รถยนต์ไฟฟ้า พูดกันเยอะมากมาย หลังจากที่โลกเบนเข็มไปในทิศทางของรถยนต์ชนิดนี้ แม้ว่าเมืองไทยจะตื่นตัวแต่เชื่อไหมว่า ณ.วันนี้เรายังไม่การขายรถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างเป็นทางการ คืองายๆ เดินไปโชว์รูม หาซื้่อรถยนต์ไฟฟ้า จะไม่มีให้หาซื้อ ลองมาหาเหตุผลกันว่า ทำไม หลายคนบอกวา มาแน่แต่ แน่นอนว่ายังไม่ถึงเวลา
Awareness
เรายังมีไม่ Awareness ตลาด/คนไทย ยังไม่รู้จักว่ารถยนต์ไฟฟ้าดีพอ คือ รถประเภทไหน ใช้ประโยชน์อย่างไร ดีกว่ารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์หรือกึ่งเครื่องยนต์อย่างไร จึงไม่มีความมั่นใจกับการใช้รถไฟฟ้า ทำให้ไม่มีความต้องการซื้อ( Demand) เกิดขึ้น ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าอยากเกิดละต้องทำอย่างไร
เบื้องต้น ต้องพยายามสร้างการรับรู้ เหมือนตอนที่ โตโยต้า สร้างการรับรู้กับรถไฮบริด(แต่สุดท้ายโตโยต้าก็ขยาดกับรถไฮบริด เพราะเจอเรื่องกม.เข้าไป) พอสร้างการรับรู้ก็สร้างดีมานด์ (Demand ) ทำไงให้เกิดความต้องการ ความอยากซื้อขึ้นในตลาด วิธีก็มีมากมาย เอาแบบ ทางลัด คือ สร้างดีมานด์ในระยะสั้น โดยเครื่องมือของรัฐบาล ยกเว้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าต่ำลง เกิดการแข่งขันได้ในตลาด(ภาษีนำเข้าล่าสุดลดลงล่ะ) เพราะราคารถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาค่อนข้างสูง ถ้าไม่สนับสนุนด้วยวิธีดังกล่าวก็อาจจะเกิดขึ้นไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ถ้ามองภาพจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เราจะเห็นว่าแต่ละประเทศจะมีกลยุทธ์ในการสนับสนุนส่งเสริมทั้งทางด้านการเงินและภาษีให้กับ ผู้บริโภค ในระยะแรกเพื่อให้เกิด Demand ขึ้น (คนไม่มั่นใจรถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกับเมืองไทยตอนนี้)
Product
มีหลายหน่วยงานในประเทศไทย โดยเฉพาะจากภาครัฐให้ความสนใจที่จะนำรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ในกิจการหรือการทดลองเพื่อเตรียมการในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการเป็นตัวอย่างที่จะแสดงให้เห็นได้ชัดว่ามีองค์กรที่เห็นความสำคัญในรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง แต่มันยังอยู่ในวงแคบๆ มากองค์กรใหญ่ๆ ที่ใช้รถเยอะๆ ก็ขยับไม่ได้เพราะติดเรื่อง ประโยชน์และสัญญาที่เคยชินและทำกันไว้ เมืองนอก สั่งกันเลยทีเดียวว่าหน่วยงานไหน ต้องใช้รถอะไรและก็เร่งรัดหา Product มาให้ใช้ ลงทุนหรือชักจูงมากมาย
Infrastructure : เสมือนไก่กับไข่ การที่จะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนถนนได้ คงต้องมีที่ชาร์จหรือ Charger พร้อม เพื่อตอบสนองรถยนต์ไฟฟ้า เสมือนกับการเติมน้ำมัน สืบเนื่องจาก รถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางที่สามารถวิ่งได้ต่อการเติมไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ 1 ครั้ง 100% แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทรถยนต์ก็เร่งพัฒนา Capacity ของแบตเตอรี่และประสิทธิภาพการเติมพลังงานให้ดีขึ้น เพื่อลดระยะเวลาการเติมพลังงาน และเพิ่มระยะทางให้ยาวขึ้นต่อการ Charge 100% 1 ครั้ง นอกจากนี้เรื่องมาตรฐานต่างๆ โดยเฉพาะ เอารถยนต์ไฟฟ้าไปเสียบไฟบ้านหากว่าไม่กำหนดมาตรฐานให้พร้อมเพียง อาจจะเกิดโศกนาฏกรรมได้ ไฟไหม้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ก็ต้องมองเรื่องอื่นๆ ที่จะตามมาด้วยแบตเตอรี่จะทิ้งจะเก็บกันอย่างไร ค่าทิ้งคิดเท่าไร (หรือว่าแอบใส่ไปในราคารถเรียบร้อย)ต้องบอกให้ชัด ล่าสุดมีเอกชนอย่าง อีวี แอนนี่แวร์ ประกาศลงทุน 1000 สถานีชาร์จในปี61 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นแต่ เครือข่ายก็ยังเป็นในเมืองเสียส่วนใหญ่ไม่ใช่เป็นจุดที่กระจายออกไป เช่น กรุงเทพ ชลบุรี พัทยา กรุงเทพหัวหิน กรุงเทพ สระบุรี โคราช ดังนั้นก็ยังไม่จูงใจให้รถยนต์ไฟฟ้า วิ่งไปไกลๆ
Incentive : ส่วนนี้เป็นเรื่องของการให้แต้มต่อ ผู้บริโภค เพราะหากรัฐบาลไม่มีนโยบายสนับสนุนให้ผู้ซื้อ/ผู้ใช้ รถไฟฟ้าอาจจะไม่สามารถแข่งขันกับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ในปัจจุบันได้ เนื่องจากการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้ามีต้นทุนสูงมาก และเป็นชิ้นส่วนหลักของรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น อยากจะฝให้ รถยนต์ไฟฟ้าเกิด เป็นจริงสมดั่ง เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในอนาคตต่อไปก็ต้องให้แต้มต่อผู้ซื้อ เพราะวันนี้รถยนต์ไฟฟ้า คันเท่าโคโรลล่า หรือคอมแพคคาร์ จะซื้อได้ต้องมีเงิน 2 ล้านบาทขึ้นไปมันก็ไม่เกิด
นี่เป็นความเห็นของเรา ซึ่งในอนาคตก็ต้องรอดูว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปจนทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย