บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้นำรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติก และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ตอกย้ำความแรงของ “Waverunner” (เวฟรันเนอร์) ล่าสุดได้เปิดตัว “Waverunner” รุ่นใหม่ New Model 2015 ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม “RiDE” ซึ่งเป็นระบบคันเร่งคู่ ครั้งแรกของโลก เปลี่ยนวิธีการขับขี่เพื่อตอบสนองการขับขี่ที่ง่ายขึ้น สามารถควบคุมทิศทางได้ดั่งใจอย่างธรรมชาติ เพิ่มความสนุกในการขับขี่อย่างไร้ขีดจำกัด
นายเกษมพงศ์ สินธุโสภณ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่ยามาฮ่าได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ Waverunner รุ่น “New SVHO” ออกสู่ตลาดเมืองไทยไปเมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนทีมแข่ง Jet Ski Thailand ,การจัดกิจกรรมทดสอบการขับขี่ (Test Riding) และการจัดโปรแกรมขับขี่ท่องเที่ยวให้กับลูกค้า ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ยอดขาย“Waverunner” ในปีนี้ เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20% จากปีที่ผ่านมา อีกทั้ง “Waverunner” รุ่น “New SVHO” ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1,812 ซีซี ถือได้ว่า “Waverunner” มีเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด ความแรงของ “New SVHO” สามารถพาทีม Jet Ski Thailand คว้าตำแหน่งแชมป์ และรองแชมป์ประเทศไทย ในรุ่น PRO Runabout 4st Stock 2014 มาครองได้เป็นผลสำเร็จ ตอกย้ำให้เห็นถึงสมรรถนะเครื่องยนต์ของ “New SVHO” ที่ลูกค้าต่างให้การยอมรับว่ามีความแรงมากที่สุดในรุ่น Stock(สเป็คมาตราฐานจากโรงงาน) และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าผ่านยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น
โดยล่าสุดยามาฮ่าได้พัฒนา“Waverunner” รุ่นใหม่ New Modelนวัตกรรมที่มาพร้อมกับ “RiDE”(Reverse with Intuitive Deceleration Electronics) ซึ่งเป็นระบบคันเร่งคู่ครั้งแรกของโลก(World’s First Handlebars with Dual Throttle Controls) โดยยามาฮ่าได้พัฒนาระบบ“RiDE” ขึ้นมาสำหรับ “Waverunner” รุ่น New Modelในตระกูล2015 FX และ VX โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ที่ง่ายและสะดวกสบายขึ้นโดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางของเรือ หรือการจอดเข้าท่าได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องปล่อยมือจากแฮนด์ซึ่งช่วยให้สามารถขับขี่“Waverunner” ได้อย่างสนุก และควบคุมได้ดั่งใจ
การทำงานของระบบ “RiDE” ซึ่งออกแบบให้มีคันเร่งอยู่ที่แฮนด์ทั้งสองข้าง โดยคันเร่ง ที่แฮนด์ด้านขวา ทำหน้าที่ควบคุมการขับเคลื่อนไปข้างหน้าเมื่อถูกกดเข้ามา ส่วนคันเร่งที่แฮนด์ด้านซ้าย จะทำหน้าที่ควบคุมการขับเคลื่อนถอยหลัง และ“Waverunner” จะอยู่ในตำแหน่ง เกียร์ว่างเมื่อไม่ได้กดคันเร่งทั้งสองข้าง ซึ่งความสุดยอดของระบบ “RiDE” คือ คันเร่งที่แฮนด์ด้านซ้ายที่ทำหน้าที่ควบคุมการถอยหลัง สามารถทำงานควบคู่ไปกับคันเร่งด้านซ้ายขณะเร่งด้วยความเร็วสูง โดยที่จะตัดการทำงานของคันเร่งด้านขวาโดยอัตโนมัติ (Over Ride)ซึ่งผู้ขับขี่สามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยของระบบ “RiDE” และอีกหนึ่งความโดดเด่นของระบบ “RiDE” คือ สามารถควบคุมการชะลอความเร็ว โดยช่วยลดระยะจากความเร็วสูงสุดมาสู่จุดหยุด ได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับการหยุดตามแรงเฉื่อยของเครื่องยนต์แบบเก่า อีกทั้งการชะลอความเร็วของระบบ “RiDE” ยังทำได้อย่างนุ่มนวล โดยที่หัวเรือไม่ทิ่ม(Nose Dive) หรือไม่มีการกระชาก เนื่องจากมีการออกแบบให้น้ำถูกผลักออกมาทางด้านข้างในขณะที่ระบบถอยหลังทำงาน โดยระบบ “RiDE” นั้นจะมีอยู่ใน “Waverunner” รุ่นใหม่ New Model 2015 ตระกูล FX และ VX โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ “Waverunner” รุ่น New Model 2015 ในตระกูล FX และ VXS(R) จะมีระบบ Electronic Trim ซึ่งเป็นระบบควบคุมการขึ้น-ลงของหัวเรือโดยใช้ปุ่มกดขึ้น-ลงตามแต่ละสถานการณ์ของการขับขี่ และยังใช้เทคโนโลยีล่าสุดของวัสดุการผลิต ได้แก่ Nano X Cell2 ซึ่งพัฒนามาจาก Nano X Cell1 โดยเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน ทำให้ New Model 2015มีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม เช่น FX CR SVHO น้ำหนักเบากว่าเดิม 21 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นเก่าปี 2014ส่งผลให้มีอัตราการเร่งที่ดีขึ้น และช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น
โดย Nano X Cell2 จะอยู่ใน “Waverunner” ตระกูล FX , FZ , VXS(R)และยังมีข่าวดีสำหรับลูกค้าในประเทศไทยที่สนใจ“Waverunner” รุ่น FZS/FZR ปี 2015 สินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั้นจะไม่มีการจำกัดความเร็ว (สินค้าที่ขายในอเมริกาจะจำกัดความเร็วตามกฏหมาย) ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความแรงของ SVHO ได้อย่างเต็มที่[fblike]