Friday, November 22, 2024

มิชลิน ประกาศคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2567

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2567

Advertisements

                                                                            

เพื่อกระตุ้นความสนใจต่องานประกาศผลรางวัลดาวมิชลินซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13ธันวาคม 2566 มิชลินได้เผยรายชื่อร้านอาหารและสตรีตฟู้ดคุณภาพดีราคาย่อมเยาที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 196 ร้าน ในจำนวนนี้เป็นร้านที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ครั้งแรก32ร้าน โดยเป็นร้านที่ติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทยครั้งแรก28ร้าน และร้านที่ปีก่อนอยู่ในประเภทMICHELIN Selected4 ร้าน นอกจากนี้ ในจำนวนร้านที่ติดอันดับครั้งแรก 12 ร้านตั้งอยู่ที่เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสองจุดหมายปลายทางใหม่ที่คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2567 (The MICHELIN Guide Thailand 2024)ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก

ทั้งนี้ ‘มิชลิน ไกด์’ มอบสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ซึ่งแสดงภาพ ‘บิเบนดัม’ หรือ ‘มิชลินแมน’ ให้แก่ร้านอาหารและร้านอาหารริมทาง หรือ “สตรีตฟู้ด” ซึ่งผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ พิจารณาแล้วว่านำเสนออาหารคุณภาพดีในราคาที่ย่อมเยาคุ้มค่า

นายเกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ทั่วโลก เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถหาอาหารคุณภาพดีทานได้ในราคาประหยัด ผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ ยังคงตื่นตาตื่นใจที่ได้ค้นพบอาหารคุณภาพเยี่ยมหลากหลายรูปแบบในราคาสบายกระเป๋าทั่วทุกภูมิภาคของไทย รวมถึงเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี”

เราหวังว่ารายชื่อร้านอาหารที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ จะจุดประกายให้นักชิมและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกิดแรงบันดาลใจที่จะออกเดินทางไปค้นพบและเพลิดเพลินกับอาหารคุณภาพดีในราคาย่อมเยาคุ้มค่าตามเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆของไทย” นายปูลเล็นเนค กล่าว

ร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2567 ประกอบด้วยร้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล68 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 7 ร้าน), ในพระนครศรีอยุธยา 15 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 2 ร้าน), ในเชียงใหม่ 27 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน),ใน 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ “ภาคอีสาน” 38 ร้าน โดยมี13 ร้าน ในขอนแก่น(ติดอันดับครั้งแรก 2 ร้าน),10 ร้านอยู่ในนครราชสีมา(ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน), 6 ร้าน ในอุบลราชธานี(ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะบิบ กูร์มองด์เอาไว้ได้)และ 9 ร้าน ในอุดรธานี (ขยับมาจากประเภท MICHELIN Selected 2 ร้าน), ในพังงา 11 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะบิบ กูร์มองด์เอาไว้ได้), ในภูเก็ต 25 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน และขยับมาจากประเภท MICHELIN Selected 2 ร้าน)รวมทั้งอีก12 ร้านในเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี(ทุกร้านเป็นร้านติดอันดับครั้งแรก เนื่องจากเป็นสองจุดหมายใหม่ที่คู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทยขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก)โดย 4 ร้านอยู่ในเกาะสมุย และ 8 ร้าน อยู่ในแผ่นดินใหญ่ของสุราษฎร์ธานี

Advertisements

เป็นที่น่าสังเกตว่าร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ครั้งนี้ ครอบคลุมประเภทอาหารที่หลากหลายถึง13 ประเภทได้แก่ อาหารจีน, อาหารยุโรปร่วมสมัย, อาหารอีสาน, อาหารญี่ปุ่น, ก๋วยเตี๋ยว, อาหารเหนือ, อาหารทะเล, อาหารใต้, อาหารริมทาง,อาหารไทย, อาหารไทยร่วมสมัย, อาหารไทย-จีน และอาหารเวียดนาม  ความหลากหลายดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศที่คึกคักและมีชีวิตชีวาในแวดวงอาหารของไทย ซึ่งนักชิมสามารถท่องไปในโลกของความอิ่มอร่อยกับอาหารคุณภาพดีหลากประเภทในราคาที่เป็นมิตรได้อย่างสะดวกง่ายดาย

