Advertisements
Home data &Analytics รถไทยภาพรวมยังน่าห่วง ตลาด เม.ย.68 เพิ่ม 1%

รถไทยภาพรวมยังน่าห่วง ตลาด เม.ย.68 เพิ่ม 1%

ขณะที่ยอด 4 เดือน หดตัว 8% กระบะยังทรุดต่อเนื่องมากกว่า 20%

Advertisements

28 พ.ย.68- กรุงเทพ -รายงานข่าวจาก บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ทำหน้าที่ตัวแทนรายงาน สถิติการขายปลีกรถยนต์ ประจำเดือนเมษายน 2568 เปิดเผยว่า ปริมาณความต้องการของตลาดไทย มียอดขายตลาดรวม 47,193 คัน เพิ่มขึ้น1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

โดยแบ่งเป็น ยอด ตลาดรถยนต์นั่ง มีปริมาณการขาย 17,917คัน เพิ่มขึ้น 3.6% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 29,276คัน ลดลง 0.6% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 13,896 คัน ลดลง 21.4%

เมษายน +1% 

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2568 มียอดขายรวมทุกยี่ห้อ 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 17,917คัน เพิ่มขึ้น3.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์(รถบรรทุก รถกระบะ รถตู้ รถโดยสาร) ชะลอตัวลงเล็กน้อยยอดขาย 29,276 คัน ลดลง 0.6% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 13,896 คันลดลง 21.4%  ซึ่งกระบะนั้นยังคงมียอดขายที่ลดลงสูงสุดในเช็คเมนท์

รถยนต์ไฟฟ้า(BEV) ทะลุ 1หมื่นคัน

ในส่วนของตลาดรถพลังงานใหม่ (xEV-รถไฟฟ้า รถไฮบริด) มียอดขายรวมทุกประเภท  21,897 คัน คิดเป็นสัดส่วน 46.4% ของตลาดรถยนต์รวม  เติบโตเพิ่มขึ้น 43.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแบ่งออกเป็นยอดขายรถยนต์ไฮบริด (HEV) ลดลง 13.4%  ด้วยยอดขาย 8,892 คัน และยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) อยู่ที่ 11,280 คัน เพิ่มขึ้น163.4%

Advertisements


คาดการณ์ เดือน พ.ค.

รายงานระบุว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนเมษายน จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและการทยอยส่งมอบรถยนต์จากช่วงงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46”
ในขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดรถเดือนพ.ค.อาจจะไม่เติบโตเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ตามฤดูกาลแล้วยอดขายจะลดลงประกอบกับ สภาพเศรษฐกิจ และการเปิดเทอมทำให้กระแสเงินในตลาดค่อนข้างตึงตัว กระทบต่อบรรยากาศการออกรถใหม่ป้ายแดง

ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า มีแนวโน้มที่เติบโตเพิ่มขึ้นแต่ สภาพโดยรวมผู้บริโภคเริ่มกังวลกับข่าวการตัดราคาของผู้จำหน่ายรายใหญ่และการที่เศรษฐกิจไทย อ่อนตัวอย่างรุนแรงกำลังซื้อลดลง การกระตุ้นกำลังซื้อด้วยการใช้ราคาเป็นแรงจูงใจไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นอกจากนี้ผู้ผลิตจีน ในตลาดบางรายที่มีปัญหาการเงินไม่สามารถ ส่งมอบรถได้ลดลง ซึ่งเกิดจากปัญหาการผลิต มีส่วนกระทบต่อยอดรวมของตลาดBEV

สรุป สาระสำคัญของตลาดรถไทย เดือนเม.ย.2568 มีดังนี้

Advertisements

สรุปภาวะตลาดและยอดขายรถยนต์เดือนเมษายน 2568:

