คืบหน้าอีซูซุ กระบะไฟฟ้า คาดเปิดตลาดยุโรป

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

รถยนต์แห่งอนาคต ของ อีซูซุ ยังคงอยู่ในแผนการพัฒนาโดยล่าสุดคาดว่าอีซูซุD-Max BEV กระบะไฟฟ้าของค่ายจะใช้แนวเดียวกับไฮลักซ์BEVที่พัฒนารถกระบะไฟฟ้าจากพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว การยืนยันรพัฒนารถกระบะไฟฟ้าIsuzu D-Max EV อยู่ในคำกล่าวของนายชินสุเกะ มินามิ Shinsuke Minami ประธานและซีอีโอของอีซูซุมอเตอร์ที่ได้ร่วมงานเปิดตัว ดีแมคซ์ไมเนอร์เชนจ์ที่กรุงเทพเมื่อ 6 ต.ค.66 ท่ามกลางผู้บริหารและกรรมการ มิตซูบิชิ คอร์ปและตรีเพรชอีซูซุ เซลลส์ และสื่อมวลชนจำนวนมาก

Advertisements

“อีซูซุพยายามสร้างสังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอน ในอนาคต อีซูซุวางแผนที่จะผลิตรถกระบะ BEV (รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่) ในประเทศไทย” ประธานอีซูซุมอเตอร์กล่าว

“อีซูซุจะเปิดตัวในยุโรปก่อน จากนั้นจึงค่อยตรวจสอบการเปิดตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยตอบสนองความต้องการของแต่ละตลาด”

นายมินามิไม่ได้ให้รายละเอียดทางเทคนิค ข้อมูลจำเพาะ หรือกำหนดเวลาสำหรับ Isuzu D-Max EV แต่เข้าใจว่าตัวแปรดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มปัจจุบัน ทำให้ Isuzu (และ Mazda ที่เกี่ยวข้อง) เป็นคู่แข่งกับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึง Ford Ranger ปลั๊กอินไฮบริดที่มีการเปิดตัวในยุโรป

เข้าใจว่า D-Max BEV จะขับเคลื่อนโดยเวอร์ชันของระบบขับเคลื่อนที่พบในรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดเล็ก N Series ของ Isuzu ซึ่งหมายความว่ากำลังขับอยู่ระหว่าง 110kW ถึง 150kW และแรงบิดสูงสุด 370Nm

สื่อญี่ปุ่นอย่างนิคเคอิค เอเซีย รายงานว่า อีซูซูจะนำรถกระบะไฟฟ้าลงตลาดต้นปี2568 หรืออีก2ปีจากนี้อย่างไรก็ตามตลาดน่าจะได้เห็นรถต้นแบบในปีหน้า

Advertisements

รายงานจากสื่อ ทางฝั่งของสหราชอาณาจักรระบุว่า Isuzu D-Max รุ่นใช้พลังงานไฟฟ้ากำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับยุโรป

ตามบทความที่ตีพิมพ์โดยAuto Expressเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่ารถกระบะตัวใหม่ของอีซูซุดังกล่าวจะถูกผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดยุโรป และจะใช้พื้นฐานจาก D-Max รุ่นปัจจุบัน โดยเพิ่มพลังงานไฟฟ้าในลักษณะเดียวกันกับกรณีของToyota- HiLux BEVซึ่งนำเอาตัวถังของรีโว่ ปัจจุบันมาทำการพัฒนา ความคืบหน้านี้ถือเป็นรายงานความเคลื่อนไหวของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นค่ายที่2 ในแง่ของการพัฒนารถกระบะไฟฟ้าก่อนหน้านี้โตโยต้า มอเตอร์ และโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยได้เผยโฉมรถกระบะไฟฟ้าต้นแบบ ไฮลักซ BEV ซึ่งมีแผนผลิตในต้นปี2567ทั้งนี้ตลาดรถกระบะที่ครอบครองตลาดรถกระบะในไทย มีโตโยต้าและอีซูซุเป็นผู้นำ ส่วนลำดับ3 คือ ฟอร์ด มิตซูบิชิและนิสสันซึ่งในตลาดโลกฟอร์ดได้แนะนำกระบะ ไฮบริดลงตลาดยุโรปและมีทิศทางที่จะขยายการจำหน่ายในไทยด้วยในขณะที่มิตซูบิชิ เพิ่งเปิดตัวไทรทันแบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ยังไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวในการพัฒนาไทรทันใหม่เป็นกระบะไฟฟ้า เช่นเดียวกับนิสสันพันธมิตรของมิตซูบิชิ ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในด้านนี้แต่อย่างใด

