ซูซูกิ จิมนี่ เจน4 ร่างผสมของความแข็งแกร่งกับความ “น่ารัก”
แนวโน้มตลาดเมืองไทยกับรถ4×4 แท้ๆ ได้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลัง หายไปจากตลาดนานมากเมื่อ ซูซูกิ ได้นำเสนอ “จิมนี่”(Suzuki Jimny)เป็นครั้งแรกในเมืองไทยความกระตือรือร้นของคนที่ต้องการรถน่ารักแต่ลุยได้ก็กลับมาแต่มันก็ไม่ใช่รถสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะว่า จิมนี่ไม่ใช่คาริเบียน ที่ราคา 2.7แสนแต่เป็นของเล่นสำหรับคนรักรถออฟโรด ราคาเป็นล้านในวันนี้
บรรดารถขาลุยแบบโหดๆ อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ จี คลาส จี๊ป เชโรกี เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่อยากเอื้อมแต่ก็เตะไม่ถึง และแน่นอนว่า 4×4แท้หากเราย้อนกลับไป ซูซูกิ ค่ายรถเล็กๆ จากญี่ปุ่นเคยครองใจคนใช้รถบ้านเราในรุ่น คาริเบียน รถดิบๆที่มีราคาประหยัดและยังคงเห็นความทนทาน ทรหดในฐานะออฟโรดแท้อยู่บนถนน ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2019 ที่เมืองทองธานี ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)ในฐานะตัวแทนจำหน่าย ซูซูกิ อย่างเป็นทางการได้เปิดโอกาส รถทางเลือก ให้เป็นจริงขึ้นมาด้วยการนำเข้ารถยนต์ จิมนี่
จิมนี่มันคืออะไร
จิมนี่คือรถSUV หรือรถเอนกประสงค์ขับเคลื่อน4 ล้อ ขนาดกระทัดรัดเป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าชื่อจิมนี่ของซูซูกินี้ มีอยู่ในตลาดโลกมากว่า49ปีแล้ว ซูซูกิย่อส่วนของSuvให้มีความลงตัวด้วยการ ผสมผสานระหว่างความเป็นแฟชั่น เรโทรเข้ากับความแข็งแกร่งแบบ4×4แท้ๆ
จิมนี่( Jimny) เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2513 ( ค.ศ. 1970) ซึ่งซูซูกิได้ วิจัยและพัฒนารถยนต์ประเภทออฟโรด อย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน จิมนี่ได้รับการออกแบบให้มีความแกร่ง ทันสมัย และสะท้อน ดีเอ็นเอที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของจิมนี่ดั้งเดิมไว้
จิมนี่โฉมใหม่( All New Suzuki Jimny) ซึ่งเป็นจิมนี่ รุ่นล่าสุดนี้นับเป็นเจน4( Generation 4) ของซูซูกิ จิมนี่เป็น Authentic 4WD (รถขับ4แท้ๆ) ทั้งนี้จิมนี่ เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2018 และได้ขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกกว่า 44 ประเทศและด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นผสานกับสมรรถนะ ของรถโฉมใหม่ ทำให้ในระยะเวลาอันสั้น จิมนี่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก
จิมนี่ เจน3 ราคา
ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย วางราคาไว้2 เกรด คือ
1.เกียร์ อัตโนมัติ 4สปีด 1.65ล้าน บาท
2.เกียร์ธรรมดา 5 สปีด 1.55ล้านบาท
รูปแบบ
