All New Captiva มาเร็วไปเร็ว จากมังกรผ่านอิเหนาสู่สยามประเทศ ลาก่อน เชฟโรเลต ประเทศไทย

- Advertisement -
- Advertisement -


ซื้อคันเดียวได้4ชื่อ ยานยนต์ยุคใหม่ในโลกแห่งความเป็นจริง

Advertisements


ตลาดรถตรวจการณ์ที่มีลักษณะรถแบบSUV หรือรถเอนกประสงค์ขับเคลื่อน4ล้อขนาดคอมแพค กำลังคึกคักอีกครั้งหลังจากตลาดดังกล่าวมีแต่ผู้เล่นรายใหญ่ครอบครองตลาดอยู่ไม่กี่รายและเป็นค่ายดั้งเดิมที่แข็งแกร่ง อย่าง โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้าและนิสสัน ในขณะที่ผู้เล่นหน้าใหม่อย่างMGกำลังวางผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งแรก รวมถึงผู้เล่นขาเก๋า อย่าง เชฟโรเลตที่ฟื้นฟูรถSUV 5-7ที่นั่งของตัวเองในชื่อแคปติวา อีกครั้ง แคปติวาใหม่ ภายใต้แพทฟอร์ม เดียวกันใช้หลากหลายยี่ห้อ auto.co.th พาไปดูการเชื่อมโยงของรถเหล่านี้ก่อนเห็นตัวจริงกันในโชว์รูม

เชฟโรเลต แคปติวา2019

แคปติวา โฉมใหม่ในไทย
เชฟโรเลต ประเทศไทย ในฐานะผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ เชฟโรเล็ต จากอเมริกาเปิดขายรถยนต์SUV 5 และ7ที่นั่งใหม่ ภายใต้ชื่อ”แคปติวา”โดยมีกำหนดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันจันทร์ที่9 ก.ย.62 และนี่คือรถใหม่รุ่นสุดท้ายที่ทิ้งชื่อ เชฟโรเลตไว้ในประเทศไทยก่อนจะถอนตัวจากตลาดไปอย่าง กระทันหันและจะไม่มีแบรนด์ เชฟโรเลต ในประเทศไทยอีกต่อไป


ผลิตภัณฑ์นี้เป็นของ จีเอ็มก็จริงแต่ในรายงานเรื่องคุณภาพการผลิตจีเอ็มเผยแพร่ว่า เป็นความร่วมมือพัฒนากับSAIC Motorหนึ่งในบิ๊กโฟร์ของจีน
ในข้อมูลที่เผยแพร่ แคปติวาใหม่ พัฒนาในจีนโดย GM-SAIC Motor ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างจีเอ็มอเมริกากับกับSAIC Motor วู่หลิง แล้ว วู่หลิงติดตราอะไรมาด้วย?
ต้องบอกว่าสายสัมพันธ์ SAIC Motorมีรถอยู่ในเครือหลายแบรนด์รวมถึงแบรนด์วู่หลิง แบรนด์บาวจุ้น และแบรนด์MG

ความสัมพันธ์ระหว่าง GM กับSAIC Motorมีเนินนานแต่ไม่ค่อยปรากฏในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มากนักบทบาทส่วนใหญ่อยู่ในจีน จนกระทั่งวันนึงศักยภาพของGM ถึงขั้นวิกฤตในปี2557ภายใต้นโยบายการบริหารของ Stefan Jacoby รองประธานบริหาร ได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่โดยการยกเลิกการผลิตและจำหน่ายรถเก๋งในไทย รวมถึงออกโปรแกรมให้พนักงานลาออก ตามความสมัครใจโดยพนักงานของ GMในประเทศไทยขณะนั้นมีทั้งสิ้น 3,200 คนเพื่อลดการผลิตของจีเอ็มระยอง จาก 1.8 แสนคันต่อปีให้ลดลงตามสภาพตลาด รวมถึงปิดกิจการของศูนย์การผลิตจีเอ็ม เบกาสี(Bekasi) นอกกรุงจาการ์ตา ซึ่งมีพนักงานประมาณ 500 คน ที่รง.เบกาสีนี้เคยเป็นยุทศาสตร์สำคัญในการรุกเอเซียของ จีเอ็มมาก่อน

