เอเอทีเดินสายพานผลิต มาสด้า3สกายแอคทีพ

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

มาสด้าฉลองเปิดสายการผลิตมาสด้า3 ใหม่ รถยนต์นั่งสกายแอคทีฟรุ่นแรกในไทย จังหวัดระยอง เมื่อ 14 มีนาคม 2557  ที่ผ่านมา  มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเปิดสายการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า3 ใหม่ (ในญี่ปุ่นใช้ชื่อว่า มาสด้า เอ็กซ์เซล่า) ที่โรงงานผลิตรถยนต์นั่งของ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AAT โดยรถยนต์นั่งมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ถูกออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ จะทำการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ที่สำคัญ เป็นครั้งแรกที่โรงงานแห่งนี้ได้ทำการผลิตรถยนต์ภายใต้ สกายแอคทีฟ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและได้รับการกล่าวขานถึงมากมายมาแล้วทั่วโลก และเป็นรถยนต์รุ่นที่สองถัดจากมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เตรียมเปิดตัวสู่สาธารณะชนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ มาสด้าและโรงงานเอเอทีได้จัดพิธีเฉลิมฉลองการเปิดสายการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า3 ใหม่ ที่โรงงานผลิตรถยนต์นั่งมาสด้าและปิกอัพ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากสำนักงานใหญ่ของมาสด้าในญี่ปุ่น รวมทั้ง นายมาซามิชิ โคไก ประธานและซีอีโอ นายทาคาฮิสะ โซริ ผู้อำนวยการและผู้บริหารระดับสูง นายคิโยทากะ โชบุดะ ผู้อำนวยการและผู้บริหารระดับสูง และ นายฮิโรชิ อิโนอุเอะ ผู้อำนวยการ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานเพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการ ซึ่งรถยนต์นั่งมาสด้า3 ใหม่ ปัจจุบันเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ทำการผลิตในโรงงานแห่งนี้ จะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักสำคัญของมาสด้าในประเทศไทย โดยวางเป้าหมายยอดขายในภูมิภาคอาเซียนไว้ประมาณ 15,000 คันต่อปี นายมาซามิชิ โคไก ประธานและซีอีโอ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รถยนต์นั่งมาสด้า3 ใหม่ ที่ผลิตที่โรงงานเอเอทีนี้ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญที่สุดของมาสด้า ถูกผลิตออกจำหน่ายทั่วโลกคิดเป็น 1 ใน 3 ของยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าทั่วโลก ในช่วงเริ่มต้นเราทำงานกันอย่างหนักมาก เพื่อที่จะทำให้เกิดการผลิตขึ้นในประเทศไทย ที่โรงงาน AAT แห่งนี้ และในที่สุดพวกเราก็ทำสำเร็จ ได้มาอยู่ตรงนี้ สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้ว มีความภาคภูมิใจอย่างมากและมีความสุขที่มาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมาสด้าเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงการที่เคยทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ AAT ด้วย อีกหนึ่งเหตุผล ที่วันนี้ผมมาอยู่ ณ ที่นี่ คือ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญมากที่สุดในโลกของมาสด้า ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโรงงานผลิตหลักของมาสด้าด้วย และโรงงานแห่งนี้ยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญที่สุดของเราที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาเซียน “นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรก รถยนต์มาสด้า3 ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมายมาแล้วทั่วโลก รวมทั้งเป็นหนึ่งในรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นเพียงเจ้าเดียวที่สามารถเข้ารอบสุดท้ายของรางวัล World Car of The Year 2014 ในปีนี้ ซึ่งรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 เคยประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อปี 2008 ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ดึงดูดใจผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ดีไซน์ที่สวยงาม สมรรถนะการขับขี่แบบรถสปอร์ต และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อมั่นว่ามาสด้า3 ใหม่ จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย อีกทั้งเป็นกำลังขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับธุรกิจในอนา
คตของมาสด้าในภูมิภาคนี้เช่นกัน” นาย โคไก กล่าวเสริม นายเคนเน็ท แคลร์ มิเนียลลี่ ประธาน บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์ หรือ เอเอที ทำการผลิตรถยนต์นั่งและรถเพื่อการพาณิชย์รวมทั้งหมด 6 รุ่น มีศักยภาพกำลังผลิตรถยนต์สำเร็จรูปสูงถึง 240,000 คันต่อปี ด้วยงบประมาณการลงทุนสูงถึง 56,300 ล้านบาท เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย และยังส่งออกไปอีกกว่า 130 ประเทศทั่วโลก การเปิดสายการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า3 ใหม่ ในวันนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากมาสด้า3 ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด นั่นคือสกายแอคทีฟ เทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของเราที่จะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ของโลก นับตั้งแต่มาสด้า3 เจนเนอเรชั่นแรกเปิดตัวในปี 2546 ในยุคแผนดำเนินธุรกิจมิลเลนเนียมของมาสด้า ตามด้วยเจนเนอเรชั่นที่สอง รถมาสด้า3 ได้รับการยอมรับอย่างสูงว่าเป็นรถยนต์ญี่ปุ่นที่ออกแบบรถได้โดดเด่น สวยสปอร์ต และให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม เป็นรถยนต์ที่สามารถขับขี่ได้อย่างสนุกเพลิดเพลิน โดยเฉพาะคุณภาพและความประณีตของการเลือกใช้วัสดุที่มีความพิถีพิถัน ให้ความปลอดภัยสูงระดับโลก เป็นรถที่ให้คุณค่าและความพอใจได้เหนือกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง มาสด้า3 ได้รับการยอมรับอย่างสูงในตลาดกว่า 120 ประเทศทั่วโลก มียอดจำหน่ายสูงถึง 4 ล้านคัน โดยยอดจำหน่ายรถมาสด้า3 คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของยอดขายรถยนต์มาสด้าทั่วโลก นับว่าเป็นรถธงที่มีความสำคัญยิ่งต่อธุรกิจของมาสด้า รถยนต์นั่งมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด เป็นผู้สร้างมาตรฐานใหม่ในรถขนาด C-segment ด้วยการใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ที่ให้ทั้งในเรื่องสมรรถนะขับขี่ การประหยัดน้ำมัน และปรัชญาการผลิตในอุดมคติ รวมถึงการใช้แนวทางและภาษาศิลปะในออกแบบใหม่ ภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ที่ถ่ายทอดความสวยงามของพลังผ่านรูปทรงของรถ สมบูรณ์แบบด้วย i-ACTIVSENSE ความปลอดภัยระดับโลกที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้ามาใช้เป็นครั้งแรก และหลัก Human-Machine Interface (HMI) ที่บรรลุถึงการทำงานของมนุษย์และอุปกรณ์ควบคุมที่สมบูรณ์แบบโดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่เป็นสำคัญ และสุดท้ายกับระบบ MZD CONNECT ระบบเชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสารที่สามารถเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต และเซอร์วิสใช้งานต่างๆ

Advertisements
Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img