  • ยอดขายรวม: 47,193 คัน (เพิ่มขึ้น 1% YoY)
    • รถยนต์นั่ง: 17,917 คัน (+3.6% YoY)
    • รถยนต์พาณิชย์: 29,276 คัน (ลดลง 0.6% YoY)
      • รถกระบะ 1 ตัน: 13,896 คัน (ลดลง 21.4% YoY)
  • ตลาด xEV (รถไฟฟ้า):
    • ยอดขายรวม 21,897 คัน (佔 46.4% ของตลาด, +43.9% YoY)
      • BEV (รถไฟฟ้าแบตเตอรี่): 11,280 คัน (พุ่ง 163.4% YoY)
      • HEV (รถไฮบริด): 8,892 คัน (ลด 13.4% YoY)

แนวโน้ม:

  • ตลาดรถนั่งฟื้นตัว ขณะที่รถพาณิชย์และรถกระบะชะลอตัว
  • xEV ขยายตัวแรง โดยเฉพาะ BEV ที่เติบโตกว่า 163% สะท้อนความนิยมรถไฟฟ้าในไทย





สถิติแยกรายยี่ห้อ

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน2568

    1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,193 คันเพิ่มขึ้น 1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า   จำนวน     17,900คัน       ลดลง   7.8%   ส่วนแบ่งตลาด   37.9%

อันดับที่ 2 บีวายดี     จำนวน      6,554คัน        เพิ่มขึ้น  630.7%          ส่วนแบ่งตลาด   13.9%

อันดับที่ 3 อีซูซุ      จำนวน       5,616คัน        ลดลง   18.1%  ส่วนแบ่งตลาด   11.9%

  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย17,917คันเพิ่มขึ้น 6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า จำนวน         6,351คัน        เพิ่มขึ้น  15.5%  ส่วนแบ่งตลาด   35.4%

อันดับที่ 2 บีวายดี   จำนวน        2,797 คัน       เพิ่มขึ้น  311.3%          ส่วนแบ่งตลาด15.6%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า    จำนวน       2,012 คัน       ลดลง   41.5%  ส่วนแบ่งตลาด11.2%

  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 29,276 คัน ลดลง 6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า   จำนวน       11,549คัน       ลดลง   17%    ส่วนแบ่งตลาด   39.4%

อันดับที่ 2อีซูซุ            จำนวน    5,616คัน        ลดลง   18.1%  ส่วนแบ่งตลาด   19.2%

          อันดับที่ 3 บีวายดี   จำนวน        3,757คัน        เพิ่มขึ้น  1,631.3%       ส่วนแบ่งตลาด   12.8%

  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 13,896 คัน ลดลง 21.4%  

อันดับที่ 1 โตโยต้า  จำนวน      6,410คัน        ลดลง   25.9%  ส่วนแบ่งตลาด   46.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        จำนวน       4,865คัน        ลดลง   20.1%  ส่วนแบ่งตลาด   35%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     จำนวน       1,622คัน        ลดลง   19.5%  ส่วนแบ่งตลาด   11.7%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,879คัน

โตโยต้า จำนวน 1,190 คัน
อีซูซุ     จำนวน    885 คัน
ฟอร์ด   จำนวน    606 คัน
มิตซูบิชิ จำนวน  164  คัน
นิสสัน จำนวน    34    คัน

  1. ตลาดรถกระบะ ไม่รวมกระบะ 4 ประตู  (Pure Pick up) ปริมาณการขาย 11,017 คัน ลดลง7%

 อันดับที่ 1 โตโยต้า    จำนวน      5,220คัน        ลดลง   28.6%            ส่วนแบ่งตลาด   47.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ จำนวน    3,980 คัน     ลดลง        21.1%           ส่วนแบ่งตลาด   36.1%

 อันดับที่ 3 ฟอร์ด  จำนวน           1,016 คัน        เพิ่มขึ้น  1.3%             ส่วนแบ่งตลาด   9.2%

 

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ (4 เดือน)มกราคม –เมษายน2568
  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 200,386 คัน ลดลง8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      75,583 คัน       ลดลง   3.4%             ส่วนแบ่งตลาด   37.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           25,905 คัน       ลดลง17.2%              ส่วนแบ่งตลาด   12.9%

