ส่งอุตยานยนต์รัสเซีย “อัปโตวาส”ในสถานการณ์เปลี่ยนแปลง รู้จักรถLADA “แกร่งและไม่มีวันตาย” โฉมหน้าตลาดรถหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เรื่องราวของรัสเซียกับยูเครน ยังดำเนินต่อไปไม่ว่างานนี้จะออกทางใดทางหนึ่ง มันคง”จบแต่มีเจ็บ”ทั้งสองฝ่าย ทั่วโลกจับตามองประเด็นเรื่องการแทรกแซงทางเศรษฐกิจจากนานาชาติโดยเฉพาะสมาชิกสหภาพยุโรปและอเมริกา ในฐานะที่ผลกระทบต่อโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ก็ไม่พ้น สำหรับรถยนต์แบรนด์รัสเซียในไทยไม่เคยมีบทบาทอะไรมากนัก รถรัสเซียเคยเข้ามาขายในไทยโดยผู้นำเข้าอิสระ ราวปี2530 แต่ในจำนวนไม่มากนักแล้วก็หายไปไม่มีใครพูดถึง ไม่มีใครรู้จักอีกต่อไป
สำหรับเรานั้น เคยเห็นหน้าคาดตา”รถรัสเซีย”เพียงจากประสบการณ์ในฐานะ สื่อที่เดินทางไปต่างประเทศ เช่นใน ลาวก็พอมีรถรัสเซียเก่าๆ วิ่งอยู่บ้างหรือในมองโกเลีย และอีกหลายๆพื้นที่รวมถึงยูเครน วันนี้เลยค้นหาเพื่อรู้จักรถรัสเซียมากยิ่งขึ้น
“รถรัสเซีย เพื่อคนรัสเซีย“
พูดูถึงรถรัสเซีย บริษัทสำคัญคือ อัปโตวาส( AvtoVAZ )ผู้ผลิตรถยนต์หลายยี่ห้อแต่ยี่ห้อดังคือ “ลาด้า”(LADA)ซึ่งเป็นหมายเลข1 ตลอดกาลในตลาดรัสเซียแม้หลังนโยบายปฎิรูปเปเรสตรอยคา ที่เปิดโอกาสให้แบรนด์รถจากยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีเข้ามาลงทุนก็ตาม อดีตที่ผ่านมาปริมาณความต้องการรถของชาวรัสเซียถือว่ามีขนาดตลาดใหญ่สุด เมื่อเทียบกับประเทศในยุโรป ต่อมาเยอรมัน เติบโตขึ้นมากทำให้ เยอรมันมีขนาดตลาดใหญ่สุดแทนรัสเซียจากนโยบายขยายการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศทำให้มีการ ลงทุนของบริษัทต่างชาติในรัสเซียจึงเกิดคู่แข่งมากขึ้น เช่น เกีย ฮุนได และ เรโนลต์ ตลาดยุคใหม่ของรัสเซียทำให้รถแบรนด์รัสเซียเองต้องเสียส่วนแบ่งตลาดแก่รถยนต์เกาหลีใต้ คือ เกียและฮุนได เนื่องจากรถเหล่านี้ มีรูปแบบที่สวยงามมีสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่ แถมราคายังประหยัดแบบลาด้าอีกด้วย
“ลาด้า”ที่ฆ่าไม่ตาย
ลาด้าก่อได้ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1973 ซึ่งในขณะนั้นสหภาพโซเวียต ยังคงปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมแบบคอมมิวนิสต์ ลาด้าเน้นทำรถราคาที่ถูก ออฟชั่นต่างๆ มีเฉพาะอุปกรณ์จำเป็นเท่านั้นเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายเนื่องจากสหภาพโซเวียต มีพื้นที่ใหญ่และกว้างขวาง มีประชากร อาศัยอยู่เป็นจานวนมากแต่ด้วยสภาพภูมิอากาศใน ประเทศที่มีความหลากหลาย จึงทำให้กระบวนการผลิตรถยนต์และวัตถุดิบตัวรถยนต์ของลาด้าเน้นความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ นับจากก่อตั้งมา”ลาด้า”กลายเป็นแบรนด์ยอดนิยมของรัสเซียในเวลาอันสั้น และยาวมาถึงปัจจุบันลาด้าก็มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดหลายคนบอกว่า “ลาด้า”เป็นรถที่ฆ่าไม่ตาย
