BYDซีลเปิดตัวล่าสุดที่งาน มิวนิก ออโต้โชว์ปี 2023ประเทศเยอรมัน(เดิมคืองานแฟรงเฟิร์ตออโต้โชว์) ชื่อ Seal เรียกรุ่นตรงกับที่ขายในประเทศจีน (ปกติรถยนต์จีนจะมีชื่อที่2หรือ3 ต่างกันไปแล้วแต่ตลาด) การเปิดตัวSealในไทยมีให้เลือก3เกรด คือ
1. SEAL PERFORMANCE AWD ราคา 1,599,000.00 บาท ระดับเกรด ทอปไลน์
2. SEAL PREMIUM ราคา 1,449,000.00 บาท ระดับเกรด ตัวกลาง
3. SEAL DYNAMIC ราคา 1,325,000.00 บาท ระดับเกรด ล่างสุด
รุ่น | ราคา (บาท) | ระดับเกรด |
---|---|---|
SEAL PERFORMANCE AWD | 1,599,000.00 | ทอปไลน์ |
SEAL PREMIUM | 1,449,000.00 | ตัวกลาง |
SEAL DYNAMIC | 1,325,000.00 | ล่างสุด |
*อัพเดทราคาเมื่อ 10 มิ.ย.67
การออกแบบภายนอก
ด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวจากความสวยงามด้านหน้ารถแบบ X-SHAPED DESIGN เปิดวิสัยทัศน์ที่กว้างกว่ากับหลังคากระจกที่ทอดยาวทั้งห้องโดยสาร พร้อมดีไซน์ไฟ LED ด้านท้ายที่ล้ำสมัย แฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งท้องทะเล
ไฟหน้า LED แบบ Double-U Floating เส้นสายที่ออกแบบให้บาง และ ลดแรงต้านอากาศด้วยเลนส์ LED ทำให้ไฟหน้าเพรียวบางขึ้น ขนาดและมิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง : 4,800 x1,875 x1,460 mm ระยะฐานล้อกว้าง 2,920 mm ฝากระโปรงแบบโช้คอัพ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ช่องเก็บของด้านหน้าความจุ 50 ลิตรกระจกมองข้างทรงหยดน้ำ ปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยหลังล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว 235/45/19 ในรุ่น Premium และ AWD PERFORMANCE และ 18 นิ้ว 225/50/18 ในรุ่น Dynamic ที่มือจับประตูที่เก็บซ่อนไปกับตัวรถ ช่วยจัดระเบียบอากาศ และ ลดแรงต้านของลม เมื่อผู้ใช้ปลดล็อกด้วยระบบ Keyless entry มือจับจะเลื่อนออกมา
ไฟท้าย LED แบบชิ้นเดียว ประกอบด้วยไฟรูปหยดน้ำเรียงเป็นชั้น กันชนหลังที่โดดเด่น มีมิติที่คมชัด ตกแต่งทั้ง 2 ข้างด้วยดีไซน์โครงแบบรถแข่ง ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า ระบบป้องกันการหนีบอัจฉริยะ ตั้งระดับความสูงได้ตามความต้องการหลังคากระจกพาโนรามิก 2 ชั้น เคลือบด้วย Silver-plated ช่วยให้การส่องผ่านแสงไม่เกิน 4.2% แสงแดดส่องผ่านได้ไม่เกิน 16% ขนาดใหญ่ถึง 1.9 ตรม. ให้มุมมองที่กว้าง
การออกแบบภายใน
ภายในสีดำ หรูหรา สปอร์ต กว้างขวาง และ สะดวกสบาย เบาะนั่งทรงสปอร์ต ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะ คนขับ + เบาะนั่งคนขับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ท(เฉพาะรุ่น Premium และ AWD PERFORMACE) และ ดับรถปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ ระบบอุ่นเบาะเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มีระบบระบายอากาศ และ ระบบอุ่นเบาะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มีอยู่ในทุกรุ่น รุ่น Premium & AWD Performance เบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Courtesy ฝั่งคนขับมีระบบปรับดันหลังได้ 4 ทิศทาง (Lumbar support) พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง (Memory Seat)หัวเกียร์ไฟฟ้าแบบคริสตัลเบาะนั่งด้านหลัง 3 ตำแหน่ง เบาะปรับพับแยกได้แบบ 40/60
