ยอดผลิตตลาดรถไทยม.ค.66 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.02

- Advertisement -
- Advertisement -

เดือนมกราคม 2566 ผลิตรถยนต์ 157,844 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.02ขาย 65,579 คัน ลดลงร้อยละ 5.58 ส่งออก 86,786 คัน ลดลงร้อยละ 24.28

Advertisements

21 ก.พ 2566 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิตรถยนต์และรถ

จักรยานยนต์ โดยในเดือนมกราคม 2566 มีจำนวนการผลิตรถยนต์ทั้งหมด มีทั้งสิ้น 157,844 คัน เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ร้อยละ 4.02 โดยมีปัจจัยส่งเสริมคือ การได้

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกและผลิตขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.57 และ 0.69 ตามลำดับ และผลิตรถกระบะขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อย

ละ 1.15 แต่ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 0.48
การผลิตรถยนต์นั่ง
เดือนมกราคม 2566 รถยนต์นั่ง ผลิตได้ 52,141 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 15.27
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมกราคม 2566 ผลิตได้ 12 คัน ซึ่งในเดือนมกราคม 2565 ไม่มีการผลิต
การผลิตรถบรรทุก
เดือนมกราคม 2566 สามารถผลิตได้ทั้งหมด 105,691 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 0.77
โดยรถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 103,348 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 0.04 โดยแบ่งเป็น
-รถกระบะบรรทุก 18,962 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 33.74
-รถกระบะดับเบิลแค็บ 67,907 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 11.69
-รถกระบะ PPV 16,479 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 18.63

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนมกราคม 2566 ผลิตได้ 2,343 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 26.87

Advertisements

การผลิตเพื่อส่งออก
เดือนมกราคม 2566 ผลิตได้ 91,532 คัน เท่ากับร้อยละ 57.99 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 7.43
รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 27,417 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 32.57

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 64,115 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 0.63 โดยแบ่งเป็น
•รถกระบะบรรทุก 5,238 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 39.22
•รถกระบะดับเบิลแค็บ 50,305 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 7.83
• รถกระบะ PPV 8,572 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2562 ร้อยละ 7.35

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนมกราคม 2566 อุตสาหกรรมรถยนต์ผลิตได้ 66,312 คัน เท่ากับร้อยละ 42.01 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 0.35
รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 24,724 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 0.69
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 39,233 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 1.15 ซึ่งแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 13,724 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 31.38
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 17,602 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 24.40
• รถกระบะ PPV 7,907 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 70.45

การผลิตรถจักรยานยนต์
เดือนมกราคม 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 237,821 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 12.49 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 193,910 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565

ร้อยละ 14.62 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 43,911 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 3.96

ม.คยอดขายในประเทศลดลง5.58%
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมกราคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 65,579 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 20.80 ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 5.58 ลดลง

เพราะผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงจากการขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์บางรุ่น จึงผลิตรถยนต์บางรุ่นได้น้อยไม่พอส่งมอบให้ลูกค้า
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 159,257 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 9.76 และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 10.25

การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมกราคม 2566 ส่งออกได้ 86,786 คัน โดยลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 22.24 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 24.28 มีมูลค่าการส่งออก 52,671.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น

จากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 23.14 เพิ่มขึ้นจากการได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น จึงผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นในหลายตลาดเช่นตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา

ยุโรปและอเมริกาเหนือ
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,438.40 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 38.14
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 12,888.03 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 24.65
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 1,703.29 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 21.31
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 69,701.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 5.63

ยอดส่งออกรถจักรยานยนต์
เดือนมกราคม 2566 มีจำนวนส่งออก 87,574 คัน (รวม CBU + CKD) โดยลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 60.26 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 1.99 มีมูลค่า

6,334.50 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 3.48
•ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 279.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 95.53
•อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 155.61 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 26.42
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมกราคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,769.65 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 2.14
เดือนมกราคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 76,470.91 ล้านบาท

เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 4.90

ยานยนต์ไฟฟ้า BEV เดือนมกราคมเพิ่ม650%
เดือนมกราคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 4,707 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 649.52 โดยแบ่งเป็น
•รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 2,945 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 1,019.77
oรถยนต์นั่งจำนวน 2,930 คัน
oรถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 15 คัน
•รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 23 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 2,200
•รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 32 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 68.42
oรถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 1 คัน
oรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 31 คัน
•รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,543 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 347.25
oรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,543 คัน
•รถโดยสารมีทั้งสิ้น 160 คัน ซึ่งเดือนมกราคม 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
•รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 4 คัน ซึ่งเดือนมกราคม 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน

ยานยนต์ไฟฟ้า ไฮบริด(HEV) เดือนมกราคม 2566เพิ่ม76.51%
เดือนธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,687 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 76.51 โดยแบ่งเป็น
•รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,653 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 76.54
oรถยนต์นั่งจำนวน 7,643 คัน
oรถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 7 คัน
oรถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 3 คัน
•รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 34 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2565 ร้อยละ 70
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 34 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงปลั๊กอินไฮบริด( PHEV) เดือนมกราคม 2566
เดือนธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 961 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 33.10 โดยแบ่งเป็น
•รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 961 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 33.10
oรถยนต์นั่งจำนวน 961 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสม 3.6หมื่นคัน ณ วันที่ 31 มกราคม 2566
ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 36,775 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 206.33 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
•รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 16,672 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 281.86
oรถยนต์นั่งมีจำนวน 16,479 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 286.83
oรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 170 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 61.90
oรถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 7 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 600
oรถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
oรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 13 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
•รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 96 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 209.68
•รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 530 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 87.94
oรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 62 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 87.88
oรถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 468 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 87.95
•รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 18,075 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 155.01
oรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 18,010 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 156.01
oรถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 65 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 22.64
•อื่นๆ
oรถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 1,372 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 476.47
oรถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 30 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV
ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 267,391 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 33.11 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 258,352 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 34.37
o รถยนต์นั่งมีจำนวน 257,726 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 34.52
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 483 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 16.15
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 28 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 16.67
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 85 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 18.06
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 27 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,036 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 4.84
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,036 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 4.84
• อื่นๆ
o รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV
ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 43,360 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.09 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 43,360 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.09
o รถยนต์นั่งมีจำนวน 43,297 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.15
o รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 40 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
o รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 20 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
o รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 200
ปี 2565 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 92,746 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.93
ขาย 72,158 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 86.58 ส่งออก 9,515 คัน ลดลงร้อยละ 100

การผลิต
ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปี 2565 จำนวน 92,746 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 34.93
• ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 84,685 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 44.93
• ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 8,061 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 21.21
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าปี 2565 จำนวน 72,158 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 86.58
• ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 11,162 คันเ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 371.37
• ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 57,953 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 97.06
• ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 3,043 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 55.89
การส่งออก
การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าปี 2565 จำนวน 9,515 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 100
• ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 9,515 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100

Advertisements
- Advertisement -

Related news

- Advertisement -
Exit mobile version