วางตลาดทั้งแบบ 4และ7 ทั่นั่งเคราะหราคา เริ่มต้น 6.29ล้าน โดยเฉลี่ยราคาเพิ่ม 7.9แสน-1ล้านบาท
เลกซัส แบรนด์ที่ให้มุ่งมั่นมั่นในจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมนับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1989 โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอคุณค่าใหม่ๆ ให้กับลูกค้าผ่านการออกแบบและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า สำหรับในไทยเป็นการนำเข้าจาก โตโยต้า ออโต้ บอดี้ ญี่ปุ่น (Inabe Plant)
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ แถลงข่าวการเปิดตัว รถยนต์หรูหราแบบมินิแวน ( Luxury Mini Van ) เลกซัสLM โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการ เมื่อ
วันที่ 1 ก.ย.66 ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
นายยามาชิตะ เปิดเผยว่า เลกซัสรุ่นใหม่ เลกซัสLM เป็นยนตรกรรมไฟฟ้า เลกซัสElectrified รุ่นล่าสุด ภายใต้ “เลกซัสChapter of Design Concept” หลังจากความสำเร็จของรุ่น All-New NX, RX และรถ BEV เต็มรูปแบบ รุ่น RZ โดยเลกซัสได้เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2536 และปีนี้เป็นวาระครบรอบ 30 ปีของเลกซัส ในประเทศไทย
“วิสัยทัศน์ของเลกซัสคือ การทำให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล มุ่งสร้างประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ โดยเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นความชื่นชอบ เปลี่ยนสมรรถนะให้เป็นความหลงใหลและเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหนือกว่าจินตนาการ โดยคุณค่าหลักอันสำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งของเลกซัส นั่นคือ “Omotenashi” สื่อถึงจิตวิญญาณการบริการที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งฝังรากลึกในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น การปรนนิบัติลูกค้าให้ผ่อนคลายดั่งการได้พักผ่อนอยู่ในบ้านของตน การเข้าใจความต้องการ และมอบบริการยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมา
โดย LM ย่อมาจาก “Luxury Mover” สื่อถึงความตั้งใจในการพัฒนารถรุ่นนี้เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้า ที่ต้องการใช้รถ MPV แบบมีคนขับ เลกซัสLM ได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ นำเสนอทั้งความคล่องแคล่ว ความหรูหรา และความสง่างาม ภายในสร้างสภาพแวดล้อมอันผ่อนคลาย ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรม หรือห้องทำงานเคลื่อนที่ ยิ่งไปกว่านั้น เอกลักษณ์การขับขี่เฉพาะแบบเลกซัส
นายศุภกร เปิดเผยว่า นับจากการเปิดตัว เลกซัสLM เจนเนอเรชั่น 1 ซึ่งจำหน่ายในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2563 ถือได้ว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของยนตรกรรม Luxury Minivan ไปอีกขั้น ทำให้เลกซัสLM กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ต้องการห้องโดยสารที่มีความสะดวกสบาย พร้อมความประณีต และพิถีพิถันในการผลิตสูงสุด ตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำในประเทศไทย
“แนวทางการออกแบบ เลกซัสLM ใหม่ ได้ถูกหล่อหลอม และสะท้อนวิสัยทัศน์ของเลกซัส ภายใต้แนวคิด “Making Luxury Personal” หรือ “การทำให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ขึ้นไปอีกขั้นเพื่อให้มั่นใจว่าทุกวินาทีที่อยู่ภายในห้องโดยสารของ LM จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบ
The All-New เลกซัสLM: มีจุดเด่น7 ด้าน(The 7 Magnificence)
1.“Sophisticated Exterior” การออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมดสง่างาม และทันสมัย ด้วยแนวทางการออกแบบภายนอก “Dignified Elegancy” เริ่มจากกระจังหน้ารูปแบบ “Lexus’s Resolute Look” ที่นำมาออกแบบให้เป็น “Unified Spindle” พร้อมไฟหน้าที่เฉียบคม ทันสมัย โปรไฟล์ด้านข้างตัวรถที่ยาวขึ้น สะท้อนการออกแบบที่เน้นความสบายของห้องโดยสารตอนหลังเป็นอันดับแรก และโดดเด่นด้วยไฟท้าย L-Signature Light Bar ขนาดใหญ่ เสริมรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง
- “Grand Interior” ห้องโดยสารภายในที่หรูหราและประณีต ด้วยการออกแบบที่ยกเอาห้องนั่งเล่น และห้องทำงานมาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกสงบ และสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในรุ่น 4 และ 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังออกแบบโดยให้ความสำคัญกับทุกๆ ตำแหน่งของเบาะนั่งรวมถึงตำแหน่งผู้ขับตามหลักแนวคิด TAZUNA ให้ตำแหน่งของผู้ขับขี่อยู่บริเวณกึ่งกลาง วางทุกอย่างให้โอบล้อม ผู้ขับ สามารถเอื้อมใช้งานได้สะดวกไม่ต้องละสายตาจากถนน
