Advertisements
Home EDITOR PICKS “หยุดกับย้าย” เรื่องใหญ่ต่างกัน กรณีปิดไลน์แอททราจและ มิราจ

“หยุดกับย้าย” เรื่องใหญ่ต่างกัน กรณีปิดไลน์แอททราจและ มิราจ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย แจงเอกสารแถลงข้อเท็จจริงเรื่องที่ว่า ประชาชาติธุรกิจ ฉบับออนไลน์ 16 มิ.ย.67 พาดหัว ว่า มิตซูเตรียมหยุดสายพานการผลิต รถ2 รุ่นในไทย (อ่านรายละเอียดที่นี่) ซึ่งมิตซูบิชิ โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้ชี้แจง รายละเอียดมา สรุปว่า ยังไม่หยุดเดินสายการผลิตทั้ง 2 รุ่น เพราะยังขายได้ ทั้งในประเทศและส่งออกไปกว่า 80% ของกำลังการผลิตสำหรับในประเทศมิตซูฯก็เป็นผู้นำตลาดเก๋งเบอร์3รองจากโตโยต้า ฮอนด้า แม้ว่าจะมีรถเก๋งเพียง2รุ่นไว้แข่งในตลาดก็ตามซึ่งก็น่าชื่นชมมิตซูบิชิเพราะว่ารถเก๋งมิตซูบิชิทั้ง2รุ่นอยู่ในโครงการอีโคคาร์2 เริ่มต้นขายกันมาตั้งแต่อีโคคาร์1เมื่อ11ปีที่แล้ว จนโครงการอีโคคาร์2จะครบโหมดการสิ้นสุดการให้สิทธิพิเศษในปี2568หรืออีก1ปีข้างหน้า

Advertisements


ซึ่งใครจะทำโครงการต่อก็ไม่มีใครเขาว่า หรือจะย้ายไปเลือกสิทธิพิเศษทางภาษีและจากBOI ในโครงการEV3.5ก็ได้ อย่างซูซูกิเขาไม่มีรถยนต์BEVก็พอแค่นี้ไม่ไปต่อ ภาคการผลิตก็หยุดใช้การนำเข้ารถจากเมืองนอกแทนเพราะว่าไม่ได้พึ่งพาสิทธิทางด้านผลประโยชน์จากการลงทุนแล้ว ตามมาด้วยข่าวใหญ่คือการย้ายฐานการผลิตออกจากเมืองไทย การย้ายฐานของซุบารุทีเคยเป็นข่าว”ย้ายเหมือนกันแต่เหตุต่างกัน”จะมีคล้ายกันตรงที่ เรื่องของการแข่งขันภายในประเทศที่ผู้ผลิตมองว่า ฝั่งที่ไม่มีรถBEVเสียเปรียบเพราะไม่ได้ เงินสนับสนุน1-1.5แสนจากโครงการภาครัฐและภาษีสรรพสามิตที่ให้แต้มต่อรถBEV มากกว่ารถน้ำมัน
ในกรณีของมิตซูบิชิ เป็นเรื่องขึ้นฟีดความสนใจของผู้คน ตรงที่ว่า ข่าวว่า หยุดไลน์การผลิต มันเกิดใกล้เตียงกับ2ค่ายย้ายฐานออกจากไทยไป สะท้อนความเชื่อมั่นที่เหลือไม่มากของบรรดาคนคิดแบบเดียวกัน คือ ปิดแล้วย้ายฐานไปอีกรายหรือเปล่า

สรุปไม่ปิดไลน์ไม่ย้ายฐานแต่โอกาสเป็นอย่างไรสำหรับกรณีมิตซูบิชิ
สินค้าอีโคคาร์ของมิตซูบิชิ มีProduct Lifecycle (PLC) นานแล้วหรือยัง สินค้าอายุ เกือบ12ปี ก็ถือว่า นานแล้วเลยช่วงปกติของการเปลี่ยนแบบออลนิวส์ไปแล้วแม้รถทั้ง2 จะทำการรีเฟรสใหม่ในรอยต่อระหวางอีโคคาร์ 1 มา 2 แต่แพลทฟอร์มก็คือตัวเดียวกันถ้าจะบอกถึงเวลาแล้วก็ใช่แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องตายตัวว่า 4 ปี 8 ปีหรือ 12 ปีต้องเปลี่ยน ถ้าตลาดยังตอบรับสินค้าแข่งขันได้กำไรดี หรือ กำไรไม่ดีแต่บริษัทแม่ยังไม่มีเงินทำรุ่นใหม่หลายปัจจัยที่เป็นตัวแปรทำให้ PCL มันยาวไป
“เท่าที่ดูแถลงข่าวก็ไม่น่าจะหยุดเร็วๆ น่าจะเกิน12เดือนขึ้นไป และหากหยุด คือเข้าโหมด End of Product (EOP) ก็ต้องดูว่า ผู้ผลิตอย่างมิตซูบิชิจะเลือกแบบไหน ทำต่อด้วยสินค้ากลุ่มเดิมหรือ หาโมเดลใหม่มาทำแทนถ้าหยุดไม่มีเช็คเมนท์ มาทดแทนก็เท่ากับการปิดไลน์ไป ซึ่งการปิดไลน์ผลิตไม่ใช่ย้ายฐาน เพราะเป็นเรื่องปกติของสินค้าตลาดต้องการแบบไหนก็เลือกสินค้ามาป้อน”ยกเว้นแต่จะหยุดไปเรื่อยๆ ไม่มีไลน์ใหม่มาเพิ่มนั่นละความหมายปลายเปิดคือไม่มีงานทำ เท่ากับย้ายฐานแล้ว

Advertisements

ที่จริง ในบรรดาซัพพลายเออร์ก็เคยได้สัญญาณเรื่อง End of Product (EOP) ของมิตซูบิชิ อีโคคาร์ มาบ้างแต่ยังไม่นิ่งเพราะเปลี่ยนไปมาอาจเป็นเพราะต้องดูทิศทางนโยบายของรัฐและองค์ประกอบอื่นๆ เมื่อมีชัดเจนเมื่อไรซัพพลายเอร์ก็จะได้รับสัญญาณ รันดาวน์ แสดงว่าเกิดการตัดสินใจแล้วสำหรับอนาคตของโปรดักซ์ ส่วนคนใช้รถก็ไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะ แม้รถจะเปลี่ยนรุ่นหรือไม่ไปต่อ อะไหล่ ชิ้นส่วนของอีโคคาร์จากมิตซูบิชิก็เกลื่อนตลาด ช่างก็หาง่าย ไปที่ไหนก็ซ่อมได้ แถมราคาไม่แพง
มิตซูบิชิ ค่ายรถเจ้าแรกในประวัติศาสตร์ยานยนต์ญี่ปุ่นที่ย้ายฐานการผลิตรถกระบะทั้งหมดมาไทยกำลังการผลิตรถยนต์มากกว่า 400,000 คันต่อปี เป็นโรงงานผลิตรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น มีการลงทุนลึกไปจนถึงงานR&D มีสนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชาจังหวัด ชลบุรี ถ้าย้ายคงเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก

Advertisements
Exit mobile version