รถคันนี้จัดว่าเป็นรถทรงกล่อง ที่มีเสนห์มากด้วยหลังคาแบนราบไม่ตามแบบใครทำให้มีกลิ่นอายของเรโทรอย่างชัดเจน แน่นอนว่ามัน คือ ดีเอ็นเอของจิมนี่ครั้งอดีต ในขณะที่โครงสร้างยังคงใช้โครงสร้างแบบดั้งเดิม (แชชซีส์)เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งงานลุย เฟลมเหล็กที่ขึ้นโครงของรถทำมาเพื่อรองรับงานลุยโดยเฉพาะ ดีไซน์ภายนอกมีความโดดเด่นสะดุดตา ด้วยกระจังหน้าเข้ากับฝากระโปรงหน้าทรงเหลี่ยม สไตล์ออฟโรด เรานึกถึง เมอร์เซเดส- จีคลาส ผสมผสานกับ จี๊ปรุ่นRenegade ที่โด่งดังในอเมริกาเมื่อปี2014
จี๊ป Renegade
เพราะลักษณะ ไฟหน้าทรงกลมกำเนิดแสงด้วยหลอดLED ซุ้มล้อมีการ์ดกันกระแทกสีดำรอบคัน กันชนหน้าเป็นพลาสติกสีดำเตรียมไว้สำหรับรองรับงานเอาท์ดอร์ที่เปื้อนเปอะเลอะเทอะ กระจกมองข้างดีไซน์เป็นเอกลักษณ์สามารถปรับพับอัตโนมัติภายนอกนั้นมีความเป็นออฟโรดครบ การให้สีของซูซูกิมีทางเลือกคือ สีทูโทน ที่เหมือนทอปปิ้งหรือทาสีหลังคา แตกต่างไปจากตัวถัง
เทียบกับจิมนี่ ปี2017(Sierra/XC) เห็นได้ชัดว่ามีความต่างกันเห็นได้ชัด จิมนี่ ใหม่กลับมาเก็บเส้นชาย กันชนหน้า กันชนหลัง โป่งออกมาลงตัวกว่า ตัวปี17 ในขณะที่กระจังหน้าเปลี่ยนไปจากแนวนอนเป็นแนวตั้ง ความโค้งมนของเส้นสายถูกเก็บออกหมด แม้จะใช้เส้นตรงส่วนใหญ่แต่กลับรู้สึกว่าจิมมี่ใหม่ทันสมัยมากขึ้น
อุปกรณ์และภายใน
การออกแบบภายใน จิมนี่จัดให้ทุกอย่างเป็นเส้นตรงแต่ทว่าดูแข็งแรงแม้ว่าใช้วัสดุระดับที่เห็นดูยังไม่น่าจะเรียกว่าพรีเมี่ยมแบบ ราคา ซูซูกิบอกว่าแม้จะไม่คมชัดแบบราคาแต่คุณภาพสูงและทนทานนั้นมีแน่นอนทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกว่ารถแนวนี้ ของที่ให้มาจะต้องเรียบง่ายไม่มีซอกซอนเยอะทำความสะอาดได้ง่ายด้วย
จิมนี่แฝงความทันสมัยไว้ครับรถใหญ่มีอย่างไรจิมมี่ก็มีให้ยกตัวอย่างจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Segment Display แสดงข้อมูลชัดเจน พร้อม Suzuki Smart Connect ที่เชื่อมต่อแบบไร้สายกับโลกดิจิตอล พร้อมระบบนำทางอัจฉริยะ รองรับ Apple CarPlay มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแสดงฟังก์ชันการทำงานบนจอ LCD ห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความรู้สึกสะดวกสบายทุกการเดินทาง
เบาะนั่งปรับได้อเนกประสงค์รองรับการใช้งานได้หลากหลายพื้นที่เก็บของด้านหลังกว้างและสูงขึ้น พร้อมช่องเก็บอุปกรณ์และสัมภาระขนาดใหญ่ ช่องเก็บเครื่องมือและช่องเก็บของอเนกประสงค์ และช่องจ่ายไฟสำรอง 2 จุดทั้งคอนโซลหน้าด้านล่างและห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง
เครื่องยนต์K15ฺฺB :ที่คุ้นเคย
รถยนต์ All New Suzuki Jimny มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ K15B ขนาด 1462cc แบบ4สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงม้า 102 แรงม้าที่ 6000 rpmและให้แรงบิดที่ 130Nm/4000rpm
