อไปน่ะว่ารถไฟฟ้าจะเกิดขึ้นในไทยผู้บริโภคกับการใช้เทคโนโลยียานยนต์ใหม่อนาคตจะตอบสนองมั้ยปัจจัยแน่นอนครับภาษี ถูกลงแน่แน่ แต่ราคาค่อนข้างที่จะควักมาซื้อรถไฟฟ้า 100%และการให้บริการศูนย์เซอร์วิสนั่นล่ะครับที่น่าจะกังวลมากของรถไฟฟ้าที่นำเข้ามาสู่ตลาดไทยระยะ2-3ปีนี้ครับ แต่ยังงัยก็คงต้องใช้รถไฟฟ้าแน่ แน่ อีกกี่ปีหล่ะครับพี่ไทยครับ!!!!!!!!!
 
 
 

Advertisements
- Advertisement -

Related news

- Advertisement -
Exit mobile version