สูงขึ้นไปยังเมืองเหนือ แหล่งท่องเที่ยวที่เอ่ยมานี้ใครไม่รู้จักก็เชยเสียแล้วไม่ว่าจะเป็นอ่างขาง ปาย ห้วยน้ำดัง ล้วนเลื่องชื่อในความเป็นยอดนิยมที่หลายคนใคร่สรรหาเวลาว่างต้องไปเที่ยวหรือพักผ่อน เพื่อสัมผัสบรรยากาศความสดชื่นของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ และที่สำคัญรถเก๋งธรรมดาก็นำพาเราๆ ท่านๆ ไปเที่ยว ได้อย่างสะดวก แต่จะมีอีกที่หนึ่งแม้จะเคยได้ยิน หรือเห็นผ่านๆ ทางหน้าเวป แต่หากได้ไปเยือน ณ ขุนเขา ขุนดอยแห่งนี้แล้วนั้น จะพบความงามของธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวดอยบนยอดเขาสูง ที่มากไปด้วยความสุขในแบบฉบับไม่ต้องปรุงแต่ง
“ม่อนล้าน”...ชื่อของขุนเขาที่เกิดจากการปราบปรามยาเสพติด จนพัฒนาความความเป็นอยู่ ในเวลาไม่นานนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ ที่ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อไปท่องเที่ยว แต่ถ้าจะเป็นแบบขับเคลื่อนสองล้อก็เหนื่อยหน่อย เพราะต้องไต่เขาแคบๆ ขึ้นไป ยิ่งหน้าฝนแล้วไซร้ไม่ต้องเอ่ยถึง เพราะจะเป็นเส้นทางอันหฤโหดสำหรับการตะลุยขึ้นไปยังยอดเขาแห่งนี้ พิกัดของม่อนล้านแห่งนี้ ตั้งอยู่พื้นที่อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งัด ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนาเป็นแนวเขาอันเป็นเป็นรอยต่อของเมืองเหนือคือ เชียงใหม่และเชียงราย เส้นทางเดิมทีไปได้มีไม่กี่เส้นแต่ทางปัจจุบันมีการปรับปรุงเส้นทางเพื่อไปยังม่อนล้านแห่งนี้หลากหลาย นับได้รวมกันทั้งเส้นทางสายหลักและที่ง่ายมีประมาณ5 สาย แล้วแต่ใครจะใคร่เลือก
ความสูงของยอดดอยม่อนล้านนั้นก็สูงทีเดียวเพราะอีกแค่5เมตรก็จะ1,700เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่่งระดับความสูงเพียงแค่ 1,695 เมตรนี้ จากระดับน้ำทะเลเวลาไปหน้าหนาวก็เล่นเอาคนที่ไปเยือนยอดดอยแห่งนี้หนาวสั่นเพราะ ทั้งอากาศและและแรงลม
บนยอดดอยที่สูงเฉียดฟ้าของดอยม่อนล้านแห่งนี้ มองลงมาเห็นตัวอำเภอพร้าว แล้ววันไหนอากาศดีท้องฟ้าเป็นใจจะมองเห็นตัวเวียงเชียงใหม่ได้เช่นกัน พื้นที่ของที่นี่ไม่เหมาะสำหรับการพักแรม ด้วยสภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆ จึงต้องหาทำเลเหมาะ นั่นคือ ลานแคมป์ของสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยม่อนล้าน ซึ่งอยู่ไกลถัดไปจากจุดสูงสุดของดอยไม่ไกลนัก นอกจากจะมีลานแคมป์แล้วยังมีบ้านพักรับรอง สำหรับคนอยากพักในบ้าน
ณ ดอยม่อนล้านแห่งนี้ เดิมทีเคยเป็นพื้นที่สีแดงคือเป็นแหล่งยาเสพติดแหล่งใหญ่ พื้นที่ใช้ปลูกฝิ่น โดยชาวเขา เผ่าอาข่า เมื่อมีการพัฒนาเข้ามาเลิกปลูกฝิ่นกลับมาพัฒนาชุมชนในแบบเกษตรที่สูง ด้วยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานช่วยกันขึ้นไปดูแลและช่วยเหลือ ชีวิตวันนี้จึงมีความอยู่ที่ในแบบฉบับพอเพียง พร้อมด้วยวิถีชีวิตที่ดำรงความเป็นอยู่ในชนเผ่าของตนเองเมื่อเราขึ้นไปยังม่อนล้านจะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชาวเขาเผ่าอาข่า พร้อมกับการช่วยเหลือและร่วมสนุกในค่ำคืนอันหนาวเย็น มีกองไฟเป็นพลังงานให้ความอุบอุ่น และอุ่นใจในการละเล่นในแบบชนเผ่า
เสร็จสิ้นยามค่ำคืนหากได้มีโอกาสไปเที่ยวเล่นในหมู่บ้าน เราจะพบว่า ในแต่ละหมู่บ้านนั้นจะเสาชิงช้าไว้ให้ชาวบ้านมาโล่ชิงช้ากัน ซึ่งเป็นกีฬาหรือการละเล่นประจำเผ่าอาข่า โดยคนที่มีความสามารถสูงก็จะโล่ชิงช้าในท่าต่างๆ แบบพลิ้วไหว กับเชือกป่านขนาดใหญ่เส้นเดียว พาโยกไปมา หากพลาดร่วงลงมานั้นนอกจะเจ็บสาหัสแล้วยังถูกดูหมิ่น ดังนั้นจึงไม่มีชาวอาข่าคนไหนพลาด
คนจากที่ราบ หากสนใจ จะลองนั่งดู ก็หวาดเสียวเหมือนกันชนิดที่ ไม่มีใครกล้ายืน เพียงแต่นั่งในห่วงเชือกให้พลพรรคผลักโยกไปมา ได้ความหวาดเสียวปนความสนุกสนาน สำหรับเจ้าถิ่น เชามักจะโชว์ การโล่ชิงช้า แบบที่เรา ต้องทึ่งในความสามารถของหนุ่มชาวเขา ทักษะและลีลา ของเขาน่าอัศจรรย์ “ม่อนล้าน” เหมาะสำหรับการไปเที่ยวในฤดูหนาว อากาศเย็น อรุณรุ่งสดใส ที่สำคัญทางบนดอยไม่โหดเกินไป
การเดินทาง เส้นทางแรก จากจังหวัดเชียงใหม่-พร้าว ทางหลวงหมายเลข 1001 ระยะทาง 94 กม. แล้วมาเลี้ยวแยกขวาพร้าว-เวียงป่าเป้าทางหลวงหมายเลข 1150 ระยะทาง 53 กม. มาแยกซ้าย ที่บ้านต้นคอก ระหว่าง กม.ที่ 32-33 ถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวม แล้วไปต่อจนถึงพื้นที่รับเสด็จ (ถนน ดิน) รวมระยะทางทั้งหมด 124.5 กม.
เส้นทางสอง มาทางบ้านขุนแจ่ ผ่านโครงการหลวงแม่ปูนหลวงหน่วยจัดการต้นน้ำพร้าว บ้านแม่ปูนหลวง ไปจรดหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวม ระยะทางรวมแล้วไกลกว่าเส้นแรก
Photo CR:สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่