ระบบขับเคลื่อนหลัก มี2แบบ ให้เลือกคือ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Controlและยังขับขี่คล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยว 4.9 เมตร
เครื่องK15B มีใช้ในเออร์ติก้าใหม่ เรียกว่าโครงสร้างไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากเครื่องที่คุ้นเคย ในเออร์ติก้าจะ ให้ แรงม่้ามากกว่าในจิมนี่เล็กน้อย เพราะของเออร์ติก้าให้แรงม้า 105ที่6000rpm แรงบิดที่138/4000rpm
คิดไม่ออกลองต้องเอารถที่คุ้นเคยเทียบนั่นคือสวิฟท์ใหม่ K12M ที่วางอยู่ในสวิฟท์ใหม่ เป็นเครืื่อง 1.2 ลิตร หัวฉัดคู่ ล้ำสมัย สวิฟท์ให้แรงม้า 82 แรงม้าที่6000รอบ แรงบิดที่108/4400rpm เทียบสัดส่วนเอาว่างานนี้วิ่งหรือไม่วิ่ง แต่เครื่องยนต์สำหรับงานออฟโรดก็แน่นอนว่า ทรงเครื่องต้องใหญ่เพื่อเฟ้นหาแรงบิดในการปีน ไต่และก็ต้องการความถึกอึด เสียดายจิมนี่ไม่มีเทอร์โบมาให้เลือก ซึ่งรถราคาขนาดนี้น่าจะได้เครื่องเทอร์โบแจ่มๆ ส่วนน้ำหนักตัวรถ เกียร์ธรรมดา 1080กก.เกียร์อัตโนมัติ 1090 กก. ระดับนี้ถือว่าน้ำหนักไม่มาก
ช่วงล่าง :ลุยแท้
กันสะเทือนหน้าและหลังของจิมนี่ เหมือนกันคือ เป็นแบบ “คานแข็ง 3ลิงค์” พร้อมคอยด์สปริงนี่คือโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งวัสดุน้อยชิ้น ลักษณะของรถคานแข็งจะมีความโหดหิน และทำให้พวงมาลัยยังต้องใช้แบบลูกปืนหมุนวน ซึ่งงานแบบนี้เราเห็นได้ในเชโรกี ตัวเก่าๆ ซึ่งหมายความว่า”มันใช้ระบบพื้นฐานที่มีความเก่าแก่มาก”แต่รับรองเรื่องความอึดและเหมาะกับทางขรุขระในช่าง 4L เป็นที่สุดเพราะสภาพออฟโรดจริงๆ พวงมาลัยจะสะบัดและตีคืนเป็นจังหวะ หนาบ้าง กระชากกระชั้นบ้างพวกพวงมาลัยแบบเฟืองหมุนสู้ ตัวหนอนหมุนวนไม่ได้เพราะเฟือง มักจะขับไม่ไหลลื่นและถ้าต้องกระทบกระทั่งขนาดนั้นมันจะตีมือแรง
ขับ4:ดั้งเดิมเน้นอึด
ระบบขับเคลื่อนของจิมนี่แน่นอนว่า ในฐานะเจ้าพ่อ มินิ ออฟโรด ต้องนำเสนอระบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบPast time ซูซูกิเรียกว่า ALLGRIP PRO และ Low Transfer Gear คือการ ปรับการทำงานระหว่างระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและ 2 ล้อได้อย่างง่ายดาย ถ้าเรานั่งลงและ มองไปที่ภายในห้องโดยสารจะเห็นเกียร์ Transfer Gearแยกก้านออกมาชัดเจน นี่คือลักษณะของรถขับ4แบบpart time ที่ยังคงให้ระบบแมนนวลควบคุมเกียร์ ซึ่งช่วงหลังรถใหม่ๆ ก็มีไม่มากที่จะทำแบบนี้ เพราะไปเล่นเกียร์ไฟฟ้ากันหมด
Transfer Gear มันเหมาะสำหรับนักขับกึ่งโปร ที่เลือกจังหวะการใช้เกียร์4×4 ได้ตามความต้องการ และนักขับที่่ต้องการความมั่นใจว่า เข้าเกียร์L ได้ไม่ติดขัดชอบที่จะควบคุมทุกอย่างให้ได้มากเพื่อความสนุกและท้าทายซึ่งนิสัยคนขับรถออฟโรดแท้ๆมันต้องมี
จิมนี่รักษาดีเอ็นเอของ ออฟโรดแท้ ส่วนรถSUVหรู ราคาแพงที่คนขับเพียงกดปุ่มเลือกโหมดการขับ 4H 4L นั้นส่วนใหญ่ระบบทำงานให้เอง ไม่ต้องมีทักษะออฟโรดขั้นเทพปล่อยให้รถมันพาไปก็เอาตัวรอดได้สะบาย
