ประเทศไทย, วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 – มาสด้าสุดปลื้มหลังยอดขายรถทุกรุ่นปรับเพิ่มขึ้นเป็นบวกทุกเซกเม้นท์ เปิดศักราชใหม่ต้อนรับปีจอยอดขายก็พุ่งทำสถิติใหม่ทันที โดยเดือนมกราคมทะยานสูงถึง 38% ด้วยตัวเลขยอดขายสูงสุด 4,539 คัน ผลพวงต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วที่มาสด้าโหมทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพการบริการหลังการขาย แสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมในรถยนต์มาสด้าที่ยังคงร้อนแรง ในขณะที่มาสด้า2 ทำยอดขายสูงถึง 2,436 คัน ก้าวขึ้นครองบัลลังก์ยึดแชมป์ยอดขายสูงสุดอันดับหนึ่งของตลาดรถเล็ก ในขณะที่ CX-5 มาแรงสุดขยับขึ้นครองอันดับหนึ่งตลาดรถเอสยูวีเป็นครั้งแรกด้วยยอดขายสูงถึง 847 คัน
เปิดศักราชใหม่เดือนแรกตลาดรถยนต์เมืองไทยก็เริ่มคึกคักทันที ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะรถยนต์แบรนด์พรีเมียมจากค่ายมาสด้าที่เน้นการขับขี่ที่สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจ ที่มาพร้อมกับความแรง แต่ช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และรูปลักษณ์ความสวยงามภายใต้การออกแบบของ โคโดะ ดีไซน์ รวมถึงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ประกอบกับการยกระดับพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานภายใต้รูปลักษณ์และคอนเซ็ปต์ใหม่ของมาสด้า นั่นคือ Mazda Corporate Identity ซึ่งเป็นรูปแบบโชว์รูมที่มาสด้าได้ปรับปรุงภาพลักษณ์รูปแบบใหม่หมด เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโชว์รูม รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้ากับมาสด้าให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ด้วยรูปแบบการสื่อสารผ่านช่องทางของระบบออนไลน์ที่ครอบคลุม หรือที่เรียกว่า Mazda Digital Platform
โดยเดือนมกราคมที่ผ่านมา รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นยังคงได้รับกระแสความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้องเล็กสุดอย่างมาสด้า2 ที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดขายจำนวน 2,436 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 31% ครองแชมป์อันดับหนึ่งในเซกเม้นท์รถยนต์นั่งขนาดเล็กรวมกับอีโคคาร์ไปครองได้สำเร็จ ส่วนอีกรุ่นที่กระแสตอบรับดีเกินคาดตอบโจทย์ทุกความต้องการรถอเนกประสงค์เอสยูวีสุดหรู ออลนิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 847 คัน มีอัตราการเติบโตมากที่สุดถึง 181% และสามารถก้าวขึ้นครองเบอร์หนึ่งรถอเนกประสงค์เอสยูวีเป็นครั้งแรก ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น มาสด้า3 จำนวน 388 คัน เพิ่มขึ้น 27% มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 305 คัน เพิ่มขึ้น 3% ส่วนรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ยังคงมียอดขายเพิ่มขึ้น จำนวน 563 คัน เพิ่มขึ้น 7% ส่งผลให้ยอดขายรถมาสด้าทั้งหมดในเดือนมกราคมปิดตัวเลขอย่างสวยสดงดงามอยู่ที่ 4,539 คัน เติบโตสูงถึง 38% ถือเป็นความสำเร็จในด้านการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เราทุกคนในมาสด้าต่างภูมิใจอย่างยิ่งในวันนี้ วันที่ทุกคนได้เห็นรถยนต์มาสด้าประสบความสำเร็จได้รับความนิยมจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น วันนี้เราได้เห็นมาสด้าก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างงดงาม โดยมาสด้า2 สามารถมัดใจลูกค้าอย่างเหนียวแน่น และเอาชนะคู่แข่งในตลาดจนยอดขายทะยานก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่ง รวมทั้งรถอเนกประสงค์เอสยูวี ออลนิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมายังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขายสูงถึง 847 คัน ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในเซกเม้นท์นี้ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของมาสด้า นี่คือบทพิสูจน์จากลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์และคุณภาพของรถยนต์มาสด้า
นอกจากนี้ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ยังได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ในปีนี้เรายังคงนำเสนอรถยนต์ที่ขับสนุกที่มาพร้อมเทคโนโลยีและการออกแบบที่ดีที่สุดเข้ามาในตลาดประเทศไทย และเราจะเน้นไปในส่วนของการบริการด้วยโปรแกรม Mazda Active Service หรืองานด้านดูแลลูกค้าตั้งแต่เริ่มมีความสนใจในแบรนด์ไปจนกระทั่งกลายมาเป็นลูกค้าของมาสด้า เราเชื่อว่าการบริการที่เกินความคาดหวังของลูกค้า จะสร้างสายสัมพันธ์อันแนบแน่นยืนยาวระหว่างเรากับลูกค้า ดังนั้นมาสด้าจึงมุ่งมั่นเร่งดำเนินการเพื่อพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายและกระบวนการของการให้บริการเพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงแบรนด์มาสด้าได้ง่ายดายเสมือนหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน
ด้าน นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด แสดงความเห็นว่า ปีนี้เราเน้นไปที่การไมเนอร์เช้นจ์ เพื่อสร้างความสดใหม่และความคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับรถมาสด้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละรุ่นจะเพิ่มออพชั่นในแบบที่คาดไม่ถึงเพื่อให้ลูกค้าได้ขับขี่แบบสนุกสนานเร้าใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังเน้นเรื่องการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าและการบริการเป็นหลัก โดยได้เร่งการปรับเปลี่ยนโชว์รูมเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ มีการเพิ่มทักษะให้แก่พนักงานในเรื่องของซ่อมแซมดูแลและการบริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีที่สุด มีมาตรฐานในการบริการที่เหมือนกันในทุกโชว์รูมไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมขนาดเล็กหรือใหญ่เพื่อให้เข้ากับ Mazda Dealer Operation Standard รวมถึงการวางมาตรฐานจำนวนพนักงานให้เหมาะสมกับขนาดของโชว์รูม เพื่อยกมาตรฐานความเป็นพรีเมียมแบรนด์ของมาสด้า และเพื่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกผูกพันกับแบรนด์ จนกระทั่งเกิดมาซื้อซ้ำในอนาคต