ต้องตาสายแรง “ฟิลเรซซิ่ง ฟังก์ชั่นระดับแนวหน้า”
โคโรลล่า อัลติส เป็นรถยนต์นั่งแบบซีดาน ขนาดของรถอยู่ในกลุ่มซี- เช็คเมนท์รถหลักๆ ในกลุ่มนี้ได้แก่ โคโรลล่า อัลติส ฮอนด้า ซีวิค มาสด้า3และ มิตซูบิชิแลนเซอร์(ปัจจุบันยกเลิกการผลิต) ซึ่งรถไซด์นี้เคยเป็นรถที่ขายเป็นหลักของบ้านเรา ก่อนจะเกิดการขยายตัวของรถที่เล็กอย่าง บี-เซ็คเมนท์ จนรถเล็กสามารถขนายตัวกลายเป็นตลาดหลักได้ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามซี- เช็คเมนท์ก็ยังคง เป็นที่ต้องการของตลาดด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า มีพื้นที่ใช้สรอยมากกว่า สำหรับรถซี- เช็คเมนท์ค่ายรถมักใช้เป็นโปรดักซ์โชว์เคส คือเน้นการใส่ของอันเป็นเทคโนโลยีสำคัญๆ ที่กำลังคนซื้อพอจะจ่ายได้
ในบ้านเราบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำเสนอรุ่นโคโรลล่า อัลติสที่มีความสำคัญต่อตลาด อัลติสสามารถสร้างยอดขายจำนวนมาก ทั้งปัจจุบันและอดีตตลอดระยะเวลา 55 ปี นับตั้งแต่ออกรถรุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด
โคโรลล่านั้นรวมๆ แล้วขายไปกว่า 50 ล้านคันทั่วโลก และมีการบันทึกไว้ในสถิติโลกในแง่ของรถรุ่นเดียวชื่อเดียวที่ขายติดต่อกันเป็นปริมาณมากที่สุด ต้องยอมรับความความแข็งแกร่งของแบรนด์ มีผลค่อนข้างมากต่อการยอมรับของตลาด
ถ้ามองย้อนกลับไปที่แนวทางของโตโยต้า รถแบรนด์นี้มีแนวทางชัดเจนในการให้ความสำคัญ 3 ส่วนด้วยกันคือ QDR หรือ คือคุณภาพ (Quality) ความทนทาน (Durability) และความน่าเชื่อถือ (Reliability) พื้นฐานนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยเพราะลูกค้าทุกคน สามารถสัมผัสแนวทางนี้แบบ เป็นรูปธรรมได้
บนถนนเราเห็นความทนทนของ โตโยต้าแม้รถใช้งานหนักเป็นเวลานานชิ้นส่วนต่างๆของรถ ก็ยังคงรูป ไม่หลวมหรือเสียทรง รถโตโยต้ามีปัญหาน้อย ไม่ค่อยจุกจิก ไม่ว่าจะมีอายุยาวนานเท่าไรก็ตาม
ผลิตภัณฑ์ของโตโยต้าเป็นผลมาจากการวิจัยและการทดสอบอย่างหนัก ว่ากันว่าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โตโยต้าใช้ระยะเวลาในการทดสอบรถและชิ้นส่วนประกอบเข้มข้นกว่าค่ายอื่นๆ ถึง3เท่าตัวเพื่อให้ได้รถที่มีประสิทธิผลตามแนวทางQDR
“แม้รถใช้งานหนักเป็นเวลานานชิ้นส่วนต่างๆของรถ ก็ยังคง แน่นปรึกไม่หลวมไม่เสียทรง “
โตโยต้าได้แนะนำโคโรลล่า ใหม่ภายใต้การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ล่าสุดของปี2022 โคโรลล่ารุ่นปัจจุบัน ได้ถูกพัฒนาด้านสมรรถนะการขับขี่ ด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA เสริมประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนนให้ความสนุกสนานในการขับขี่ (Fun-to-drive) และที่สำคัญมีการเสริมระบบความปลอดภัย มาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้าหรือ Toyota Safety Sense เข้ามาอีกด้วย
รายการเปลี่ยนแปลงในGR Sport 1.8
เพื่อให้เห็นความต่างของรถนี่คือรายการที่ปรับเพิ่มในรถยนต์ระหัสGR Sport
- ชนหน้าใหม่ GR Sport
- กระจังหน้าใหม่ GR Sport
- ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่