ความปลอดภัย:มาครบแต่ไม่ล้ำ
เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ระบบความปลอดภัยก็มีมาให้ครบ แต่อยู่ในพิกัดของรถออฟโรด เช่น ปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะขับบนถนนลื่นหรือทางโค้ง ESP ระบบช่วยป้องกันรถไหล พร้อมช่วยออกตัวและชะลอความเร็วขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control และ ระบบ Hill Descent Control ช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน ระบบ Traction Control System ช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีและช่วยควบคุมรถให้มีเสถียรภาพขณะขับบนถนนลื่นหรือทางโค้ง งานกล้องมองรอบตัว หรือพวกเตือนออกนอกเลนไม่ต้องมายุ่งเลยเพราะว่า งานออฟโรดหนักๆ ขืนมีมันกระแทกเสียหาย เสียเงินเปล่า
ในงานโครงสร้างตัวถังพาสซีพเซ็ปตี้ ซูซูกิเรียกว่า TECT คือการออกแบบโครงสร้างตัวรถจากเหล็กกล้า ทนทานต่อการสึกหรอเป็นพิเศษ ช่วยในการกระจายแรงในจังหวะที่เกิดการชน
ตัวเลือก:สี ทูโทน /โมโน โทน หลากอารมณ์
จิมมี่ มีสีให้เลือกทั้งหมด 7 สี แบ่งเป็น สีโมโนโทน 3 สี คือ สีขาว สีดำ สีเทา และสีเขียว
สี ทูโทน อีก 4 สี คือ Solid Kinetic Yellow with Pearl Bluish Black สี Metallic Brisk Blue with Pearl Bluish Black และ สี Metallic Chiffon Ivory with Pearl Bluish Black อารมณ์ของสีที่เลือกมาจะเห็นว่า ซูซูกิเล่นกับอารมณ์จะรักแบบดุๆ ก็ใช้โมโนโทน สีทึบๆไป หากจะเน้นเรโทรและสนุก สีทูโทนก็ชัดเจน ทั้งนี้ทั้งนั้น รถทรงนี้สีอะไรก็สวย เพราะจะสะท้อนความเป็นไปในแบบ ที่เราต้องการเป็นได้ชัด
การตลาด: ยอดจองระเบิด หมดโควต้าในพริบตา
ว่าไปแล้วซูซูกิ ไม่เคยขายรถเกินล้านบาท หากเป็นอดีตไม่มีทางที่ซูซูกิจะนำรถแบบนี้มาขาย ขนาดวีทาร่ายังหืดขึ้นคอแต่วันนี้ ตลาดโลกหักมาเล่น เอสยูวีกันมากรถเอสยูวีกำลังจะมาเป็นแกนหลักในทุกทวีป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือซูซูกิ กระโดดเข้าไปเล่นพรีเมี่ยม เอสยูวีได้ไง
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายซูซูกิ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย กล่าวว่า ซูซูกิ ภาคภูมิใจ ถือเป็นช่วงเวลาอันสำคัญ ที่ได้สร้างประวัติการให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการสรรค์สร้างยานยนต์ การที่แนะนำ รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อขนานแท้ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อมาปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการเดินทาง ท่องไปสู่โลกอันกว้างใหญ่ นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จิมมี่ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่ชื่นชอบรถยนต์ประเภทขับเคลื่อน 4 ล้อ และการใช้ชีวิตสไตล์ออฟโรด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์สไตล์ออฟโรดของซูซูกิ และลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดกับ All New Suzuki Jimny ทั้งนี้บริษัทมีโควต้าล็อตแรกเพียง 30 คัน (Update ยอดจองครึ่งทาง ในงานBims2019มากว่า 80 คัน)