โครงสร้าง e-platform
e-platform 3.0 โครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนา ของรถยนต์ไฟฟ้าบีวายดี พร้อมกับเทคโนโยลีการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Cell To Body (CTB) ซึ่งการติดตั้งระบบนี้จะทำให้ได้พื้นที่เพิ่มขึ้น มิติความสูงและขนาดตัวรถเท่าเดิม โดยเฉพาะ พื้นที่เบาะนั่ง ตัวถังทนทานต่อการบิด ชุดประกอบโครงสร้างแบตเตอรี่ถูกออกแบบให้สามารถปิดผนึกเข้าได้โดยตรงกับโครงสร้างรถยนต์ เสริมความแข็งของตัวพื้นฐานใต้โครงสร้างรถยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักจะเน้นการพัฒนาโครงสร้างเหล่านี้โดยเฉพาะ ระบบขับเคลื่อนแบบAWD มอเตอร์หลังเป็ฯแบบซิงโครนัสแบบแม่เหล็กถาวร + ด้านหน้าเป็นแบบ มอเตอร์อะซิงโครนัส ออฟชั่นต่างๆ มีฟังก์ชั่นการควบคุมด้วยเสียง ด้วยการใช้เสียงสั่งงาน ใช้หน้าจอสัมผัส และใช้ปุ่มควบคุมต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องขยับมือ
หน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1080P (1920×1080) ขอบจอบาง 5.9 มม. รองรับ CarPlay สำหรับอุปกรณ์ IOS หรือ Android Auto10 พร้อมหน้าหลังพวงมาลัย LCD ขนาด 10.25 นิ้วระบบเครื่องเสียง Premium acoustics มาพร้อมชุดลำโพง 12 ตัว HIFI Dynaudio Audio ที่วางชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้ 2 ช่อง
ระบบกรอง PM2.5ใบปัดน้ำฝนระบบอัตโนมัติแบบไร้โครง หน้า/หลัง ฟังก์ชั่น VTOL Function-2.2kW
ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง กล้องมองรอบคัน 360 องศาความคมชัดระดับสูงลงทะเบียนเปิดใช้งาน BYD application เจ้าของรถจะสามารถควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ จากระยะไกลผ่าน BYD application ในโทรศัพท์มือถือได้ HUD(Head UP Display) ระบบแสดงผลบนกระจกหน้าเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจากเครื่องบินเพื่อให้แสดงผลการขับขี่ที่สามารถมองเห็นได้ในระดับสายตา เนื้อหาที่จะแสดงผลนั้น ยกตัวอย่างเช่น ความเร็วรถยนต์ที่จะแสดงในระดับสายตาบนกระจกบังลมหน้า ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่ได้ (เฉพาะรุ่น Premium และAWD PERFORMANCE)
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ประกอบไปด้วย
เรด้าห์แบบ Millimeter-Wave 5 ตำแหน่ง กล้องด้านหน้าสำหรับระบบ ADAS 1 ตำแหน่ง
ระบบช่วยแจ้งเตือนการคาดการณ์การชนล่วงหน้า (PCW)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSD)
ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
ระบบช่วยเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA-B)
ระบบช่วยรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA)
ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
ระบบช่วยความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC)
ระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
ระบบชวยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAW)
ระบบกันสะเทือน ปีกนกคู่หน้า (Double Wishbone) มัลติลิงค์ (Five-Link) ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติ
