ฮุนได โมบิลิตี้ เปิดศักราชลุยตลาดในไทย ส่ง “สตาร์เกเซอร์“ ท้าชนวงการมินิเอ็มพีวี เปิดจอง“มอเตอร์โชว์ 2023”
กรุงเทพฯ 20 มีนาคม 2566 – บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในเครือ ฮุนได มอเตอร์ ประเทศเกาหลี ซึ่งเพิ่งเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการเมื่อ มีนาคม2566 เริ่มต้นส่งผลิตภัณฑ์แรกในนามฮุนได โดยเป็นการแนะนำ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่ง “ฮุนได สตาร์เกเซอร์” ฮุนได สตาร์เกเซอร์ พร้อมจำหน่าย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นเทรนด์, สไตล์, สมาร์ท 7 และ สมาร์ท 6 เปิดให้จองพร้อมกัน ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัดผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฮุนได จากเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ฮุนได โมบิลิตี้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเทศไทย ในฐานะตลาดที่สำคัญของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก (มินิเอ็มพีวี) ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ที่สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วไป ดังนั้น ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จึงได้เปิดตัวรถยนต์รุ่น “ฮุนได สตาร์เกเซอร์” เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญทั้งในด้านการบริหารและการทำตลาดโดยฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) พร้อมด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของรถมินิเอ็มพีวีอเนกประสงค์ขนาด 6 และ7 ที่นั่ง ครบครันทั้งการขับขี่ การออกแบบที่คำนึงถึงความสบายที่สุดของทุกที่นั่ง พร้อมด้วยสมรรถนะและนวัตกรรมภายใต้มาตรฐานอันล้ำสมัย ในราคาที่พร้อมแข่งขัน กับผู้เล่นอื่นในตลาดแน่นอน
ราคาเริ่มต้น 7.69แสน
“ราคาของ ฮุนได สตาร์เกเซอร์ มีจำหน่าย ดังนี้ รุ่นเทรนด์ ราคา 769,000 บาท, สไตล์ ราคา 829,000 บาท, สมาร์ท 7 ราคา 869,000 บาท สมาร์ท 6 ราคา 889,000 บาท และรุ่นพิเศษ สมาร์ท 6 Black Roof ราคา 909,000 บาท”
ตลาดรถมินิเอ็มพีวีในประเทศไทย มีการเติบโตที่น่าจับตามอง เห็นได้จากยอดขายในปีที่ผ่านมา รถประเภทมินิเอ็มพีวีมียอดขายรวมกว่า 27,000 คัน เป็นภาพสะท้อนของภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และจากการที่บริษัทฯนำฮุนได สตาร์เกเซอร์ มาปรากฏตัวในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อ ปลายปี2565ที่ผ่านมา พบว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัวทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ กลุ่มผู้ทำธุรกิจ เพราะเป็นรถที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และในปีนี้ เราพร้อมจะบุกตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาและข้อเสนอที่คุ้มค่า
Captain Seat เจ้าแรกของมินิเอ็มพีวี
นายเจ กิว จอง กล่าวอีกว่า ฮุนได สตาร์เกเซอร์ ออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ปต์ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารเป็นที่เติมเต็มความสุขร่วมกันภายในครอบครัวในทุกครั้งที่เดินทาง รูปลักษณ์ ภายนอกที่หรูหราที่มาพร้อมกับตัวถังที่แข็งแรงและปลอดภัย ด้วยมาตรฐานของเหล็กคุณภาพระดับโลก โดยรถรุ่นนี้ประกอบจาก ประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การควบคุมมาตรฐาน โดยฮุนได มอเตอร์ จากสาธารณรัฐเกาหลี
การออกแบบภายในเน้นการออกแบบที่คำนึงถึงความสบายและความปลอดภัยของทุกที่นั่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ดีไซน์กระจกขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด อีกทั้งจัดเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น โต๊ะพับหลังพนักพิงด้านหน้า ถาดเก็บของแบบซ่อนที่คอนโซลหน้า การปรับระดับเบาะโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยการจัดวางเบาะที่นั่ง 3 แถว ซึ่งทุกแถวสามารถนั่งได้สบายไม่ว่าระยะทางใกล้หรือใกล้ และความพิเศษสุด มาในรุ่นท็อป (สมาร์ท 6) เป็นเบาะที่นั่ง 3 แถว 6 ที่นั่ง โดยเบาะแถวที่ 2 มาแบบ Captain Seat เจ้าแรกของมินิเอ็มพีวีในประเทศไทย
เครื่องเบนซิน 1.5ลิตร115แรงม้า
ทางด้านสมรรถนะและความปลอดภัย ฮุนไดสตาร์เกเซอร์ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พร้อมระบบเกียร์ IVT ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร การออกแบบตัวถังที่ลู่ลมและปราดเปรียว ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ขับขี่สนุกได้ดั่งใจทั้ง eco mode และ sport mode พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน, ระบบป้องกันการเปิดประตูสไลด์เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง ที่ช่วยสนับสนุนผู้ขับขี่ได้ทุกเส้นทางไม่ว่าในเมือง – หรือระยะทางไกล
วางตลาด4รุ่นย่อย
ฮุนได สตาร์เกเซอร์ มีจำหน่าย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นเทรนด์, สไตล์, สมาร์ท 7 และ สมาร์ท 6 มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ มิดไนท์ แบล็ก เพิร์ล, สีขาว ครีมมี่ ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก และ สีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก โดยในรุ่นท็อป สมาร์ท 6 จะมาพร้อมกับสีตัวถังแบบทูโทนด้วยหลังคาสีดำ
เปิดแคมเปญมอเตอร์โชว์2023
ฮุนไดเปิดให้จอง แล้วตั้งแต่วันนี้ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี พร้อมด้วยโปรโมชั่น อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% เมื่อดาวน์ 25% หรือ 30% และผ่อนชำระ 48 เดือน, ผ่อนชำระเงินดาวน์นาน 6 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย, ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 5 ปี, ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 2 ปี หรือ 40,000 กม.