หลายคนที่กำลังมองหารถยนต์เอนกประสงค์(MPV)7ที่นั่ง ซึ่งในตลาดไทยรถที่จำหน่ายทั้งหมดเป็นรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูป ในตลาดบ้านเรามีรถให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ และหลายนาดตั้งแต่รถ MPVขนาดใหญ่ เช่น โตโยต้า อัลฟาร์ด ฮุนได สตาร์เรีย เกีย คาร์นิวัล โตโยต้า เวนทรรี่ แต่ในกล่มMPVขนาดเล็ก น่าสนใจกว่าเพราะเป็นกลุ่มรถราคาไม่แพงทำให้เป็นเจ้าของได้ง่ายสำหรับคนส่วนใหญ่ รถกลุ่มนี้มีตัวเลือกหลายหลายเช่นกัน ตั้งแต่ ซูซูกิ XL7 ซูซูกิ เออร์ติก้า สมาร์ทไฮบริด โตโยต้า เวลอส ฮอนด้า BR-V รวมถึง มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส
ซึ่งหากลองแยกแยะเราจะพบว่า มินิMPVนั้นมีแบ่งเป็น2สายคือ สายถนนปกติกับ สายยกสูงซึ่งรถยกสูงนี้สามารถใช้งานได้ขอบเขตกว้างขวางขึ้นเพราะว่า ทำมารองรับกับเส้นทางขรุขระได้ระดับหนึ่ง
ในตลาดไทยปี2023 รถที่โดดเด่นสายยกสูงน่าจะไม่มีใครเทียบเคียง มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส คันนี้ได้ทั้งทางด้านราคา สมรรถนะ ความสะดวกสบาย และการขับขี่
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เป็นรถที่มีราคาสูงที่สุดในตลาดสูงกว่า รถของเจ้าตลาดอย่างโตโยต้าเวลอส แต่ราคาสูงก็ให้ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับ วัสดุ ออฟชั่นและคุณภาพการขับขี่ที่ดี
ต้องบอกก่อนว่า รถMPVขนาดมินิในบ้านเรานั้นการที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากตลาดต้นทางมักจะติดกลิ่นอาย รสนิยมของตลาดใหญ่ที่ต้นทางมาเสมอ นั่นคือ รถเหล่านี้ทำมาเพื่อคนที่มีกำลังซื่อในเอเชียที่ไม่มีกำลังซื้อมากนัก ออฟชั่นต่างๆ หรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำเสนอในตลาดพัฒนาแล้วก็ถูกลดทอนลงไปเมื่อ ทำรถแบบนี้มาขายในตลาดกำลังพัฒนา เรียกว่าเน้นปริมาณไม่เน้นคุณภาพมากเท่าตลาดคนรวย
นำหนักทางวิศวกรรม ให้นำหนักไปที่ขนาดของตัวถัง พื้นที่ใช้สรอย และลดทอนความสามารถทางด้านการขับเคลื่อน พละกำลังเครื่องยนต์และออฟชั่นไฮเทค ต่างๆลงไป
โดยเฉพาะกำลังเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ทุกยี่ห้อ อันเดอร์เพาเวอร์ทั้งหมด คือเครื่องอืดกำลังน้อยหรือไม่ก็ใส่เครื่องรุ่นเก่าที่ทำการผลิตมานาน ระบบขับเคลื่อนก็มีเพียงขับเคลื่อนล้อหน้าเพียงอย่างเดียวไม่มีการนำเสนอ ระบบขับเคลื่อนแบบตลอดเวลา
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส แม้ว่าเรายังสัมผัสได้ถึงแนวทางดังกล่าวข้างต้นแต่มิตซูบิชิก็ปรับแก้บางอย่างได้ดี จนกลายเป็นรถที่โดดเด่นลงตัวในตลาด มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส มีพื้นฐานมาจากมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่เราเห็นในตลาดก่อนหน้านี้
มิตซูบิชิ นำเสนอ รถรุ่นครอส เพียงเกรด เดียว โดยมีราคา 946,000 บาท โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ ก.พ.2566ที่ผ่านมา
การทดลองขับครั้งนี้เราเดินทางกันไปถึงเชียงรายโดยเครื่องบิน โดยทีมงานของมิตซูบิชิได้จัดเส้นทางไว้สำหรับการลองสมรรถนะรถทั้งทางเรียบและทางฝุ่น เพื่อให้สัมผัสความเป็นครอสอย่างชัดเจน ซึ่งรูปแบบการจัดการของมิตซูบิชิมอเตอร์ ประเทศไทยเที่ยวนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบในการรีดเอาประสิทธิภาพของรถออกมาให้เห็น
ภาพลักษ์ของครอสดูบึกบึนขึ้นอย่างไรก็ตามด้วยพื้นฐานของรถที่ต้องการใช้งานหลากหลายบนถนนกลิ่นอายจึงทิ้ง รถตั้งต้นไปไม่ได้ ยิ่งสีที่ใช้เป็นสีพรีเมี่ยมจะลุยหนักๆ ก็คงเสียดายรถ
เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อให้มีความสามารถในการรองรับงานฝุ่นในทางขรุขระได้ โดยเฉพาะ ช่วงล่างที่ดีกว่าครอสเจนแรกมาก ไม่ย้วย ไม่บั๊มถี่ๆ ไม่หน้าทิ่มเมื่อเบรกอีกต่อไป