จุดลงตัวรถของสังคมนิยม
เป็นที่ทราบกันดีว่ารถยนต์ลาด้าก่อตั้งในสมัยสหภาพโซเวียตตั้งแต่ ค.ศ.1970 ทำให้ผู้คนชาวรัสเซียมีความผูกพัน กับแบรนด์นี้ ชาวรัสเซียมีความคุ้นชินลาด้ากลายเป็นตัวเลือกแรกสาหรับ ผู้บริโภคที่ต้องการคุณสมบัติรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์ราคาประหยัด ชาวรัสเซียมีความชาตินิยมสูงตั้งแต่สมัยเริ่มอาณาจักร ประกอบกับชาวรัสเซียยังไม่ร่ำรวยมาก ยังต้องประหยัดค่าใช้จ่าย การเลือกรถยนต์ลาด้า จึงมีปัจจัยจากความเชื่อมั่นในความสามารถการผลิตของชาติตน
ไม่ใช่เพียงอุดหนุนรถยนต์ของชาติตนเองแต่ลาด้าสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านสมรรถนะการขับขี่ที่เหมาะสมกับการขับขี่ในรัสเซียมากที่สุด กล่าวคือลาด้าถูกออกแบบโดยคนรัสเซีย เพื่อใช้ในรัสเซียปัจจุบันลาด้ายังคงถูกใช้ในหน่วยงานราชการ ทั้งตำรวจทหารและหน่วยอื่นๆ
ลาด้าล้าสมัยแต่ขายได้
ในยุคเสรีนิยมแบบทุนนิยมในปัจจุบัน ลาด้าเป็นบริษัทของรัฐบาลที่มีเอกชนร่วมถือหุ้น ต่างจากยุคสหภาพโซเวียตที่มีการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์เศรษฐกิจและการตลาดของโซเวียต ขณะนั้นผูกขาดกับรัฐบาลระหว่าง 1966 – 1970 ลาด้าเหมือนผูกขาดตลาดรถยนต์ของโซเวียตและลาด้าก็ไม่จำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยี สังเกตได้ว่าตลาดรถยนต์ของโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมามีเพียงรถยนต์ของบริษัทรถยนต์โซเวียตเท่านั้น ที่ทำตลาด ต่อมารถยนต์ลาด้าได้รับอิทธิพลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีของรัฐบาลและเริ่มพัฒนารถใหม่ออกมาสู่ตลาด
ปัจจุบัน ลาด้ายังมีชื่อเสียงมากในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ประเทศในแถบเมริกาใต้และประเทศในทวีปแอฟริกาซึ่งเคยเป็นอดีตสังคมนิยมเรายังสามารถพบเห็นรถลาด้าใช้งานอยู่ทั่วไป
ในยุโรปตะวันตก ลาด้าสร้างชื่อในช่วงทศวรรษที่ 1970 จากการผสมผสานรถยนต์ของรถ รุ่น VAZ-2101 กับรถเฟียต124( Fiat 124) ซึ่งเปิดขายในราคาประหยัด อัปโตวาส มีการปรับปรุงรูปโฉมรถให้ทันสมัยมากขึ้น เช่นรถรุ่นนีว่า ที่เดิมเป็นการร่วมมือกันกับจีเอ็มแต่หลังจากที่ บริษัทอัปโตวาสซื้อหุ้นคืนจากจีเอ็มทำให้จีเอ็มต้องระงับการขายไป ส่วนอัปโตวาส ก็หันไปผูกสัมพันธ์กับ เรโนลต์ ทำให้มีการนำเสนอ นีว่าโฉมใหม่สู่ตลาดรัสเซีย