ร้านอาหารซึ่งได้รับสัญลักษณ์ บิบ กูร์มองด์ประจำปี 2567โดยติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย’ เป็นครั้งแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 28ร้าน อาทิ • กรุงเทพฯ และปริมณฑล:อั้งโล่ บาย ย่างแรกร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่เสิร์ฟอาหารไทยสไตล์สตรีตฟู้ดโดยทำอาหารบนเตาอั้งโล่แบบโบราณส่งกลิ่นหอมอบอวลทั่วทั้งร้าน, เปลว ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ (นครปฐม)ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและอาหารทะเลไซส์จัมโบ้เมนูห้ามพลาด ได้แก่ บะหมี่ต้มยำและหมูเด้งทำเอง, ข้าวมันไก่นายโฮร้านอาหารริมทางที่เสิร์ฟข้าวมันไก่สูตรครอบครัวเชฟเจ้าของร้านชาวสิงคโปร์ที่รู้จักกันในนาม “ลุงโฮ”เมนูนี้โดดเด่นด้วยไก่หนังบางโปะบนข้าวมันร้อนๆ ที่ปรุงด้วยน้ำซุปไก่รสกลมกล่อม

• อยุธยา:บ้านผู้การร้านอาหารเรียบง่ายซึ่งตั้งอยู่ในบ้านเชฟเจ้าของร้าน ให้บริการอาหารไทยรสเยี่ยมปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่นและอาหารทะเลสดใหม่ที่หาทานได้ยากในจังหวัดอยุธยา, อู่ข้าว ร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูซึ่งหาทานได้ยากในปัจจุบันและคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมชวนให้คิดถึงวัยเด็ก โดยปรุงจากสูตรคุณแม่เจ้าของร้านด้วยวิธีการปรุงแบบดั้งเดิมและนำเสนอด้วยวิธีร่วมสมัยอย่างสวยงาม

• เชียงใหม่:เอกฉันท์ ร้านอาหารแนว Slow Food ซึ่งเน้นอาหารท้องถิ่นสดใหม่จากวัตถุดิบภายในชุมชน อาหารจานเด่น ได้แก่ แกงระแวง และข้าวผัดเคยกุ้งหวาน, เสน่ห์ ไทย คูซีนร้านอาหารริมทางที่เสิร์ฟเมนูฮาลาลประเภทเนื้อหลากหลายรายการซึ่งล้วนผ่านการปรุงรสอย่างดีให้มีรสชาติกลมกล่อมจานเด็ดที่ต้องสั่ง คือ ข้าวมันเนื้อโปะไข่แดง และต้มยำไทยเนื้อน่อง

• ขอนแก่น: เฝอท่าบ่อร้านอาหารริมทางที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวชาวเวียดนามและปรุงเฝอทุกเมนูจากสูตรดั้งเดิมของครอบครัวเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่เส้นเฝอเหนียวนุ่ม เติมความอร่อยด้วยลูกชิ้นเนื้อทำเองและเนื้อวัวสไลด์เมนูแนะนำอื่น ๆ ได้แก่ ปอเปี๊ยะสด, ปอเปี๊ยะทอด, ไส้อั่วเลือด และเลือดแปลง

• นครราชสีมา:ฤาสภัตร บาย นีน่าส์ ร้านอาหารที่นำเสนออาหารรสชาติกลมกล่อมจากวัตถุดิธรรมชาติและผ่านการปรุงอย่างดีใช้พืชผักสมุนไพรที่ส่วนใหญ่ปลูกเอง จานเด่น ได้แก่ ฟักทองผัดซอสไข่เค็ม และปลากะพงผัดพริกเกลือ

• ภูเก็ต: ต้นมะยมร้านอาหารริมทางที่นำเสนออาหารอร่อยรสชาติจัดจ้านแบบคนใต้แท้ๆเมนูเด็ดได้แก่ ปลาทอดเครื่องหอมสมุนไพร และแกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าวอ่อน

• เกาะสมุย: บ้านสวนลุงไข่ร้านอาหารในสวนมะพร้าวของเชฟเจ้าของร้านที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นและอาหารใต้ ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบสดใหม่เพื่อนำมารังสรรค์เมนูวันต่อวัน, กะปิ สะตอร้านอาหารที่นำเสนออาหารตำรับชาวใต้แท้ๆ และอาหารท้องถิ่นที่หาทานได้ยาก อาทิหนวดปลาหมึกในน้ำกะทิหวานกับตะไคร้