ปัจจุบัน D-Max และ N Series ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบสี่สูบซีรีส์ 3.0 ลิตร 4JJ3 ผลิตโดย Isuzu ที่ให้ผลิตกำลัง 140kW/450Nm อย่างไรก็ตาม รุ่นไฟฟ้าได้รับการขับเคลื่อนให้ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร ของ D-Max มากขึ้น ด้วยกำลัง 110 กิโลวัตต์/350 นิวตันเมตร

Isuzu ยังไม่ได้ยืนยันข้อกำหนดแบตเตอรี่และระยะการใช้งานสำหรับ D-Max EV แต่มีแนวโน้มว่าจะสามารถเทียบเคียงได้กับรุ่นอื่นๆ ในตลาด โดยให้กำลังประมาณ 90kWh และระยะการขับขี่ประมาณ 350 กม.

อีซูซุผู้ผลิตญี่ปุ่น ประกาศรายละเอียดของรถเกี่ยวกับดีแมคซ์ MY24ซึ่ง ได้รับการออกแบบส่วนหน้าใหม่ด้วยไฟหน้าแบบ Bi-LED ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และกระจังหน้าแบบ ‘โครเมียมสีดำ’ ใหม่ เทคโนโลยีเพิ่มเติม และคุณสมบัติอำนวยความสะดวกใหม่หลายประการ พร้อมด้วยชุดไฟท้าย ‘triple armour’ ที่ปรับปรุงใหม่และล้ออัลลอยด์ที่กว้างขึ้น

Isuzu D-Max รุ่นปรับโฉมเสนอส่วนขยายซุ้มล้อเสริมในรุ่น V-Cross เกรดสูง (ในชื่อ X-Terrain) และส่วนกันชนด้านล่างที่ได้รับการปรับปรุงตามหลักอากาศพลศาสตร์พร้อมช่องระบายอากาศด้านนอกที่ลดการลาก และไฟตัดหมอกแบบมุมหรือไฟเลี้ยว

การเปลี่ยนแปลงภายในนำหน้า Isuzu MU-X ไปด้วยการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เบาะคู่หน้าแบบมีช่องระบายอากาศ พอร์ตชาร์จ USB-C ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และระบบ Android Auto ไร้สายในรุ่นที่เลือก ระบบควบคุมแบบสัมผัสจะเข้ามาแทนที่ปุ่มยากๆ ของระบบสาระบันเทิง

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีบรอนซ์ใหม่พร้อมเบาะหนังสีน้ำตาลและสีดำสไตล์ BT-50 แสดงให้เห็นในรุ่น V-Cross (X-Terrain) เกรดสูง

กลุ่มนี้ยังถูกกำหนดให้เห็นถึงการเปิดตัวจอแสดงผลมัลติฟังก์ชั่นที่ใหญ่ขึ้นภายในแผงหน้าปัด โดยอัปเกรดจาก 4.2-7.0 นิ้ว แม้ว่าจะมีแนวโน้มเฉพาะในรุ่นเกรดที่สูงกว่าเท่านั้น

ในทำนองเดียวกัน ไม่มีข้อบ่งชี้ถึงการปรับปรุงระบบขับเคลื่อนของรถ โดยที่ D-Max ยังใช เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จขนาด 1.9 และ 3.0 ลิตรปัจจุบัน (กำลังส่งกำลัง 110kW/350Nm และ 140kW/450Nm ตามลำดับ) เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ ระบบส่งกำลังและทางเลือกของระบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ ซึ่งรุ่นหลังนี้สามารถใช้งานได้กับ ‘โหมดภูมิประเทศที่ขรุขระ’ ของ MU-X

ยังไม่ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงที่ระบุไว้ข้างต้นจะนำไปใช้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ BT-50 รถที่ใช้แพลทฟอร์มเดียวกัน

Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img