อันดับที่ 3ฮอนด้า        24,725 คัน       ลดลง   19.8%           ส่วนแบ่งตลาด   12.3%

  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 76,151 คัน ลดลง1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      25,976 คัน       เพิ่มขึ้น  17.4%            ส่วนแบ่งตลาด   34.1%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า       12,896 คัน       ลดลง26.9%              ส่วนแบ่งตลาด   16.9%

อันดับที่ 3 บีวายดี       6,965 คัน        ลดลง   19.5%           ส่วนแบ่งตลาด   9.1%

  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย124,235คัน ลดลง6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      49,607 คัน       ลดลง   11.6%            ส่วนแบ่งตลาด   39.9%

อันดับที่ 2  อีซูซุ            25,905 คัน       ลดลง   17.2%            ส่วนแบ่งตลาด   20.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      11,829 คัน       ลดลง   10.4%           ส่วนแบ่งตลาด   9.5%

  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 63,758 คัน ลดลง14%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      28,479 คัน       ลดลง   16%              ส่วนแบ่งตลาด   44.7%

อันดับที่ 2อีซูซุ            22,899 คัน       ลดลง   16.9%           ส่วนแบ่งตลาด   35.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        6,556 คัน        ลดลง   17.5%           ส่วนแบ่งตลาด   10.3%

                               *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 12,266คัน

โตโยต้า4,735คัน – อีซูซุ4,299คัน – ฟอร์ด2,442คัน –มิตซูบิชิ646คัน – นิสสัน 144คัน

  1. ตลาดรถกระบะPure Pick up ปริมาณการขาย 51,492คัน ลดลง15.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      23,744 คัน       ลดลง17.9%              ส่วนแบ่งตลาด   46.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           18,600 คัน       ลดลง 20.4%             ส่วนแบ่งตลาด   36.1%

นดับที่ 3 ฟอร์ด        4,114 คัน        ลดลง14.2%              ส่วนแบ่งตลาด   8%

ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ 10 อันดับแรกม.ค.-เม.ย. 2568

ยี่ห้อ(เม.ย.68) (เม.ย.67)เติบโต (%) (ม.ค.-เม.ย.68) (ม.ค.-เม.ย.67)เติบโต (%)ส่วนแบ่งตลาด (%)
Toyota17,90019,422-7.8%75,58378,232-3.4%37.9%
Isuzu5,6166,856-18.1%25,90531,300-17.2%11.9%
Honda3,3565,743-41.6%24,72530,847-19.8%7.1%
BYD6,554897+630.7%16,53810,944+51.1%13.9%
Mitsubishi1,7432,217-21.4%8,8429,804-9.8%3.7%
MG2,1201,451+46.1%6,8896,283+9.6%4.5%
Ford1,6222,016-19.5%6,5577,950-17.5%3.4%
GWM1,161792+46.6%3,7083,131+18.4%2.5%
Changan1,225801+52.9%3,4631,671+107.2%2.6%
Mazda7141,007-29.1%2,5393,438-26.1%1.5%

สรุปแนวโน้มสำคัญ:

  1. Toyota ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด (37.9%) แม้ยอดขายลดลง
  2. BYD เติบโต +630.7% ในเดือนเม.ย. และ +51.1% ปีต่อปี สะท้อนความนิยมรถไฟฟ้า
  3. แบรนด์จีน (BYD, MG, GWM, Changan) โตแรงทุกค่าย
  4. Honda และ Isuzu ยอดขายลดลงเกิน -18%
  5. รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นส่วนใหญ่ขายลดลง ยกเว้น Mitsubishi ที่ลดน้อยที่สุด (-9.8%)

*ข้อมูลเปรียบเทียบเดือนเมษายน 2568 vs. 2567 และสะสมปี 2568 (ม.ค.-เม.ย.)*

Advertisements
Exit mobile version