- กระจกมองข้างสีดำและสเกิร์ตข้าง GR Sport
- สเกิร์ตหลัง GR Sport
- ล้อแมกซ์ขนาด 17 นิ้ว GR Sport
- สัญลักษณ์ GR Sport บริเวณประตูท้าย
ใหม่ ดีไซน์ภายใน…GR SPORT RACING INSIDE TO DRIVE YOUR FEELING
ภายในดีไซน์สปอร์ต ตอบสนองฟีลลิ่งเรซซิ่ง - Sport Seats with GR Logo เบาะหนังคู่หน้าแถบแดงดีไซน์สปอร์ตพร้อมโลโก้ GR
- ปุ่ม Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR
- Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (*เฉพาะรุ่น 1.8 GR SPORT)
MORE COVENIENCE MORE COMFORT - Head Up Display หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบเปลี่ยนสีบนกระจกหน้ารถ
- nanoe ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารช่วยขจัดกลิ่นอับและยับยั้งเชื้อโรค
- Auto Rain Sensor ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- Rear Sunshade ม่านบังแดดที่กระจกหลัง
- Tire Pressure Monitoring System ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ
ใหม่ สมรรถนะการขับขี่…THE NEW EXCITEMENT TO PUSH THE LIMITS
ขับสนุกทุกอัตราเร่งทรงตัวนิ่งสายพันธุ์นักแข่ง กับช่วงล่างปรับจูนใหม่ สปอร์ตเร้าใจ รับทุกโค้ง เต็มดีกรีเรซซิ่ง - Shock Absorber ดูดซับแรงสั่นสะเทือน เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้น
- Coil Spring คอยล์สปริงปรับจูนใหม่ เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล
- Rear Bar Stabilizer ลดอาการโคลงของตัวรถ
เครื่องยนต์2ตัวเลือก
ในไลน์ของGR SPORTกับ เครื่องยนต์ 2 ทางเลือกในรุ่น GR SPORTกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีดพร้อม Sequential Shift โดยเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 140 PS 1.8 GR SPORT ประหยัดน้ำมัน15.6กม/ลิตร*
ส่วน เครื่องอีกตัวได้แก่ HEV GR SPORT เครื่องยนต์2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ E-CVT
ประหยัดน้ำมันได้ 23.3 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก ECO Sticker)
ราคาอัพเดทโคโรลล่า อัลติส2022
รุ่น | เครื่องยนต์ | เกียร์ | ราคา(บาท) |
---|---|---|---|
Altis HEV Premium | 1.8 ไฮบริด | Super CVT-i 7 | 994,000 |
Altis HEV GR Sport | 1.8 ไฮบริด | Super CVT-i 7 Sequential Shift | 1,114,000 |
Altis 1.8 GR Sport | เบนซิน1.8 | Super CVT-i 7 Sequential Shift | 1,059,000 |
Altis 1.8 SPORT | เบนซิน1.8 | Super CVT-i 7 | 964,000 |
Altis 1.6G | เบนซิน1.6 | Super CVT-i 7 | 879,000 |
แพ็คเกจจิ้ง:สปอร์ตจากสนามแข่ง