อดีตอยู่ที่เบกาสี

Advertisements

ในขณะนั้นจีเอ็มได้ เจรจาขายโรงงาน ทั้ง2 แห่ง คือในไทยกับเบกาสี ในช่วงที่ SAIC Motor ตะลุยไปทั่วโลกรวมถึงแผนนำรถแดนมังกรมาขยายตลาด เอเซียตะวันออกเฉียงใต้มีรายงานก่อนนี้ว่า SAIC Motor จะซื้อโรงงานที่เบกาสีเพื่อทำเป็นฐานผลิตรถยนต์แบรนด์ วู่หลิง(Wuling) แต่มีลักษณะของชุมชนในเมืองที่เติบโต ล้อมพื้นที่การเข้าออกลำบากจำกัดการขยายตัว SAIC Motor เปลี่ยนแผนมาซื้อที่ดินใหม่ปล่อยให้ โรงงานGM ที่เบกาสีเป็นหมันไป

ในช่วงที่จีเอ็มตกต่ำ ได้มีการเจรจาซื้อขายโรงงานจีเอ็มที่จังหวัดระยองเช่นกัน แต่ทาง SAIC Motor ไม่สามารถตกลงได้ดูเหมือนข่าวความพยามยามขายโรงงานของจีเอ็มไปถึงหูของSAIC ช้ากว่า นักขายซื้อที่ดินที่เจรจาซื้อขายที่สำหรับร.งในไทยไปหมดแล้ว แผนใช้โรงงานของจีเอ็ม เป็นแหล่งผลิต MG ในไทย เลยเป็นไปไม่ได้

ดังนั้นจึงเห็น SAIC Motorตั้งโรงงานตัวเองขึ้นในนิคมแห่งใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง SAICกับกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์( CP)และใช้ชื่อบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ที่ GMกับSAIC Motorมีอยู่ในจีนก็ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน รถในแพทฟอร์มเดียวกัน เพียงแค่การ เปลี่ยน”โลโก้”อันเป็นวิธีที่ค่ายจีเอ็มใช้ประจำกับโปรดักซ์ตัวเอง
แคปติวาโฉมใหม่นี้มาจากโรงงานของวู่หลิงที่อินโดนีเซียโดยการว่าจ้าง SAICวู่หลิงประกอบและ ใช้สิทธิภาษีภายใต้กรอบข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA ซึ่งข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาฟต้าทำให้สินค้า รวมถึงรถยนต์และชิ้นส่วนต้องลดอัตราภาษี นำเข้ารถยนต์จากประเทศสมาชิกอาเซียนให้เหลือร้อยละ 0 ตามข้อตกลงการค้า สินค้าของอาเซียน (ATIGA) แคปติวาโฉมใหม่ได้รับการเปิดตัวแบบพรีวิวครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 เมื่อเม.ย 2562

ในไทย จีเอ็มใช้เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร(1,451cc)เทอร์โบชาร์จให้ กำลังสูงสุด143 แรงม้าที่5500 รอบต่อนาที ลดลงจากเครื่องดั้งเดิมที่มี 152 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดนั้นเพิ่มมากขึ้นจากตัวแม่แบบ คือมี 250 นิวตันเมตรที่2400รอบต่อนาที ของเดิมคือ 230 นิวตันเมตรที่1,600 – 3,800 รอบ/นาทีขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 จังหวะรถไฮสเปคที่มีหลังคาซันรูฟ วางราคาไม่เกินล้านคือ เริ่มต้น 9.99 ล้านบาทและไล่เรียงไป รวม 3 เกรด มีหลายเหตผลที่ราคาของแคปติวาใหม่ ถูกลงจากรุ่นเกินหน้า เหตุผลหนึ่งคือ หากเกินนี้จะกระทบกับรุ่นเทรลเบรเซอร์ที่มีราคาเริ่มต้น1.14ล้านบาทนอกจากนี้ยังเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ต้องการปรับวิธีการเข้าตลาด โดยกลยุทธ์”ราคา”เป็นครั้งแรกของเชฟโรเลตที่ใช้ราคานำ

บ่าวจุ้น530

ม้ามังกรบาวจุ้น (Baojun) 530

ในประเทศจีนมีรถยนต์แบรนด์หนึ่งชื่อบาวจุ้น (Baojun) ใช้สัญลักษ์เป็นรูป”หัวม้า”ซึ่งจุ้นภาษาจีนแปลว่า “ม้า”เป็นแบรนด์รถยนต์จีนที่เป็นเจ้าของโดยบริษัท ร่วมทุนระหว่าง GM กับ SAIC Motorและ SAIC-GM-Wuling (SGW)

