วันนี้ ณ งาน สิงค์โปร์ มอเตอร์โชว์ 2017 ค่าย “ซูบารุ” ได้ทำการเปิดตัวรถในกลุ่ม C–Segment รุ่นใหม่ล่าสุดที่สาวก “ดาวลูกไก่” ต่างรอคอยกัน “นิว อิมเพรสซ่า”
ซึ่งมาพร้อมกันที่เดียว 2 เวอร์ชั่น 4 ประตู ซีดาน และ 5 ประตู แฮทช์แบก
“อิมเพรสซ่า” พัฒนาขึ้นบน “แพลทฟอร์ม” ใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อเรียก Subaru Global Platform ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดในการพัฒนารถยนต์ของค่ายได้หลากรุ่น และสามารถขยับปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์แบบ “บ็อกเซอร์” ได้หลายขนาด และ “แพลทฟอร์ม” ใหม่นี้ ยังเน้นหนักในเรื่องความแข็งแรง ความปลอดภัยของโครงสร้างรวมไปถึงความเสถียร์ภาพในการควบคุม ขับขี่ดียิ่งขึ้น
มิติตัวรถยาว 4,625 มม.(ซีดาน) กับ 4,460 มม.(แฮทช์แบก) ความกว้าง 1,775 มม.(แคบลงจากเดิม 20 มม.) สูง 1,480 มม.(สูงเพิ่มขึ้นจากเดิม 5 มม.) ความยาวฐานล้อ 2,670 มม.(ยาวเพิ่มขึ้น 20 มม.) เรื่องของการดีไซน์ภายนอกเปลี่ยนจากรุ่นเดิม “เสือ” ไปเกือบหมด เส้นสายบางส่วนกลับละม้ายคล้ายคลึงกับรุ่นเก่า “แมว” รหัส GRB “ไฟหน้าคล้ายๆ กับตัวเดิม แต่มีการปรับดีเทล และเปลี่ยนรูปทรงอีกเล็กน้อย “กระจังหน้า” แบบ 6 เหลี่ยม สไตล์ “ซูบารุ” ยุคใหม่ “ชุดกันชนหน้า” ปรับเพิ่มเส้นสายจากรุ่นเดิม “ช่องดักลม” ยังมี 3 ช่อง เหมือนเช่นเดิม
ส่วนทางด้านเส้นสายด้านข้างปรับใหม่ ทำให้ตัวรถดูมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม “ประตูบานหน้า” ยังคงออกแบบให้มี “กระจกหูช้าง” เช่นเดิมเพื่อเป็นการเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ในขณะเข้าโค้ง หรือเลี้ยวออกจากซอย เส้นสายทางด้านท้ายรถดีไซน์ใหม่หมด “ฝากระโปรงหลัง” ออกแบบให้ช่วงตรงกลางยกสูงเหมือน “ตูดเป็ด” ช่วยเพิ่มแรงกดบางๆ เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว(แฮทช์แบกจะดูเรียบๆ แต่มาพร้อมกับสปอยเลอร์ท้ายขนาดพอเหมาะ)
“ไฟท้าย” ปรับเปลี่ยนรูปทรงใหม่หมดรูปแบบทั้ง 4 และ 5 ประตู เหมือนกัน แต่อาจแตกต่างกันที่ขนาดกับเส้นสายด้านข้างเล็กน้อย “กันชนท้าย” ออกแบบเรียบง่ายทั้ง 2 รุ่น มีการเว้าขอบลงเพื่อให้สะดวกในการขนสัมภาระเข้ารถ
“ภายในห้องโดยสาร” ออกแบบใหม่ทั้งหมด เน้นเส้นสายการดีไซน์ และเพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้น “พวงมาลัย” ออกแบบใหม่ มาพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น และสวิทช์เปลี่ยนเกียร์ “ชุดเรือนไมล์” เรียบง่ายคล้ายๆ กับรุ่นเดิม “จอมัลติอินโฟล” ขนาด 6.3 นิ้ว อยู่ด้านบนไว้คอยดูค่าการทำงานต่างๆ ของตัวรถ อาทิ อุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
ถัดลงมาจะเป็น “จอมัลติมีเดียว” แบบ “ทัชสกรีน” ขนาด 8 นิ้ว(รุ่น 1.6 ขนาด 6.5 นิ้ว) เชื่อมต่อระบบ Apple Car Play และมีช่องเชื่อมต่อ USB กับ AUX “ระบบปรับอากาศ” ในรุ่น 1.6S กับ 2.0i-S เลือกใช้ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual-Zone, กุญแจแบบ Keyless, กล้องมองหลัง, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
“ระบบกันสะเทือน” ด้านหน้าแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบ มัลติลิ้งค์ พร้อมเหล็กกันโคลง “ระบบเบรก” ดิสค์เบรกทั้ง 4 ล้อ(ทุกรุ่น) สำหรับ “เบรกมือ” มาพร้อมระบบ E-Parking Brake หรือเบรกมือไฟฟ้า “ล้อแม็ก” รุ่น 1.6 จะมาพร้อมล็อแม็กขอบ 16 นิ้ว พร้อมยางไซส์ 205/55R16 สำหรับรุ่น 1.6 i-S กับ2.0 i-S ใช้ล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว จับคู่ยางไซส์ 205/50R17
“เครื่องยนต์” แบบบ็อกเซอร์มีให้เลือก 2 ความแรง เริ่มจากบล็อก 1.6 ลิตร รหัส FB16 ให้แรงม้า 114PS ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิด 150 นิวตัน-ม. ที่รอบเครื่องยนต์ 3,600 รอบต่อนาที และความจุ 2.0 ลิตร ไดเร็คอินเจ็คชั่น รหัส FB20 ให้แรงม้า 156PS ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 196 นิวตัน-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกระหว่างเกียร์ธรรมดา กับเกียร์ CVT “ระบบขับเคลื่อน” แบบ AWD
ด้าน “ระบบความปลอดภัย” เต็มขั้นอาทิ ระบบช่วยเสถียร์การทรงตัว Vehicle Dynamic Control(VDC), ABS-EBD-BA , ถุงลมนิรภัย ฯลฯ
ซึ่ง “อิมเพรสซ่า ใหม่” มีเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ขอดูในเรื่องของทิศทางว่าจะเป็นการประกอบในประเทศ(ซึ่งมีแผนการสร้างโรงงานอยู่) หรือนำเข้าจากมาเลเซีย ทั่งนี่ทั่งนั่น ขึ้นอยู่กับอ๊อฟชั่น ราคา และยอดการจองของกลุ่มลูกค้า ส่วนตัวแรงอย่าง WRX หรือ WRX STi นั่น คงต้องรอไปอีกอย่างน้อย 2 ปี สาวกของแรงถึงจะได้จับจองกัน[fblike]