ปล่อยภาพโมเดลs สีแดงปลุกกระแสรถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับสารที่ส่งมาจากเทสล่า มีเพียงคำว่า”สวัสดีประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงกำลังมาถึงในเดือนธันวาคม 2565 นี้“เท่านั้นทั้งนี้ในส่วนของความเคลื่อนไหวของเทสล่าก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2565 ที่ผ่านมาเทสลาได้จดทะเบียนบริษัทในไทยด้วยทุนจดทะเบียน 3ล้านบาท ภายใต้ชื่อ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัดประเทศไทย จำกัด
แหล่งข่าวระบุว่า การทำตลาดของเทสลา ในช่วงแรกจะแนะนำรถยนต์รุ่นโมเดล Y ในรูปแบบรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูป(CBU) จากจีนเรื่องจากมีความพร้อมในฐานการผลิตของโรงงานเซียงไฮ้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งเดียวในเอเชีย ส่วนการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ การลงทุนในอินโดนีเซียนั้นยังไม่มีความคืบหน้ายกเว้นการซื้อวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่ของอินโดฯเท่านั้น อย่างไรก็ตามแผนระยะยาวของเทสลาคือการมองหาฐานการผลิตรถพวงมาลัยขวาและจากเงื่อนไขการนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของไทย มีแนวโน้มว่าไทยน่าจะเป็นที่ตั้งของแหล่งผลิตแหล่งใหม่ของเทสลาในอาเซียน
ซึ่งในด้านข้อได้เปรียบของไทยมีความพร้อมในด้านแรงงานฝีมือและซัพพลายเชนในการประกอบรถมากกว่า เห็นได้จากรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์สำคัญคือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ ได้เริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก คือ EQS 500 4MATIC AMG Premium ในแบบ ประกอบในประเทศ(CKD) ล็อตแรกอย่างเป็นทางการออกมาจำหน่ายแล้ว
สำหรับแหล่งผลิตของเทสลาในปัจจุบันมีดังนี้
1.โรงงานฟรีมอนต์ แคลิฟอร์เนีย- เป็นโรงงานแห่งแรกของเทสลาผลิต Model S, Model 3, Model X และ Model Y 2.G.igafactory เนวาดา -หนึ่งในโรงงานผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และระบบส่งกำลังที่มีปริมาณมากที่สุดในโลก 3.Gigafactory นิวยอร์ก-เป็นโรงงานชิ้นส่วน หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ แผงเซลล์แสงอาทิตย์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับซูเปอร์ชาร์จเจอร์ 4.Gigafactory เซี่ยงไฮ้-เป็นโรงงานแห่งแรกของ Tesla ในต่างประเทศ—ผลิต Model 3 และ Model Y 5.Gigafactory เท็กซัส-เป็นสำนักงานใหญ่ระดับโลกแห่งใหม่ของ Tesla ผลิต Model Y และเป็นแหล่งผลิตของกระบะแห่งอนาคต Cybertruck 6.Gigafactory เบอร์ลิน—บรันเดนบูร์ก- เป็นโรงงานในยุโรปแห่งแรกของเทสลาผลิต Model Y และจะผลิตแบตเตอรี่รวมถึงชิ้นส่วนอื่นๆ อีกจำนวนมาก