- “First Class Cabin Lounge” ห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาสภายในห้องโดยสารตอนหลังออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ ด้วยแรงบันดาลใจจากที่นั่งเครื่องบินโดยสารชั้น First class พร้อมผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว กระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ หน้าจอขนาดใหญ่ 48 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศ “Mark Levinson Reference 3D Surround Sound System” ช่องเก็บของ ช่องแช่เครื่องดื่ม จุดชาร์จไฟ รองรับทุกความต้องการ เบาะนั่งที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมระบบควบคุมความร้อน / เย็นของเบาะนั่ง ปรับเอนนอนได้ในองศาที่มากขึ้นกว่าเดิม โอบล้อมสรีระ ให้การซัพพอร์ตได้อย่างเหมาะสม ลดแรงสั่นสะเทือนที่มาจากภายนอกรถ พร้อม “Relaxation Function” ระบบนวดที่ทำให้ทุกการเดินทางผ่อนคลาย สะดวกสบายสูงสุด
- “Personalized Customization” ฟังก์ชันปรับแต่งเฉพาะบุคคลความหรูหราที่ตอบสนองทุกรสนิยมส่วนบุคคล พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ Personalized Screen สามารถแยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ “2-Zone Audio System” ซึ่งจะแยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับ และด้านหลัง ทำให้สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่มีเสียงรบกวนซึ่งกันและกัน การควบคุมฟังก์ชันเฉพาะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Moon roofหน้าจอ ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสจาก “Overhead Control” และ “Removable Touchscreen Rear Controller”
- “Comfort and Confidence” สุนทรียภาพ และความมั่นใจในการเดินทางขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรระบบไฮบริดใหม่ 250 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสีล้อแบบ E FOUR ทำให้ได้พละกำลังที่ดีขึ้น เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง GA-K ที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ให้การตอบสนองที่เฉียบคม และการควบคุมที่ดีเยี่ยม พร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่าง ด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วย
ป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด
- “World-Class Safety” ความปลอดภัยขั้นสูงสัมผัสความปลอดภัยระดับโลกกับระบบ “เลกซัสSafety System Plus” พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และกล้องที่กว้างขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และผู้ร่วมทาง
- “Ultimate Omotenashi” ประสบการณ์ “Omotenashi”
สัมผัสจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่นตามปรัชญา “Omotenashi” ด้วยระบบ “เลกซัสClimate Concierge” ที่จะตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารแต่ละท่านเพื่อปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารโซนนั้นๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้
ยังมีโหมดปรับบรรยากาศห้องโดยสารด้านหลัง โดยปรับระบบไฟในห้องโดยสารรวมถึงฟังก์ชันบังแสงจากภายนอกตามอารมณ์ของผู้โดยสารได้ถึง 5 โหมด คือ Dream, Relax, Focus, Energize และ My Original
ทั้งหมดนี้ ทำให้ The All-new เลกซัสLM ใหม่ เป็นรถ Flagship จากเลกซัส ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นที่มาของ Tagline เลกซัส LM ใหม่ “Own A World Apart”
ขุมพลังไฮบริด
LM โฉมใหม่ใช้เครื่องยนต์ ไฮบริด 2.5ลิตรเบนซิน (E20)
ราคา
เลกซัส lMมีจำหน่าย 2 รูปแบบทั้งรุ่น 4ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง
Lexus LM 350h Executive 4-Seater ราคา 7,590,000 บาท(ราคารุ่นก่อนหน้า6,500,000 LM300h)
Lexus LM 350h Executive 7-Seater ราคา 6,290,000 บาท(ราคารุ่นก่อนหน้า 5,500,000 LM300h )
พร้อมสีภายนอก และสีภายในที่เป็นเอกลักษณ์
สีภายนอก : 4 สี
• สีดำ Graphite Glass Flake • สีขาว Sonic Quartz
• สีแดง Sonic Agate • สีเงิน Sonic Titanium
สีภายใน : 2 สี
• สีขาว Solis White with Copper • สีดำ Black with Dark Grey Accents
วัสดุตกแต่งลายไม้ :
• ลายไม้ตกแต่งบริเวณแผงประตูลาย “Yabane” และลายไม้ตกแต่งบริเวณพวงมาลัยลาย “Bengala”
เลกซัสได้จัดงาน “เลกซัสElectrified Fest” ที่สยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 2-4 ก.ย.66 และสามารถทดลองขับได้ที่ผู้แทนจำหน่าย เลกซัส อย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง ระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน ศกนี้ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมายภายในงานและเพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้ครอบครอง เลกซัส LM ใหม่ทุกคันผ่านผู้แทนจำหน่ายเลกซัส อย่างเป็นทางการ รับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อุ่นใจ มั่นใจกับศูนย์บริการเลกซัส และ Lexus Service Corner พร้อมบริการ Home Visit Mobility Service ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