“เครต้า “เหมือนการทดลองตลาดของ ฮุนได ที่จะทำรถยนต์เพื่อภูมิภาคเอเซียจากเดิมที่ออกแบบผลิตภัณฑ์เจาะตลาดทั่วโลก แรงจูงใจของเครต้า มาจากความต้องการตลาดรถสำหรับสมาชิกหลายคนแบบครอบครัวขยายซึ่งศูนย์กลางของลูกค้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้อยู่ที่ อินโดนีเซีย การโฟกัสไปที่ตลาดใดตลาดหนึ่งเนื่องจากตลาดนั้นมีอนาคตเพราะมีประชากรจำนวนมากหมายถึงโอากาศขายได้มาก หากไปถึงก่อน ยุโรปก็เคยทำเช่นนี้เช่น อาวดี้ โฟล์ค เน้นทำรถเพื่อตอบสนองตลาดจีน จีเอ็ม อเมริกาก็เช่นเดียวกันโฟกัสที่จีน ส่วนฮอนด้า ซูซูกิ ทำรถเพื่อโฟกัสตลาดอินเดีย และตลาดเกิดใหม่หลังสุดคืออินโดนีเซีย
ปี2565-2565 เป็นปีทองของฮุนได มอเตอร์ ประเทศไทยก็ว่าได้ เพราะว่า 2 ปีเปิดตัวรถได้ 2 รุ่น ใหม่ นี่ไม่รวมเอารถที่ขายไม่ได้อย่าง โคน่าและรถไฟฟ้าอื่นๆ ที่ยอดขายแทบจะไม่มีเรคคอร์ด รถรุ่นหลักที่ลากมาคือ ฮุนได H1 ก่อนจะได้ สตาร์เรียมาแทนสักพักฮุนได H1 น่าจะเฟรดเอาท์ ออกไปจากตลาด
มาเมื่อ 17 มี.ค.65 ที่ผ่านมานี้ เป็นอีกวาระหนึ่งที่ฮุนไดไทยแลนด์ได้ขยายพอร์ตรถยนต์ของตัวเอง จากเดิม มีรถจำกัดมากเพียงรถตู้ฮุนไดเป็นตัวหลักเพียงตัวเดียวที่หล่อเลี้ยงบริษัทมา
การใช้ศักยภาพในฐานการผลิต เอกสารข่าวของฮุนได มอเตอร์ ทำให้เราสับสนเล็กน้อยที่ระบุแบบนี้ “
ฮุนได ไทยแลนด์ เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นแรก เครต้า
- ฮุนได เครต้า ใหม่ คือรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นแรกของฮุนได ในประเทศไทย”
ซึ่งจริงๆ ฮุนได เขาต้องการสื่อความหมายว่า “ครั้งแรกของฮุนได ประเทศไทยที่เปิดตลาด รถเอนกประสงค์กลุ่มซับคอมแพ็ค หรือ B-SUV
Hyundai Thailand Introduces its First B-SUV, all-new CRETA
- All-new CRETA is Hyundai Thailand’s first B-SUV product.
เอาล่ะบางคนที่ตามฮุนได แต่ไม่ได้ตั้งใจหาข้อเท็จจริงก็รับรู้ไปตามสื่อนั้นๆ ที่พาดหัวกันไปแต่อย่างลืมว่า ถ้าเขียนแบบภาษาไทย ก็ผิดแล้วเพราะว่า ฮุนได ไทยแลนด์เคยขายรถเอนประสงค์ มาก่อนแล้วไม่ใช่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก รุ่นแรกของรถเอนกประสงค์นั่นคือรุ่น “ทูซอน” คงจำกันได้
เครต้า =B-SUV
นายฮิโตชิ คาเนโกะ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหนายฮุนไดในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทไ้ด้แนะนำ ฮุนได เครต้า อย่างเป็นทางการ โดยเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ ขนาดกระทัดรัด (B-SUV) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของฮุนได ด้วยสไตล์ที่โดดเด่น ดูสปอร์ต พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่มอบความสนุก เพลิดเพลิน การใช้งานที่หลากหลาย ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ชื่อรุ่น เครต้า คือความเชื่อมโยง จากชื่อของหมู่เกาะครีต ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของบรรยากาศที่สงบ ผ่อนคลาย ขณะเดียวกันเต็มไปด้วยพลังงาน และความคึกคักของกิจกรรมบนเกาะ
“การเปิดตัวของ เครต้า คือการยืนยันและการให้ความเชื่อมั่นว่าฮุนได จะสรรหาผลิตภัณฑ์ที่จะตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ฮุนไดคือผู้นำในกลุ่มตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่มายาวนานกว่า 10 ปี เรามุ่งหวังที่จะเติบโตและประสบความสำเร็จเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ จากการที่รถยนต์ฮุนได ทั้งรุ่นเอชวัน และสตาร์เรีย ล้วนได้สร้างตำนานการเป็นผู้นำกลุ่มในประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าฮุนได เครต้า ก็จะโลดแล่นบนท้องถนนและดำเนินรอยตามความสำเร็จนี้เช่นเดียวกัน”
