Thursday, October 3, 2024

เอ.พี.ฮอนด้า ทุ่ม 600 ล้าน เปิดศูนย์ Honda Safety Riding Park เชียงใหม่และภูเก็ต

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
เอ.พี. ฮอนด้า เปิดศูนย์ขับขี่ปลอดภัยแห่งใหม่ Honda Safety Riding Park ที่เชียงใหม่และภูเก็ต ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์

CNX_0002(1)111
เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยการประกาศเปิดตัวศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ Honda Safety Riding Park ที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดภูเก็ต ทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ เพียบพร้อมด้วยสนามฝึกสอนทั้งทางเรียบและทางฝุ่น รองรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้ทุกรูปแบบวางเป้าหมายช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ดีมุ่งหน้าสู่เส้นทางความปลอดภัยอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อสังคมไทย
ap12111

นายโยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เอ.พี. ฮอนด้า ตระหนักดีถึงความสำคัญของการป้องกันการเกิดอุบัติภัยทางถนน เราจึงได้ริเริ่มโครงการฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัยมาตั้งแต่ปี 2532 โดยโครงการนี้ประกอบด้วย 3 แกนหลักได้แก่ การให้ทักษะความรู้ผ่านศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย การสร้างจิตสำนึกให้เกิดการปฏิบัติจริงผ่านแคมเปญต่างๆ อาทิ แคมเปญ Zero Accident และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆเพื่อลดอุบัติเหตุ
เครื่องมือสำคัญที่สุดที่ทำให้เราก้าวขึ้นมาในด้านขับขี่ปลอดภัยของเมืองไทย ก็คือการสร้างสรรค์ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูงจนได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกให้เป็นโรงเรียนสอนขับขี่เอกชนรายแรกที่สามารถจัดสอบใบขับขี่ได้ ทั้งนี้ ในปี 2537 เอ.พี. ฮอนด้า ได้เปิดตัวศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยแห่งแรกในอาเซียนที่จังหวัดสมุทรปราการก่อนจะเปิดแห่งที่สองในปี 2552 ที่ กรุงเทพฯ ทั้งสองแห่งมีความทันสมัยสามารถรองรับหลักสูตรต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้เรายังได้ร่วมกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในพื้นที่ต่างๆ เปิดศูนย์ฝึกฯ ในรูปแบบเดียวกันนี้อีกถึง 10 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับสนับสนุนการสร้างศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอีก 12 แห่ง เพื่อให้การเผยแพร่ความรู้เป็นไปอย่างกว้างขวางและทั่วถึง
_MG_305511111
ในปัจจุบันนี้ สังคมการขับขี่ของไทยได้เปลี่ยนแปลงจากยุคของการขับขี่เพื่อสัญจร สู่ยุคของการขับขี่ในเชิงไลฟ์สไตล์ที่ผู้ขับขี่มองหาความสนุกท้าทายจากการขับขี่มากขึ้น เอ.พี. ฮอนด้า จึงได้สร้างศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda Safety Riding Park ที่จ.เชียงใหม่และภูเก็ต ด้วยเงินลงทุนกว่า 600 ล้านบาท เพื่อยกระดับให้ศูนย์ฝึกฯ ทั้งสองแห่งนี้มีความสมบูรณ์แบบที่สุดในเมืองไทยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ครบครันด้วยหลักสูตรและสนามฝึกที่รองรับทุกรูปแบบการขับขี่ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น สอนโดยครูฝึกฯที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการสอนเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้ขับขี่ควบคู่ไปกับความปลอดภัย  สถานที่ถูกออกแบบให้ทันสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันพร้อมรองรับการเป็น Community Hub ของวันนี้
เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของ เอ.พี. ฮอนด้า ในการเปิด Honda Safety Riding Park คือ ความพยายามในการลดสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนควบคู่ไปกับการสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ดี และเราจะมุ่งหน้าสู่เส้นทางความปลอดภัยอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อคนไทยทุกคน
สำหรับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda Safety Riding Park ได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์ฝึกฯ ที่มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับการฝึกสอนได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น โดย Honda Safety Riding Park จ.เชียงใหม่ตั้งอยู่ที่ ดอยสะเก็ด มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 18 ไร่ มีจุดเด่นอยู่ที่ Dirt Station ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยระยะทางรอบ Dirt Track ถึง 600 เมตร ในขณะที่ Honda Safety Riding Park จังหวัดภูเก็ตตั้งอยู่ที่ อำเภอถลาง มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 22 ไร่ มีจุดเด่นอยู่ที่สนามทางเรียบขนาดใหญ่ และทางตรงที่ยาวถึง 300 เมตรทำให้เรียนขับขี่ทางเรียบได้อย่างเต็มสมรรถนะ
MAY_7306111

ตัวอาคารของ Honda Safety Riding Park ทั้ง สองแห่งได้รับการออกแบบให้ ประหยัดพลังงานและลดการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศโดยใช้ ระบบถ่ายเทอากาศเข้ามาทดแทน ห้องฝึกอบรมติดตั้งกระจกใสขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เห็นบรรยากาศจริงของสนามขณะเรียนภาคทฤษฏีทำให้ เข้าใจการสอนได้ดียิ่งขึ้น ภายนอกอาคารถูกออกแบบให้เรียบง่ายด้วยรูปทรงเรขาคณิตโดยใช้วัสดุโลหะสื่อถึงความเป็นยานยนต์ และนวัตกรรมแห่งอนาคต
_MG_30431111
_MG_30551111
 สำหรับหลักสูตรขับขี่ปลอดภัยแบบพิเศษที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับศูนย์ Honda Safety Riding Park แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบได้แก่ Skilled Riding Course สำหรับการขับขี่ทางเรียบประกอบด้วย เรียนรู้องศาในการเข้าโค้ง (Cornering), เรียนรู้การใช้คันเร่งเบรก และเกียร์บนทางตรง (Straight Rhythm), เรียนรู้การขับขี่อย่างคล่องตัว (Gymkhana ), และสำหรับการขับขี่ทางฝุ่น (Dirt Course) ประกอบด้วยฝึกพื้นฐานให้กับเด็กอายุระหว่าง 6-13 ปี (Dirt for Kids), คอร์สเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ไม่เคยขับขี่มาก่อน (Dirt Bike Beginner), คอร์สสอนขับขี่พื้นฐาน (Dirt Bike Basic), และเรียนรู้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การขับขี่ข้ามอุปสรรคต่างๆ (Dirt Bike Experience)
[fblike]
DSC_4361111
Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img