แคปติว่าใหม่คือรถบาวจุ้น (Baojun) คือรุ่น530 ซึ่งมีการแนะนำที่ประเทศจีนครั้งแรกเดือนมี.ค. 2561
บาวจุ้นรุ่น503 มีขนาดของตัวรถ ยาว 4,655 มม. กว้าง 1,835 มม. และสูง 1,760 มม. ถือเป็น SUV-C หรือ รถเอนกประสงค์ขนาดคอมแพค 530 นี้เปิดตัวด้วยขนาดที่ใหญ่และมีรายการอุปกรณ์ที่เยอะกว่าเป็นจุดขายขุมพลังของ503 มีให้เลือกระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2แบบคือ1.8 ลิตรและเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ

บาวจุ้น530ในประเทศจีน

วู่หลิง อัลมาซ อินโดนีเซีย
สายการผลิตCKD พวงมาลัยขวาทั้งหมดอยู่ที่อินโดนีเซีย เพราะเป็นประเทศที่มีโรงงานหลักหลังจากที่ SAIC ทำการผลิตพวงมาลัยขวาวู่หลิงที่นี่เพื่อจำหน่ายในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศพวงมาลัยขวา อื่นๆ รถบาวจุ้นในอินโดนีเซีย จึงจำหน่ายภายใต้ชื่อวู่หลิง อัลมาซ ( Wuling Almaz) ที่อินโดนีเซียพื้นที่หรือเมืองหลวงของการผลิตรถหลายที่นั่งแห่งอาเซียน รถหลายยี่ห้อใช้ฐานการผลิตแหล่งนี้ไม่ว่า โตโยต้า มาสด้า ซูซูกิ นิสสัน มิตซูบิชิ

วู่หลิง อัลมาซในอินโดนีเซียและอินเดีย

MG แฮกเตอร์ไม่มาไทย
อินเดียนั้นมีมีแพทฟอร์ม บ่าวจุ้นจำหน่ายเช่นกันแต่รีแบตใหม่เป็นยี่ห้อ MG และใช้ชื่อว่า แฮกเตอร์ โดยผลิตที่โรงงานของ SAICW อินโดนีเซียเช่นเดียวกัน
ภายใต้แบรนด์MG มีข้อตกลงระหว่างSAIC กับ GM ในแต่ของเจ้าของผลิตภณฑ์โดยหากGM ขายแพทฟอร์มนี้ไทยแล้ว MGจะไม่สามารถนำรุ่น แฮกเตอร์มาทำตลาดในไทยอีก เพื่อลดความซับซ้อนและให้โอกาสแก่GM ในการทำการตลาด

MG แฮกเตอร์แม้จะมีตลาดอื่นๆ แต่จะไม่เข้าตลาดไทย
แบรนด์รุ่นตลาด
บ่าวจุ้น503 (Baojun 530) จีน
เชฟโรเลต แคปติวา (Capriva) ไทย
วู่หลิง อัลมาซ (Almaz ) อินโดนีเซีย
MG แฮกเตอร์ (HECTOR) ไทย โอเวอร์ซี

ความร่วมมือเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกอุตสาหกรรมตะวันตกและตะวันออก การแชร์แพทฟอร์ม การรีแบทไม่ได้เป็นสิ่งใหม่แต่สิ่งที่สะท้อนให้เรารับรู้จากนี้ไปคือ “รถจีน”กำลังมาและมีอิทธิผลอย่างสูงต่อการเลือกซื้อ อย่าลืมว่าปัญหาของความเป็นสินค้าจีนในแง่ของการรับรู้ของผู้บริโภคทั้วโลกคือ คุณภาพ ความคงทน ความน่าเชื่อถือและหากนับวิธีการทำการค้าก็ต้องบอกว่าจีน”ซ่อน”อะไรไว้เบื้องหลังไว้หรือไม่เราไม่รู้รู้แค่เราไม่อาจไว้วางใจสิ่งเหล่านี้ได้100%

Advertisements
- Advertisement -

Latest news

Advertising

Related news

- Advertisement -
Exit mobile version