ปรากฏการณ์จิมนี่ ถือว่าน่าสนใจ ที่ยอดจองระดับ 80คันกับแบรนด์ ซูซูกิ ราคาล้านแก่ๆ ไม่ธรรมดาแน่ระยะยาวต้องจับตาดูกันต่อไปว่า จิมมี่จะยืนระยะได้ต่อเดือนเท่าไรและจากไปได้แรงมีโอกาส 3-4ปีที่จะเห็นจิมนี่ ทำซีเคดี(ประกอบรถยนต์ในไทย) นั่นหมายถึงราคาจะลดลงอีกแน่นอนแต่จนแล้วจนรอด ซูซูกิก็ยังไม่ตัดสินใจสำหรับอนาคตของCKD
บริการหลังการขาย
บริการหลังการขาย ซูซูกิ ได้เพิ่มข้อเสนอ พิเศษในส่วนของ Jimny Premium Warranty ฟรีเป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมค่าบำรุงรักษาฟรี 150,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงเป็นระยะเวลานาน 5 ปี ในขณะที่จิมมี่สามารถใช้บริการศูนย์บริการมาตราฐานที่มีอยู่ทั่วไทย
“การให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ซูซูกิได้เตรียมความพร้อม ณ โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศ ด้วยพนักงานและช่างผู้ชำนาญงานที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรมาตรฐานของซูซูกิ พร้อมด้วยอะไหล่แท้ราคามาตรฐาน เพื่อสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านที่เป็นสมาชิกในครอบครัวซูซูกิอยู่เสมอ”นายวัลลภกล่าว
จิมนี่เหมาะกับใคร
รถคันนี้สมเหตุสมผลที่สุดหากคุณจะซื้อมันเพื่อเป็นรางวัลสำหรับชีวิต เพราะคนทั่วไป เห็นราคาแล้วคุณอาจจะไม่ชอบมันก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่ชอบมันจริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่รถที่เขาจะขายคุณเพราะว่า เมืองไทยมีโควต้าล็อคแรก 30 คัน เป็นการเรียงลำดับเลขตัวรถแบบลิมิเต็ด(Jimny Emblem Limited Serial Number ) และการเปิดของในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ มียอดจองเกินโควต้า 30 คันไปแล้วซึ่งหมายความว่า จะต้องรอการส่งมอบรถตามลำดับอีกระยะหนึ่ง
เมื่อเวลาผ่านไป
นับจากที่เราเขียนบทความนี้ เป็นเวลาไม่ถึง2 ปีที่ วงการเล่นรถถามหาจิมนี่แต่ ปัจจุบันจิมนี่ได้หมดไปจากสต็อคของ ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย นานแล้วและไม่มีแผนที่จะนำเข้ารถเกรดนี้เข้ามาจำหน่ายอีกเลย หากต้องการมี2 ทางคือสั่งตรงจากญี่ปุ่นผ่านเกรย์มาร์เก็ตซึ่งราคาจะสูงโด่ง จนน่าใจหายส่วนมือสอง ไม่ต้องถามหาหากหาเจอก็เป็นรถที่ราคาไม่ตก เรียกว่า ทั้งหมดนี้ทำให้จิมนี่ กลายเป็นแรร์ไอเทม(Rare item)ไปโดยปริยายและน่าจะเป็นแบบนี้อีกนานตราบใดที่ “ไม่มี”นโยบายทำตลาดต่อ เสียใจด้วยสำหรับคนพลาดเก็บของดี ของแท้ในช่วงเวลานั้น อนาคตรถใหม่ของจิมนี่จะเข้ามาอีกไหม”คำตอบ”คือ ถ้าซูซูกิ มีกำไรก็คงได้เห็นในตลาดแต่ที่ผ่านมาเป็นแค่การทดลองและได้ผลอย่างที่เห็นคือ ไม่ทำตลาดต่อไปนั่นเอง