•สุราษฎร์ธานี:ลัคกี้ ภัตตาคารร้านอาหารที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวเชฟเจ้าของร้านและรักษาความคงเส้นคงวาของการทำอาหารที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทย-จีน อาหารไทยภาคใต้และอาหารทะเลที่ล้วนปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่,ยกเข่งร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารประจำท้องถิ่นหลากหลายเมนูให้เลือกทาน เช่น “โล่งโต้ง” อาหารถิ่นเมืองสุราษฎร์ธานีที่ปรุงจากเส้นบะหมี่แห้งราดซอสเปรี้ยวหวานสีชมพูชุ่มฉ่ำอัดแน่นด้วยเครื่อง เช่น เลือดหมู หนังหมู และเนื้อหมูนุ่ม, เลี่ยนไถ่ร้านสตรีตฟู้ดปาท่องโก๋ในตำนานซึ่งใช้แป้งหมักสูตรดั้งเดิมที่คุณพ่อเจ้าของร้านคิดค้นขึ้นเมื่อกว่า 50 ปีก่อน

สำหรับร้านอาหารซึ่งได้รับสัญลักษณ์ บิบ กูร์มองด์ประจำปี 2567โดยที่ผ่านมาเคยติดอันดับอยู่ในประเภท MICHELIN Selectedมีจำนวนทั้งสิ้น 4 ร้าน ได้แก่ • อุดรธานี:ข้าวเปียกอุดร ร้านอาหารเวียดนามซึ่งเคยเป็นเพียงร้านสตรีตฟู้ดมาก่อน เมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน คือข้าวเปียกซึ่งโดดเด่นด้วยน้ำซุปหมูที่ใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมงเพื่อให้กระดูกและเนื้อตุ๋นเข้าเป็นเนื้อเดียวกันเมนูอื่นที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ หมูย่างตะไคร้เสียบไม้ และหมูยอ, ซาหมวย & ซันส์ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งซึ่งนำเสนออาหารอีสานร่วมสมัย ทั้งอาหารจานเดียวจากเมนูอะลาคาร์ท (À La Carte)และอาหารเป็นคอร์สจาก “เมนูชวนลิ้มลอง” หรือ Tasting Menu ที่แต่ละจานนอกจากจะอร่อยแล้วยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

• ภูเก็ต:ครัวพระยาภูเก็ต ร้านอาหารที่นำเสนออาหารไทยปักษ์ใต้ โดยเฉพาะตำรับเก่าแก่ของภูเก็ต ซึ่งมีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอม เมนูเด็ด ได้แก่ หมูสามชั้นผัดพริกแกงรสเข้มข้นและยอดมะพร้าวอ่อน จานแนะนำสำหรับคนไม่ชอบเผ็ด คือ หมูฮ้องหรือหมูสามชั้นต้มซีอิ๊วแบบฉบับภูเก็ต, หมูกรอบ (จี้ฮอง) ร้านสตรีตฟู้ดที่มีข้าวหน้าหมูกรอบเป็นเมนูดาวเด่นประจำร้านโดดเด่นด้วยหมูกรอบชิ้นโตที่ไม่เพียงกรอบนอกแต่ยังนุ่มชุ่มลิ้นแบบไม่เลี่ยน และมีรสชาติเข้มข้นกำลังดี ปรุงด้วยสูตรลับที่ตกทอดกันมาหลายรุ่นภายในครอบครัว

นอกจากรายชื่อร้านอาหารแล้ว คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ยังบรรจุรายชื่อโรงแรมที่พักทั่วโลกซึ่งผ่านการคัดสรรว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นเอาไว้ด้วยทั้งนี้ โรงแรมที่พักทุกแห่งซึ่งครอบคลุมทางเลือกสำหรับทุกระดับงบประมาณ ล้วนผ่านกระบวนการคัดสรรจากผู้เชี่ยวชาญของ ‘มิชลิน ไกด์’ โดยพิจารณาจากอัตลักษณ์เฉพาะตัว บริการ และสไตล์ที่โดดเด่น  ผู้สนใจสามารถสำรองโรงแรมที่พักผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้โดยตรงอนึ่ง คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ไม่เพียงได้รับยกย่องว่าเป็นบรรทัดฐานของวงการอาหาร แต่ยังมีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจโรงแรมที่พักด้วย

ดาวน์โหลดรายชื่อและรูปภาพร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2567ได้ที่: shorturl.at/kmR18

Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img