ตามความเร็วแบบ Frequency Selective Damping (FSD) ควบคุมปริมาณน้ำมันไฮดรอลิกที่ฉีดเข้าไปในกระบอกสูบ
โช้คอัพผ่านวาล์ว FSD จึงปรับความนุ่มนวลและความแข็งของโช้คอัพได้โดยอัตโนมัติ การปรับเปลี่ยนแบบแปรผันอย่าง
มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับทุกสภาพถนนในการขับขี่ เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจมากยิ่งขึ้น
ระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ (iTAC)
รัศมีวงเลี้ยว 5.7 เมตร
ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน(Cd ) ต่ำเพียง 0.219
อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที (AWD PERFORMANCE)
ระบบดิสก์เบรกแบบ 4 พอร์ต พร้อมคาลิปเปอร์+ ดิสก์เบรกระบายความร้อนพร้อมรูระบายความร้อน
รองรับการชาร์จแบบ DC ที่กำลังไฟสูงสุด 150 กิโลวัตต์
การออกแบบ BYD Seal ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดการออกแบบ สุนทรียภาพทางทะเล ซึ่งไม่ได้ดูแตกต่างไปจากรุ่น ดอฟฟิล ในปัจจุบันมากนัก กระจังหน้าแบบปิดที่ด้านหน้าควบคู่ไปกับโลโก้ตัวอักษร “BYD” ขนาดใหญ่นั้นดูดี น ไฟหน้าเฉียบคมพร้อมแสง LED ทั้งสองด้าน และขอบด้านหน้าสีดำ ดูทันสมัย
เส้นสายด้านข้างดูเรียบเนียนและเพรียวบาง และที่จับประตูแบบซ่อนไม่เพียงช่วยลดแรงต้านลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหรา ได้อีกด้วย นอกจากนี้ BYD Seal ยังใช้การออกแบบกลุ่มไฟท้ายแบบทะลุ ซึ่ง
เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ง “หางเป็ดน้อย” เหนือท้ายรถประกอบกับขอบด้านหลังสีดำขนาดใหญ่ด้านล่างช่วยเพิ่มความ บรรยากาศสปอร์ตโดยรวม ในแง่การออกแบบภายใน BYD Seal ใหม่ยังติดตั้งระบบอัจฉริยะในรถยนต์ DiLink รุ่นล่าสุด และยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการชาร์จแบบไร้สายสำหรับโทรศัพท์มือถือ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสามก้าน คันเกียร์คริสตัลที่ละเอียดอ่อนและกะทัดรัด และ พื้นที่ครอบคลุมวัสดุหนังขนาดใหญ่และช่องปรับอากาศแบบทะลุทำให้ภาพรวมดูไฮเอนด์มาก
BYD Seal ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม BYD e-Platform 3.0 รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมาพร้อม
กับชุดแบตเตอรี่ขนาด 82.5 kWh (530แรงม้า) โดยมีระยะทางขับได้ไกลสูงถึง 580 กิโลเมตร
รุ่นขับเคลื่อนล้อยังมาพร้อมกับชุดแบตเตอรี่ขนาด 82.5 kWh ชุดแบตเตอรี่ ขับได้ 520 กิโลเมตร (ไม่ทราบเงื่อนไขการทดสอบ
เฉพาะ)
วิเคราะห์ราคาไทยVS จีน
BYD Seal เป็นรถซีดานระดับ B เป็นตัวเลือกแรกสำหรับคนที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย เนื่องจากหลายคนเชื่อว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างยาว ความจุดแบตมีขนาดใหญ่วิ่งได้ไกล และมีทางเลือกถึง3เกรดด้วยกัน
ลองวิเคราะห์ในแง่ของราคา เราพบว่าช่วงราคาของ BYD Seal ในไทยคือ 1,325,000 – 1,599,000 บาท ยุโรปราคา 1,700,000-1,900,000ล้านบาท ช่วงราคาในจีน 940,000 – 1,445,000 บาท ดังนั้นหากเราดูราคาขายราคาของ BYD Seals รุ่นในไทยราคาก็สูงกว่าจีนระหว่าง 154,000-385,000แสนบาท แต่ราคาในไทยยังต่ำกว่ายุโรปมาก