ตลาดรถยนต์รัสเซียมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากช่องทางการเพิ่มขึ้นของรายได้ประชากรภายในประเทศส่งเสริมให้ประชาชน ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภครัสเซียมีกาลังในการซื้อสินค้ามากขึ้น และความต้องการในการ ครอบครองรถยนต์สูงขึ้นเนื่องจากสัดส่วนในการครอบครองรถยนต์ของชาวรัสเซียยังต่ำเมื่อเทียบกับยุโรป ปัจจุบัน ลาด้ายังคงได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในรัสเซีย ยุโรป และแอฟริกา มีโชว์รูมอย่างเป็นทางการในกว่า 24 ประเทศทั่วโลก
รถรุ่นสำคัญของลาด้า
ลาด้าเอ็กซเรย์ (XRAY)22 เป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กออกแบบโดยทีมงานของ สตีฟ มาร์ติน ลาด้าเอ็กซเรย์ วางจำหน่ายช่วงต้นปี ค.ศ. 2016
ลาด้า 4×4 (LADA 4×4 )
ลาด้าแบ่งรถตามรูปแบบตัวถังคือ รุ่น 4×4แบบ 3 ประตู รุ่น 4×4 urban รุ่น 4×4 แบบ5 ประตู 4×4 bronto, ลาด้า4×4 เป็นออฟโรดที่ผลิตเพื่อการใช้งานในชนบท เริ่มผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 โครงสร้างเป็ฯแบบ unibody ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ พร้อมสปริง และเป็นรุ่นต้นแบบสำหรับการ ผลิตรถ SUV และครอสโอเวอร์ในยุคปัจจุบัน
ลาด้า เวสต้า(LADA Vesta)
เวสต้า เป็นรถซีดานแบบกระทัดรัดออกแบบโดยสตีฟ มาร์ติน ภายในไม่กี่วันหลังจากที่ ลาด้าเวสต้า เปิดจำหน่ายในพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 ก็กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในตลาดรัสเซีย ลาด้าเวสต้าถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มลาด้า B โดยใช้ส่วนประกอบจากเรโนลต์ มีแกน (Renault Megane)รุ่นที่สำคัญคือเวสต้า 4 ประตูซีดาน,เวสต้าsw,เวสต้าswครอส, เวสต้า cng, ลาด้าเวสต้า21
ลาด้า พรีโอรา (LADA Priora )
ลาด้าพรีโอรา20 เป็นรถขนาดเล็กเริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อมีนาคม ค.ศ. 2007 และได้รับการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยจนถึงปัจจุบันยอดขายของลาด้า พรีโอรา ไม่เป็นที่น่าพอใจนักจึงได้ยกเลิกการส่งออกในปี ค.ศ. 2012 แต่ยังมีการจำหน่ายเฉพาะในรัสเซียเท่านั้น
ลาด้า คาลินา(LADA Kalina)
รุ่นคาลินา (Kalina) เป็นรถซูเปอร์มินิออกวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 นอกจากนี้ยังมีการทำการตลาดในชื่อ ลาด้า 117 / 119 ในประเทศฟินแลนด์ โครงสร้างของคาลินา เป็นเหล็กชุบสังกะสีด้วยความร้อนมีความแข็งแกร่ง ทนการกัดกร่อนจากสภาพอากาศอันโหดร้ายของรัสเซียซึ่งเป็นเทคโนโลยีของผู้ผลิตเหล็กรัสเซีย
ลาด้า แกรนต้า(Granta)