เป็นที่ทราบกันดีว่า โตโยต้านั้นเริ่มทำส่งเสริมมอเตอร์สปอร์ตเพื่อใช้เป็น กลยุทธ์นการปรับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ในทุกๆ โปรดักซ์ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งหรือรถยนต์กระบะ โดยการส่งเสริมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ทั้งในรายการระดับโลกและรายการในประเทศ ทีมแข่งของโตโยต้า ในประเทศไทยก็ประสบความสำเร็จในการส่งออกทีมไปแข่งขันในสนามระดับโลกอย่าง นูเบิร์กริง โคโรลล่า อัลติส GR Sport นำเอาดีเอ็นเอ จากมอเตอร์สปอร์ต ออกแบบภายนอกภายในให้มีความเป็นสปอร์ตโดยเฉพาะแพ็คเกจภายนอกด้วยแพ็กเกจชุด GR SPORT ของที่เพิ่มเติมมา ได้แก่ กันชนหน้า, กระจังหน้า, ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง, ล้ออัลลอย 17 นิ้วออกแบบใหม่ มาพร้อมสัญลักษณ์ GR Sport บริเวณท้ายรถ
ชุดแต่งที่นำเส้นสายของมอเตอร์สปอร์ตมาใช้ ทำให้หน้าตาของรถเปลี่ยนไปให้ความรู้สึกแตกต่างรถดูทันสมัยมากขึ้นชัดเจน การใส่กันชนหน้าใหม่ GR Sportกระจังหน้าใหม่ GR Sportทำให้ความสมดุลของรถระหว่างความสูงกับความกว้าง มองจากภายนอก รู้สึกว่ารถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แถมด้วยสีสันรถตัวจี๊ดมากขึ้นโดยเฉพาะกันชนหน้าดูจะสดุดตา แน่นอนว่า โคโรลล่า อัลติส GR Sport ให้ความรู้สึกถึงไดนามิคตั้งแต่รถยังไม่ออกวิ่ง
“ชุดแต่งของมอเตอร์สปอร์ต ทำให้หน้าตาของรถเปลี่ยนไปให้ความรู้สึกแตกต่างรถดูทันสมัยมากขึ้น”
การออกแบบ ภายใน โดยทั่วไปห้องโดยสารของรถ ขนาดก็มีความกว้าง กระจกหน้าใหญ่และมีความเรียบง่ายของการออกแบบ เพราะใช้การวางโครงสร้างไม่ซับซ้อน เนื่องจากโคโรลล่า อัลติส ออกตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว ฟอร์มต่างๆ จึงยังคงฟอร์มของอัลติส ซีดาน ที่เราคุ้นเคย แต่โคโรลล่า อัลติส GR Sport ภายในเพิ่มเติมให้เกิด สภาพแวดล้อมการขับขี่ที่ แสดงถึงความเป็นรถสปอร์ต เพิ่มเข้ามาเช่น การตกแต่งเบาะหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง การตกแต่งที่พนักพิงศีรษะและที่ปุ่มกดสตาร์ทด้วยด้วยสัญลักษณ์ GR
เทคโนโลยี&ฟังก์ชั่น:เติมของมาเต็ม
การปรับเปลี่ยน ของโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส GR Sport มี2ด้าน คือด้านเทคโนโลยีพื้นฐาน ซึ่งเป็นรากฐานของรถ ได้แก่ แพลตฟอร์ม TNGA เป็นการออกแบบฟอร์แมทรถยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวและเกาะถนนได้ การควบคุมที่มีความมั่นใจมากขึ้น อันส่งผลต่อ ความสนุกในการขับขี่ การปรับเรื่อง BODY RIGIDITY หรือความแกร่งของตัวถัง เพิ่มโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง เพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ (Spot Welding)ช่วยรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง ส่วนนี้มีผลต่อประสิทธิภาพการทรงตัวและเกาะถนน รถไม่ย้วยง่าย และรีแอคเร็วขึ้นหลังรับคำสั่งต่างๆ จากผู้ขับ หมายถึงรถสื่อสารกับคนขับได้ดีขึ้น(HANDLING)ซึ่งส่วนนี้เกี่ยวกับความปลอดภัยเชิงป้องกันอุบัติเหตุที่ต้องใช้ทักษะผู้ขับเป็นปัจจัยในการแก้ไข
โคโรลล่า อัลติส GR Sport มีการปรับพวงมาลัยโดยจูนให้ ตอบสนองแม่นยำมากขึ้นพวงมาลัยกระชับอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ายังรักษา ความสะดวกโดยน้ำหนักการหมุนเพื่อให้การควบคุมง่ายขึ้นในความเร็วต่ำไว้ในสัดส่วนที่มากพอสมควร
“รถรับคำสั่งต่างๆ จากผู้ขับในการขับขี่แล้วรถรีแอคเร็วขึ้น หมายถึงรถสื่อสารกับคนขับได้ดีขึ้น”