ภาพภายนอกของครอสนั้น เห็นได้ชัดว่า มีสไตล์ของรถเอสยูวี สายลุยเพิ่มขึ้นกันชนหน้าดุขึ้น กลับกันภายในทำให้หรูหรา การหุ้มเบาะ งานประกอบต่างๆ และสัมผัสของแดชบอร์ด ละเอียดขึ้น
คนที่จะใช้รถแนวนี้หากให้ได้ประโยชน์สูงสุดคุ้มค่าเกินกว่าที่จะขี่หล่อๆ ก็ต้องมีไลฟ์สไตน์แบบภาพข้างบนคือมีโอกาสบ้างที่ได้ออกไปเคาะสนิมตามเส้นทางธรรมชาติ
ภาพข้านบนนั่นแสดงให้เห็นถึงชื้นส่วนอุปกรณ์รวมทั้งระบบใหม่ๆที่เพิ่มเติมจากครอส ตัวก่อนหน้าซึ่งมิตซูบิชิให้มาเยอะเหมือนกันเมื่อเทียบกับราคาที่ปรับขึ้น7000บาทสำหรับตัวใหม่
ส่วนของภายนอกตัวรถที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงให้มีรูปแบบที่ทันสมัยสวยงามขึ้น
ตัวรถจะสมดุลย์มากขึ้นเมื่อมองจากภายนอกเพราะมีการปรับระยะห่างของซุ้มล้อให้ช่องว่างระหว่างชุ้มกับยาง มีความแคบลง ในขณะที่ตัวรถมีความสูง มุมกระทบกว้างขึ้นความเสียหายเวลา เจอทางชันหรือการเข้าจอดเมื่อมีสตอปเปอร์ปลอดภัยขึ้น
ช่วงล่างแน่นหนาเวลาขับรู้สึกได้ถึงความมั่นคง โช้คหลังปรับเป็นตัวใหม่แกนใหญ่ขึ้นเท่าๆ กับรถรุ่นพี่อย่างปาเจโร สปอร์ต
คุณภาพการขับทางเรียบ
เราสามารถสัมผัสความมั่นคงได้ ในทางเรียบ ความเงียบของห้องโดยสารโดดเด่นเลย รู้สึกถึงความสบายไม่เครียด การควบคุมรถกระชับมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวถังนิ่งขึ้น พวงมาลัยมีการตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติ การคืนตัวของพวงมาลัยเมื่อหมุนสุดดีมาก ทำให้การเลี้ยวแคบๆ ในทางภูเขานั้นทำได้แม่นยำ ความเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถระหว่างผู้ขับกับรถมีให้เห็น อย่างไรก็ตาม เรายังติดว่า เสา A ของรถอาจจะบังทัศนวิสัยในบางครั้งเมื่อต้องขับในทางเลี้ยวเยอะๆ ส่วนกำลังของเครื่องยนต์หากให้เพิ่มมาอีกเล็กน้อยก็น่าจะดีสมบูรณ์แบบ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ครอสน่าจะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มเมื่อพูดถึงการขับทางเรียบ
คุณภาพทางขรุขระ
การขับในทางขรุขระเที่ยวนี้ มิตซูบิชิใช้ทางลูกรังในไร่ของสิงห์ปาร์คเชียงรายเป็นเส้นทางทดลอง ซึ่งเส้นทางนี้เป็นแทรคธรรมชาติที่ทีมสิงห์แรลลี่ครอสเคยใช้ซ้อมรถแข่ง เอ็กซ์แพนเดอร์ครอส สามารถวิ่งได้สบายเราลองด้วยความเร็วระดับหนึ่งที่ผ่านทางเป็นคลื่นเป็นลอน ที่เกิดจากความไม่เรียบตามธรรมชาติซึ่งปกติ เมื่อลงหลุมแบบนี้รถก็จะดีดช่วงหลังอย่างแรง แต่เราพบว่าการถืบตัวของรถมีให้เห็นแต่ไม่เยอะ เป็นการดีดตามธรรมชาติเมื่อลงหลุม ในขณะทางลูกรังที่ได้ขับผ่านมีหินลอยบางๆ รถที่สูงทำให้ผมไม่กังวลมากนักว่าจะ โดนดีดไปทำลายชิ้นส่วนใต้ท้องรถ
มิตซูบิชิ ทำสถานีให้ได้ทดลองระบบ ใหม่ที่ติดตั้งมาคือ ระบบAYC
ระบบนี้มีประโยชน์มาก สมควรมีในรถหลายๆ รุ่นเพราะว่า มันจะช่วยลดอาการหน้าดื้อท้ายปัด ของรถเมื่อเจอผิวถนนอ่อนนุ่มหรือผิวไม่แข็ง เช่นถูกเคลือบด้วยน้ำหรือลูกรังระบบนี้จะทำงานเมื่อรถเลี้ยวโค้ง ในรถยังมีระบบ VSCซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานรถหลายคัน VSC มีหน้าที่หลักๆเพื่อตอบสนองรถในทางตรงและโค้งส่วนAYC เน้นเรื่องโค้งเป็นหลัก การทดสอบประสิทธิภาพของAYC คือการสาดโค้งแคบๆ บนทางลูกรัง ปกติแล้วเราจะเลี้ยวไม่เข้าเพราะความเร็วเกินโค้ง และรถจะไถลตกถนนไปแต่AYC ช่วยได้อย่างมากไม่ให้เกิดเหตุการแบบนั้นขึ้น อย่างไรก็ตามพึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกอย่างมีข้อจำกัดหากเราขับรถเกิดหลักฟิสิกซ์ไดร์วิ่งไป ระบบอะไรก็ช่วยไม่ได้เพียงแต่ผ่อนหนักเป็นเบาเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ บทสรุปเบื้องต้นของการได้สัมผัสครั้งแรกของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ใหม่
และขอบคณ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย และทีมงานที่อำนวยความสะดวกในการทดลองขับ
