Homeข่าวข่าวในประเทศฮอนด้าเปิดแนวรบมินิ เอสยูวีส่ง“ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่”ลงตลาดเคาะราคาเริ่มต้น7.99แสนบาท

ฮอนด้าเปิดแนวรบมินิ เอสยูวีส่ง“ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่”ลงตลาดเคาะราคาเริ่มต้น7.99แสนบาท

(กรุงเทพฯ – 10 มี ค.66) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวแนะนำ รถยนต์ เอนกประสงค์(เอสยูวี)รุ่นใหม่ล่าสุด ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี (WR-V)เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เคาะราคาเริ่มต้นรุ่นSV 7.99แสน และรุ่น RS ราคา 8.69แสนบาท

Advertisements

(กรุงเทพฯ – 10 มี ค.66) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวแนะนำ รถยนต์ เอนกประสงค์(เอสยูวี)รุ่นใหม่ล่าสุด ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี (WR-V)เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เคาะราคาเริ่มต้นรุ่นSV 7.99แสน และรุ่น RS ราคา 8.69แสนบาท

นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า ตลาดรถเอสยูวีถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้าในฐานะผู้บุกเบิกเซกเมนต์
นี้มาในอดีต ทั้ง ซีอาร์-วี เอชอาร์-วี และบีอาร์-วี ถือเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีในประเทศไทยมาอย่างยาวนานล่าสุด ฮอนด้าได้แนะนำ รถเอสยูวีสำหรับการขับขี่สไตล์คนเมืองยุคใหม่ รุ่น ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ซึ่งเป็นรถ อเนกประสงค์ 5 ที่นั่งรุ่นล่าสุด
การเปิดตัว ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ในครั้งนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าอีกด้วย
ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RSราคา 869,000 บาทและ รุ่น SV ราคา 799,000 บาทโดยมี สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เม

ทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า
ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มีขนาด 5 ที่นั่ง ที่ผสมผสานความสปอร์ตและความพรีเมียมเข้ากับเอกลักษณ์เอสยูวีได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่

การออกแบบภายนอก
ภายนอก กระจังหน้าโครเมียม มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED sequential และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
ในรุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียม ด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว

การออกแบบภายใน

Advertisements

โดดเด่น สามารถพับเบาะแถวหลัง 60:40 (ซ้ายหรือขวา) พับเบาะแถวหลังทั้งหมด และวัสดุที่ใช้กับเบาะที่นั่งให้สัมผัสนุ่ม เสริมความพรีเมียมมากขึ้นด้วยภายในสีดำ วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน
มือจับประตูด้านในสีเงิน เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้ ภายในให้ความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นกับรุ่น RS
วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง-ต่ำได้
คิ้วบันไดสเตนเลสที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว* อาทิระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบทำความเย็นเร็วและโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย
พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV) หรือด้านหน้าและด้านหลัง (รุ่น RS) แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น SV) และแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS)
กระจกมองหลังแบบตัดแสงกระจกไฟฟ้า 4 บานพร้อมระบบปรับขึ้นลงอัตโนมัติด้านคนขับช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง ที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง
ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้ายราวมือจับ 3 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 4 ตำแหน่ง (รุ่น RS)

เครื่อง1.5ลิตร 121 แรงม้า
ฮอนด้าใช้ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT โดยเครื่องยนต์ ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที บสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว อัตราการประหยัดน้ำมัน 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20

อุปกรณ์ความปลอดภัย ล้ำสมัย ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
-ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
-ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
-ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
-ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
-ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ* อาทิ
-ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น RS)
-ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
-ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
-ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (รุ่น RS)
-ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
-ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
-กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
-ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock by Speed)
-ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตช์ควบคุมตำแหน่งคนขับ
-ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
-เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง แบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
-ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
-สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
-ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
-ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
-ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
-โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
-จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
-ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

สั่งการได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส กับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และความสะดวกสบาย*
เชื่อมต่อคุณและรถให้เป็นหนึ่งเดียว
-ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
-ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
-ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
-มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
-ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator)
-ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
-ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
-พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
-ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS)
-ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
-ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง
-ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น RS)
-Honda CONNECT เทคโนโลยีที่เชื่อมคุณและรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (รุ่น RS)

ดับเบิลยูอาร์-วีมาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ในสไตล์รถ SUV ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด “Sporty & Premium” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วตกแต่งฝากระโปรงท้าย ราคา 1,900 บาท คิ้วกันสาด ราคา 2,500 บาท ฟิล์มตกแต่ง

เสาประตูหลัง ราคา 1,300 บาท ฟิล์มสะท้อนแสงข้างประตู ราคา 1,250 บาท ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส ราคา 600 บาท เป็นต้น หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
-Modulo Sport Package ราคา 14,990 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง
มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29%** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท** เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566**

ลูกค้าที่สนใจสามารถมาสัมผัส ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ครั้งที่ 44 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566
ลูกค้าสามารถทดลองขับ ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับทาง www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 1 ก. พ – 31 มี.66 จะได้รับฟรีบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 200 บาท**

หมายเหตุ
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 10,000 บาท สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
  • ราคาอุปกรณ์ตกแต่งไม่รวม VAT 7% ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/wrv
Advertisements
RELATED ARTICLES
Exit mobile version