อีกด้านหนึ่งของการปรับปรุงอย่างมากคือ ระบบความปลอดภัย TOYOTA SAFETY SENSE
ระบบความปลอดภัยนี้ ประกอบไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ หลายฟังก์ชั่นการทำงานภายใน เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น PRE-COLLISION SYSTEM หรือระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบLANE DEPARTURE ALERT WITH STEERING ASSIST… ซึ่งทำหน้าที่เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติพร้อมระบบ Lane Tracing Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ระบบAUTOMATIC HIGH BEAMS หรือระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
แต่ที่ถูกใจที่สุดคือ ALL-SPEED DYNAMIC RADAR CRUISE CONTROL WITH LANE TRACING ASSIST…ระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติ( Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-Speed ควบคุมและปรับลดระดับความเร็วได้ถึง 0 กม./ชม. และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า สิ่งนีกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถสมัยใหม่แน่นอนว่ามันต้องทำงานราบรื่น เป็นมิตรต่อการใช้งาน สามารถปรับแต่ง เปิดหรือปิด เข้าถึงง่ายไม่ซับซ้อน
ระบบสมัยใหม่เหล่านี้ในอดีตรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่นำเสนอให้ลูกค้า จนกระทั่งเกิดการแข่งขันเราจึงได้สัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ในฐานะอุปกรณ์มาตรฐาน เทคโนโลยีเหล่านี้มีการทำงานเหมือนกันแต่ในรายละเอียดฟูลฟังก์ชั่นหรือไม่อยู่ที่ค่ายรถนั้นๆเลือกนำมาติดตั้ง เช่นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบอแดปทีพที่สามารถเพิ่มหรือลดความ เร็วอัตโนมัตและระบบประกอบบางเวอร์ชั่นที่ต่ำๆไม่สามารถสตอปแอนด์โกได้หรือไม่สามารถเลี้ยวโค้งตามคันหนาได้ซึ่งเวลาเลือกซื้อผู้ซื้อก็ต้องถามลงไปในรายละเอียดว่าระบบมันทำงานแบบไหนแต่สำหรับอัลติส GR Sport นั้นเป็นแบบฟูลฟังก์ชั่น
เครื่องยนต์และกำลัง
อัลติส 1.8 GR Sport รุ่นเคริ่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร เป็นเครื่องยนต์หลักของโตโยต้าที่ได้รับการพิสูจน์ในแง่สมรรถนะและความทนทาน การทำงานที่ราบรื่นมาเป็นเวลายาวนาน ในการขับขี่กำลังเครื่องเพียงพอต่อการ ขับแบบสนุกสนาน คล่องตัว แม้ว่าไม่มีระบบไฮบริดมาช่วยแต่ก็รวมๆ แล้วทดแทนด้วยน้ำหนักตัวที่ลดลงไม่ต้องแบกแบตเตอรี่และชิ้นส่วนเพิ่มเติมของระบบไฮบริดดังนั้น แรงมาต่อนน.รถจึงอยู่ในความลงตัวของมันเอง เครื่องอัลติส GR Sport เวลาอัดไล่รอบสูงๆ ก็ไม่โหยหวนเสียงเครื่องไม่ได้สร้างความกังวลต่อเราแน่นอนว่า อัลติส GR Sport ไม่สามารถประหยัดน้ำมันเท่ากับระบบไฮบริดโดยอ้างอิงกับอีโคสติกเกอร์ อัลติส GR Sport จะใช้เชื้อเพลิงมากกว่า อัลติส GR HEV GR Sport ไฮบริดประมาณ 50% ซึ่งหากมองในแง่นี้เราสามารถเพิ่มงบอีก5.19% ขยับไปเลือกHEV GR Sport ก็จะได้ครบทั้งอารมณ์สปอร์ตและการประหยัดน้ำมัน อย่างไรก็ตามเราต้องหันมาดูน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยเพราะว่า HEV ใช้ได้แค่เบนซินE20 ส่วน 1.8 GR SPORT ใชE85ได้ ซึ่งราคาน้ำมันวันที่เขียนทดสอบอยู่นี้ทั้งสองชนิดต่างกัน29%