ฮุนได เครต้า เมดอินอินโดนีเซีย ฟอร์ อินโดนีเซีย
เครต้ามาจากอินโดนีเซีย เป็นรถที่ฮุนได พัฒนาเพื่อตลาดในภูมิภาคนี้โดยเว็บของ ฮุนได อินโดนีเซียใช้คำว่า “ฮุนได เครต้า เมดอินอินโดนีเซีย ฟอร์ อินโดนีเซีย”ดังนั้นเครต้าจึงไม่ใช่ “global model“แบบโมเดลอื่นๆ ที่ฮุนไดทำ
ในเอกสารข่าวของฮุนได ไทยแลนด์เลยต้องย้ำว่า ““ฮุนได ไม่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์ชั้นนำที่อยู่ในลำดับที่ห้าของโลกโดยไร้ไม่มีเหตุผล ลูกค้าทั่วโลกไว้วางใจในคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ เพราะไม่ว่ารถยนต์ฮุนไดจะถูกผลิตขึ้นที่ใด ทุกแหล่งการผลิตจะยึดมาตรฐานและเทคโนโลยีเช่นเดียวกันทั่วโลก”
บุคลิกของรถยนต์เครต้า บ่งบอกการผสมผสานความมั่นใจ ความแข็งแกร่งและเส้นสาย ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เส้นหลังคาและเสา C เน้นความมั่นคง ส่วนภายในออกแบบเน้นความพรีเมี่ยมและร่วมสมัย ฮุนได เครต้า ได้รับการออกแบบกระจังหน้า Parametric Jewel Radiator Grille ที่มีเอกลักษณ์ และด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่ให้ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน หรือ Daytime Running Lights กลมกลืนไปกับแผงกระจังหน้า และจะสังเกตุเห็นได้เมื่อไฟเปิดทำงาน สะท้อนความมีนวัตกรรมของฮุนได ที่นำเทคโนโลยีมาผสานกับการใช้งานได้จริงและไม่เหมือนใคร ส่วนไฟท้ายออกแบบให้มีลักษณะเหมือนบูมเมอแรงและไฟเบรกเพิ่มความล้ำสมัย ส่วนที่น่าประทับใจของภายนอกรถยนต์เครต้า คือบริเวณโดยรวมรอบๆ คัน บริเวณกระจกหน้ารถที่เปิดกว้างขณะเดียวกันให้การปกป้อง ล้ออัลลอยแบบ Diamond cut ขนาด 17 นิ้วให้ความรู้สึกสปอร์ต มีมิติ กลมกลืนไปกับรูปลักษณ์ทั้งหมดของตัวรถ
ขนาด ซับ-คอมแพ็ค
ตัวรถเป็นรถเอสยูวีเป็นขนาดที่นิยมสูงในบ้านเราเพราะมีความคล่องตัว จำนวนเบาะที่นั่ง 5 ที่นั่ง
มิติของรถ คือ
-ความยาวโดยรวม (มม.)4,315
-ความกว้าง (มม.)1,790
-ความสูง (มม.)1,630
-ฐานล้อ (มม.)2,610
-แทรค ล้อหน้า (มม.)1,572
-แทรค ล้อหลัง (มม.)1,576
-โอเวอร์แฮงด้านหน้า (มม.)855
-โอเวอร์แฮงค์หลัง (มม.)850
มาดูตัวจริง บนถนนหรือที่จอดโชว์ไว้อย่างแรกที่รู้สึกคือ “ทำไมมันเล็กจัง” คือรถราคานี้ในเมืองไทยมันควรจะได้บอดี้ ภายนอกที่ดูแกรนด์กว่านี้หรือไม่? แต่ก็เข้าใจได้ว่า คนซื้อรถทั่วไปที่เวลาเทียบรถจะเทียบ ขนาดบอดี้ก่อนอันนี้เป็นข้อด้อย เพราะเครต้าไม่ได้ให้ความรู้สึกต่างไปจาก มิติ SUVซับ-คอมแพ็ค ทั่วๆไป แม้ว่า ความรู้สึกว่าภายนอก เล็กไปหน่อยแต่หากไปมองภายในแล้ว กลับรู้สึกกว้าง ฮุนได เครต้าออกแบบพื้นที่ได้ดี รู้สึกโล่งสบายพื้นที่ศรีษะและพื้นที่วางขามีมาก เบาะนั่งมีระดับที่สูง นั่งสบายเหมือนโซหา พนักพิงของเบาะมาแบบฟูลไซด์ แต่ถ้าเป็นMPV ที่เราเห็นรุ่นใหม่ๆ อย่าง เอ็กซ์แพนเดอร์ xl-7 หรือ เวลอส จะเน้นพนักพิงหลังสั้น คนตัวใหญ่นั่งไม่เต็มหลัง นี่เป็นข้อต่างที่เราเห็นได้ชัดระหว่าง SUV กับ MPV
หลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ
ในส่วนของบรรยากาศของการออกแบบภายใน เครต้าได้ถ่ายทอดความพรีเมี่ยมที่แตกต่าง บริเวณด้านหน้าแผงหน้าปัดแนวยาวเชื่อมต่อไปกับแผงด้านข้างประตูเสมือนปีกที่โค้งรับกัน ดูเข้ม และมีพลังเหมือนช่วยโอบอุ้มผู้โดยสารในห้องเคบิน บริเวณแผงด้านหน้าติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วรองรับ Android Auto และ Apple Car Display นอกจากนี้ เครต้ายังถูกออกแบบด้วยการใส่ใจในรายละเอียดทุกด้าน ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีความพิเศษมากขึ้น อาทิ ฝาครอบลำโพงออกแบบพิเศษ ขอบเหล็กหุ้มบริเวณหัวเกียร์ และเส้นไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร และที่สำคัญพาโนรามิค ซันรูฟ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความหรูหรา สิ่งที่ตัดออกไปจากระบบรถ ที่มีนำเสนอในอินโดนีเซียเช่น ระบบเสียงระดับพรีเมียมของ BOSE และเบาะแบบมีรูระบายอากาศได้ (Ventilated Seat)
เครื่องยนต์ 1.5 แรงม้า 115ม้่า
เครต้า เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์เรียกว่า “สมาร์ทสตรีม” ตำแหน่งเครื่องยนต์วางด้านหน้า แบบ4สูบ ขนาด1.5ลิตร 4 สูบ 16 วาล์วให้กำลัง 115แรงม้าที่6300รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 143.8นิวตัน-เมตรที่ 4500 รอบต่อนาที สวนระบบส่งกำลังในอินโดนีเซียมีให้เลือก 2เกียร์คือทั้งออโต้ และเกียร์ธรรมดา แต่ตลาดเมืองไทยฮุนไดเลือกมาจำหน่ายเฉพาะออโต้ 6 สปีด IVT (CVT) พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 แบบ คือ อีโค Eco, คอมฟอร์ท Comfort, สปอร์ต Sport และสมาร์ท Smart พร้อมปุ่มปรับการขับขี่เฉพาะสภาพถนนหิมะ ทรายหรือโคลน
ถ้าให้วิจารย์ขุมพลังเครื่องยนต์ตัวนี้ ถือว่า แรงม้าน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากแหล่งเดียวกัน ก็ต้องดูว่า กำลังรถพอแบกฟูลโหลด(5ที่นั่ง)ไหวเพียงใดและรถประหยัดน้ำมันเพียงใด (ข้อมูลการบริโภคน้ำมันยังไม่เปิดเผย)
ระบบความปลอดภัย
เครต้า มาพร้อมกับ ยระบบความปลอดภัยอัฉริยะบนท้องถนนภายใต้ Hyundai SmartSense เช่น
- ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา
- ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
- ระบบกล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด
- ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ
- ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งผ่านด้านข้าง
- ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้า
- ระบบช่วยจำกัดความเร็ว
- ระบบเตือนให้เช็คผู้โดยสารด้านหลัง
ฮุนได เครต้า ใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชันบีมพร้อมเหล็กกันโคลงระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน ระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติและถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ตำแหน่ง
ในด้านของความสะดวกสบาย เครต้า ได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลบนจอ แอลอีดี ขนาด 10.25 นิ้ว ความละเอียดสูง ปรับเปลี่ยนสีตามโหมดการขับขี่ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto hold ระบบควบคุมอุณภูมิอัตโนมัติและที่ชาร์จ สมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
ฮุนได เครต้า มีให้เลือก 2 รุ่นคือ SEL และ SE สีตัวถังภายนอก 3 สี คือ สีแดง เรด ดราก้อน, สีเทา ไททั้น เกรย์ และสีขาวครีมมี่ไวท์
ส่วนสีภายในมีให้เลือก 2 แบบคือ วันโทนสีดำ และทูโทน สีดำ/น้ำตาลคอนยัค สำหรับตัวถังสีเทาเท่านั้น
