เปิดราคาแร็พเตอร์ 1.7ล้าน

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

ฟอร์ดประกาศราคาเรนเจอร์ แร็พเตอร์ อย่างเป็นทางการ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 (27 มี.ค.61)รอบสื่อมวลชน
ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศราคา เรนเจอร์ แร็พเตอร์  กระบะออฟโรด ที่ 1,699,000 บาท พร้อมเปิดจองที่งานมอเตอร์โชว์และโชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้รับความสนใจจากลูกค้าในฐานะกระบะสายพันธ์ใหม่ที่มีสมรรถสูง เป็นแนวคิดที่แตกต่าง สเปครถ  เรนเจอร์ แร็พเตอร์  ให้สเปคที่สูงมากเช่น เครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด  โช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ ระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสเปคที่ใช้ในรถแข่งขันออฟโรด
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงจากโรงงานคันแรกและคันเดียวของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ได้ถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกภายในงานมอเตอร์โชว์ 2018 (BIMS18)
เรนเจอร์ แร็พเตอร์  มีสีภายนอกให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีพิเศษเฉพาะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ อย่างสีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey)
นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ฟอร์ดรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ต่อยอดความสำเร็จของรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค ด้วยสุดยอดรถกระบะเปี่ยมสมรรถนะอย่าง ‘เรนเจอร์ แร็พเตอร์’ ซึ่งได้ผสานเอกลักษณ์ ‘เกิดมาแกร่ง’ ของฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะยอดนิยม เข้ากับดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะออฟโรด”
“เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถือเป็นที่สุดของฟอร์ด เรนเจอร์ ที่จะมาปฏิวัติและยกระดับตลาดรถกระบะให้กับบรรดาผู้ที่หลงใหลในรถกระบะอีกครั้ง” นางสาวยุคนธร กล่าว

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่นระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ โหมดบาฮาที่ รองรับ การขับขี่ออฟโรด
การออกแบบภายนอกและภายในของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ช่วยสะท้อนประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรด การเลือกใช้สีสันที่ผสานกันอย่างลงตัว มิติต่างๆ ของรถที่เพิ่มขึ้น  ช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้น รวมถึงการเลือกสรรวัสดุที่คงทนและเหมาะสมสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
มีโลโก้ฟอร์ดสะดุดตา แบบตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์ที่จัดวางอยู่บนกระจังหน้า
ระบบควบคุมรถและเปลี่ยนเกียร์ ด้วยพวงมาลัยแบบพิเศษ ซึ่งมาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ซึ่งผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่างอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทกเมื่อมีการขับขี่แบบออฟโรด แผงกันกระแทกนี้ผลิตจากเหล็กกล้า (High-strength steel) ที่มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance)
นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีอันชาญฉลาดและคุณสมบัติอันโดดเด่นอื่นๆ ได้แก่
กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation)
ระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 3 (SYNC 3) บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธและ Wi-Fi
ระบบแผนที่นำทางแบบสามมิติ (Navigation System)
กุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ HID
ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
ไฟตัดหมอกแบบ LED
บันไดข้างรถผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอย
ชุดกันชนด้านหน้าที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง
ล้อขนาด 17 นิ้ว และยาง All-Terrain BF Goodrich KO2 285/70 R17

Advertisements
Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img