การขับและการควบคุม
อัลติส GR Sport วางโครงสร้างระบบช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ DOUBLE WISHBONE SUSPENSION ที่ด้านหลังเหมือนรถโมโนคอคทั่วไป พื้นฐานเหล่านี้ทำให้รถนุ่มนวล ตอบสนองการเกาะถนน แต่ในกลุ่มรถGR Sportมีการsetหรือการปรับแต่งให้ค่าต่างๆ ของระบบนั้นกระชับขึ้นเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็พรถสปอร์ตอย่างไรก็ตามในการขับเราไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก ไม่ได้ต่างจนโดดเด่นเรารับรู้ได้เพียงว่า ความหนักแน่นและความนิ่งของรถมากขึ้นเพราะว่า การset ค่าเหล่านี้ยังเน้นไปที่การใช้งานประจำวัน คงเป็นเรื่องของการรักษา คุณสมบัติรถไว้ให้ถูกใจคนส่วนใหญ่เพราะว่า ผู้ใช้งานทั่วไปจะไม่นิยมรถช่วงล่างแบบแข็งๆ แต่ต้องการคุมรถง่ายๆ นุ่มและหนึบมากกว่าช่วงล่างแบบสปอร์ต คาร์แล้ว น้ำหนักพวงมาลัยเยอะๆ 1.8 GR SPORT ให้ระบบเกียร์แบบซีวีทีเพื่อความประหยัดเป็นหลัก ซึ่งเป็นเกียร์ที่มีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนเกียร์เฟือง เพราะแทบไม่มีรอยต่อในช่วงเปลี่ยนอัตราทด แต่การขับให้สนุกแบบรถเกียร์ใช้เฟือง ต้องยอมรับว่าน้อยลงอย่างไรก็ตาม ระบบเกียร์เหล่านี้มีการพัฒนาเพื่อให้คอมพิวเตอร์จัดการการทดรอบให้มีคาแรคเตอร์คลายเกียร์เฟืองมากที่สุดซึ่งใน 1.8 GR SPORTก็ใช้โปรแกรมเหล่านี้ ความเร็วเดินทางที่ผมใช้แบบ ไม่ต้องเพิ่มทักษะการควบคุมรถอยู่ระหว่าง100-130 กม./ แต่หากต้องการเร่งรีบ อัลติส 1.8 GR Sport ก็สามารถเร่งความเร็วขึ้นไปได้แบบไม่ยากเย็นใดๆ การรับโหลดหลายที่นั่งและบรรทุกของเต็มแบบฟูลโหลด ตัวรถไม่ย้วยหรือท้ายห้อย การคุมรถยังเป็นจริงซึ่งเป็นมาตรฐานของรถที่ควรเป็น
คู่แข่งและและบทสรุป
โดยหลักโดยรวมแล้ว อัลติส 1.8 GR Sport เป็นรถที่ออกมาลบจุดอ่อน ของอัลติส จากเดิมเป็นรถที่ไม่ค่อยมีของ ไม่มีฟังก์ชั่นใหม่ๆ ตอนนี้มีของให้ครบ แถมด้วยหน้าสปอร์ต ภายในสปอร์ต ตัวรถรองรับการใช้งานแบบครอบครัวสามารถโดยสารได้5คน มีฟังก์ชั่นระบบรถสมัยใหม่ครบช่วยลดภาระการขับขี่ ระบบเชื่อมต่อ แอพต่างๆทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพทางด้านหน้าตาก็ตอบโจทย์คนที่ต้องการความหวือหวาจะมีเพียงเรื่องของ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นทางเลือกในเวลานี้ที่ราคาน้ำมันค่อนข้างสูง
ในตลาดรถสำคัญที่ต้องนำมาเปรียบเทียบกันคือ มาสด้า3 และซีวิค สำหรับมาสด้าได้เรื่องของการควบคุมและพวงมาลัย ช่วงล่างที่แน่นหนึบการขับในทางโค้งและความเร็วสูง มาสด้ามีการตอบสนองที่โดดเด่น ส่วนซีวิคเน้นในเรื่องความโฉบเฉี่ยวทันสมัย ไดนามิคอาจจะยังไม่เท่ามาสด้า สำหรับอัลติส 1.8 GR Sport ได้ความเด่นภายนอกแบบสปอร์ตและมีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจากมีEngineer Behind รู้แบบนี้ ท่านผู้ใช้รถคงตัดสินใจเลือก ได้เองไม่ยาก