ราคาเริ่มต้น 359,900 รูเบิล แบ่งเป็นแกรนต้า (Granta) sedan, แกรนต้า liftback, แกรนต้า sport versions ลาด้าแกรนต้า18 เป็นรถ subcompact ที่พัฒนาโดย บริษัทอัป โตวาสของรัสเซียโดยร่วมมือกับเรโนลโดยใช้แพลตฟอร์มของ ลาด้าคาลิน่า การขายในรัสเซียเริ่มขึ้นใน วันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2011 ผลิตที่โรงงานอีเซวิค (Izhevsk) หลังจากที่ VAZ-2107 รุ่นเก่าถูกถอด ออกจากการผลิตในแพลตฟอร์ม 4 ประตู เมื่อแกรนต้าเข้าสู่ตลาดผลปรากฏว่าได้การตอบรับจาก ประชาชนที่ต้องการความกะทัดรัดคล่องแคล่วจากรถยนต์ขนาดกลาง จนทาให้ลาด้าแกรนต้า เป็นรถ ที่ขายดีที่สุดในรัสเซียตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 – 2015 ลาด้าแกรนต้า ถือเป็นการเปลี่ยนแปลการออกแบบจากรถคลาส B คลาส C และคลาส A เพื่อปรับให้ตรงตามความต้องการของหนุ่มชาวรัสเซียและครอบครัวชาวรัสเซียขนาดเล็กที่ต้องการรถซุปเปอร์มินิซีดานซึ่งกาลังเป็นที่ได้รับความนิยมในรัสเซียมากขึ้นหลังจากปี ค.ศ. 2010
VAZ-2121
ในปี ค.ศ. 1974 อัปโตวาสได้รับอนุญาตให้ผลิตเครื่องยนต์แวงเกิล (Wankel) ภายใต้การอนุญาตจาก NSU เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1976 หลังจากสร้างโมเดลและรถยนต์ตัวอย่างทดลองสาเร็จนักออกแบบของอัปโตวาส ได้เปิดตัวรถคันแรกที่ออกแบบโดยทีมงานของอัปโตวาสทั้งหมด ซึ่งเป็นรุ่น VAZ-2121 นีวา(Niva)17 หรือเป็นที่รู้จักในนาม”ลาด้านีวา” ในปี ค.ศ. 1977 ซึ่งเป็นรถยนต์ยกสูงขับเคลื่อน4ล้อ รูปแบบ SUV ได้ออกสู่สายตาประชาชนบนท้องถนน ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.7 ลิตร ให้กำลัง 80 แรงม้า ใช้ช่วงแบบล่างอิสระเกียร์ธรรมดาแบบขับเคลื่อน4ล้อที่ทนทานช่วยในการขับเคลื่อนบนทางลาดชัน และรถถูกทดสอบบนภูมิประเทศที่หฤโหด ทั้งเทือกเขาอูราล ทะเลทรายคาซัค ลาด้านีวา ถูกนำไปใช้เป็นรถประจำการในกองทัพโซเวียต
ยูเอซี(UAZ)แบรนด์มรดกทางการทหาร
รัสเซีย ยังมีรถอีกยี่ห้อหนึ่งที่เห็นได้มากมายในถนน นั่นคือ รถยนต์จาก อุลยานอฟสค์ (Ulyanovsk) ผู้ผลิตรถ SUV UAZ ในตำนานของรัสเซีย UAZ เน้นการผลิตยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กLCV และ MPV แต่ที่โดดเด่นคือ UAZเป็นซัพพลายเออร์ที่ทำรถเพื่อการทหาร UAZ มีการผลิตรถยนต์มากกว่า 4.6 ล้านคันตั้งแต่ปี 1941และในปี 2559 UAZ มีส่วนแบ่งตลาดในรัสเซียสูงถึง 24%
อุลยานอฟสค์ก่อตั้งขึ้นในปี 1941 โดยเป็นผลโดยตรงจากการรุกรานสหภาพโซเวียตของ เยอรมนีที่เข้าถึงเมืองนี้ด้วยรถยนต์ได้อย่างรวดเร็วรัฐบาลของโจเซฟ สตาลินจึง