ราคาสูงหักปากกาเซียน
ก่อนการเปิดตัว เว็บไซต์ใหญ่ๆ ของวงการยานยนต์ บ้านเรา ที่ชอบเอา”ราคารถ” รุ่นต่างๆ ในตลาดเมืองนอกมา เล่นข่าวเหมือนราคาในไทย และคาดการณ์ว่าราคาของรถนั้นๆ จะขายกันเท่าไร อย่าง เครต้าน่าก็เห็นบอกราคาที่อินโดฯ 7.4 แสนบ้าง 6 แสนบ้าง 4 แสนก็มี แต่ที่แน่ๆ เครต้ามา ทำราคารวมกำไร ภาษี ประกัน ขนส่งและอื่นๆ ก็เท่าที่เห็นข้างล่าง
ทั้ง2 รุ่นมีราคาดังนี้
SE จำหน่ายราคา 949,000 บาท
SEL จำหน่าย ราคา 999,000 บาท
รถนำเข้าสำเร็จรูป CBU ที่ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า เสียแต่ภาษีสรรพสามิต 25% (เหมือน โตโยต้า เวลอส ,ซูซูกิXL7)
ต้องบอกว่าเห็นราคาแล้วน่ากังวลสำหรับการแข่งขัน เพราะว่ารถใกล้เคียงกันอย่าง โตโยต้า แม้จะเป็นMPV แต่มีเทคนิคพื้นฐาน ที่น่าเชื่อถือกว่า เครื่องยนต์ก็เกาะกลุ่มกัน ความสดใสของรถในฐานะ โมเดลสดใหม่ให้ออฟชั่นที่น่าสนใจ ยังมีรถใกล้ๆ กับเครต้า ใช้แทนกันได้(คนส่วนใหญ่ซื้อSUV แบบโมโนคอคไปก็ไม่มีใครเอาไปลุยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่วิ่งถนนดำ) นั่นคือ ซูซูกิ XL7 1.5 ลิตร ครอสโอเวอร์ จากอินโดฯเหมือนกัน ซูซูกิXL7 นั้นได้เด่นตรงนั่งสบาย เครื่องยนต์ทันสมัยและประหยัดน้ำมัน 16.4 กก/ลิตร ใช้น้ำมันe20ได้ หรือจะไปแข่งกันจีน อย่าง โจไลออน ได้ไฮบริด 190แรงม้า ออฟชั่นเต็ม ราคาฮาวาล โจไลออน รุ่น TECH ราคา 879,000 บาท ,รุ่น PRO ราคา 939,000 บาท,รุ่น ULTRA ราคา 999,000 บาท
ขยายเครือข่ายสิ้นปีครบ 43แห่ง
นอกจาก การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ บริษัท ได้วางแผนขยายเครือข่ายพร้อมกับการทยอยเปิดดำเนินการโชว์รูมเพิ่มขึ้น โดยในปี 2565 นี้ ฮุนได จะมีโชว์รูมให้บริการทั้งสิ้น 43 แห่งทั่วประเทศ จากในปัจจุบันมีเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการแล้วถึง 26 แห่ง (12 แห่งใน กรุงเทพฯ และ 14 แห่งในต่างจังหวัด)
“เรารักษาสัญญาในการสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อการเติบโตของธุรกิจในประเทศนี้อย่างแข็งแรง เพื่อให้ฮุนได เป็นแบรนด์ที่ส่งมอบนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุก ๆ คน” นายคาเนโกะ กล่าว
สำหรับโปรโมชั่นพิเศษเมื่อจองรถยนต์เครต้า ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี รับประกันคุณภาพนาน 5 ปีหรือ 150,000 กม ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าแรงบำรุงรักษานาน 5 ปี และพิเศษลูกค้าเก่าฮุนไดรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท
ฮุนได เครต้า พร้อมให้ทดลองขับที่โชว์รูมฮุนได ทั่วประเทศ ลูกค้าสามารถแวะชม และรับข้อเสนอพิเศษที่ฮุนได ซิตี้ สเตชั่น ชั้น 3 สามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม65นี้ หรือที่งานบางกอกอินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ได้ที่ ชาเลนจ์เจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.hyundai.co.th
LAST POST
- FORDเจาะตลาดบนส่งเรนเจอร์ V6 พร้อมชุดแต่งMS-RTลงตลาดเคาะราคา 1.749 ล้านบาท
- อีซูซุ เปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซล 2.2
- รถยนต์ไฟฟ้า”ฮอนด้า” Ye 2025
- 42 แบรนด์รถร่วมงานMOTOR EXPO 2024
- ซุปเปอร์ ยูโร 5 ดันยอดสแกนเนียทะลุ 120 คัน
- ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS 2024 หรูขึ้นแต่ราคาลง13%