สั่งให้อพยพศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ไปทางตะวันออก และการตัดสินใจย้ายโรงงานZIS ผู้ผลิตยานยนต์มอสโกไปยังเมืองโวลก้าของอุลยานอฟสค์ สำหรับอุลยารอฟสค์
เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม ที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว และมีแรงงานที่มีทักษะ โรงงานดังกล่าวถือเป็นบริษัทย่อยของ ZIS ภายในปี 1942 โรงงานเริ่มผลิตกระสุนปืนใหญ่และรถยนต์ ซึ่งรถยนต์คันแรกที่ผลิตในโรงงานคือรถบรรทุกสามตัน UAZ เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในกลุ่มตะวันออกและทั่วโลก ในการผลิตรถเอนกประสงค์ รุ่น UAZ-469ซึ่งเป็นยานพาหนะทางทหาร
สำหรับรถรุ่นสำคัญของ อุลยานอฟสค์ ได้แก่
รถเอสยูวี
UAZ แพทริออต (UAZ-3163)
UAZ Hunter – UAZ-469B .
UAZ Pickup – รุ่น Pick-Up ของ UAZ Patriot
รถมินิบัส
UAZ-2206
UAZ-39625
ปัจจุบัน อุลยานอฟสค์ (Ulyanovsk) มีตัวแทนจำหน่าย UAZ ในหลายประเทศแต่สำหรับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ลูกค้าสามารถซื้อรถได้จาก ตัวแทนใน ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา เมียนม่า และเวียนนาม ส่วนในไทยไม่มีตัวแทนจำหน่าย
หยุดเวลาไว้ที่เครมลิน
ต้องบอกว่ารถรัสเซียพัฒนามาเป็นยุคๆ แต่เน้นไปที่รสนิยมของตลาดในประเทศรูปแบบรถยนต์เลยดูเหมือนกับ”หยุดเวลา”และรัสเซียก็ไม่ได้ไปต่อในตลาดโลกเหมือนอุตสาหกรรมของตะวันตก หรือแบบจีน ครั้งหนึ่ง รัสเซีย เคยเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่สุดในยุโรปซึ่งวันนี้ผลกระทบจากสงครามในปัจจุบันยิ่งทำให้ตลาดรถรัสเซีย มีข้อจำกัด รถอย่าง คับแคบลงไป
ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป เช่นเรโรลต์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ AvtoVAZ ซึ่งทำการผลิตรถ ลาด้า ,โฟล์คสวาเก้น ผู้ผลิตเอาดี้ ,สโกด้า
และปอร์เช่ ต่างเจอปัญหา การแซงชั่นรัสเซีย และการขาดชิ้นส่วนที่สำคัญจากซัพพลายมาจาก ซัพพลายเออร์ในยูเครน กิจกรรมทางธุรกิจในรัสเซียได้หยุดตัวลงและก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวาง โตโยต้า ได้ระงับธุรกิจในรัสเซียบางโรงงานปิดอย่างไม่มีกำหนด ทวีสเตอร์ของฟอร์ด เมื่อต้นเดือนมีนาคม2565 ระบุว่า ฟอร์ด มีความกังวลอย่างมากเกี่ยว กับการรุกรานของยูเครนโดยรัสเซียและความปลอดภัยของชาวยูเครน ฟอร์ดจะระงับการดำเนินงาน ในรัสเซียโดยมีผลทันที เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฮุนได และBMW ต่างก็ปิดโรงงานในรัสเซียเช่นเดียวกัน และจากนี้ไป หากภูมิศาสตร์การเมือง เปลี่ยนแปลงไปหลังสงคราม จะมีผลอย่างไรต่ออุตสาหกรรมรถยนต์เหล่านี้ในอนาคตด้วย