นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทยนำเสนอระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่เทคโนโลยีอัจฉริยะในนิสสัน โน๊ต และอัลเมร่า

- Advertisement -spot_imgspot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img

กรุงเทพฯ (5 กันยายน 2561) – นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย นำเสนอระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ในนิสสัน โน๊ต และอัลเมร่า ภายใต้กิจกรรม “เลทส์ มูฟ” (Let’s Move) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ผ่านการขับขี่ยามค่ำคืนในกรุงเทพมหานคร

Advertisements
กิจกรรม “เลทส์ มูฟ” (Let’s Move)นิสสัน โน๊ต และอัลเมร่า ผ่านการขับขี่ยามค่ำคืนในกรุงเทพมหานคร

ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ ทั้ง ระบบ iOS ผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto จากสมาร์ทโฟน พร้อมการเชื่อมต่อแบบแฮนด์ฟรี แอพพลิเคชันระบบนำสามารถควบคุมการโทรออก รับส่งข้อความ เล่นเพลง วีดีโอ ทำให้มีความปลอดภัย และสะดวกสบายในการขับขี่มากขึ้น

รองรับการเชื่อมต่อ ทั้ง ระบบ iOS ผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto จากสมาร์ทโฟน

นิสสัน โน๊ต และอัลเมร่า ติดตั้งเทคโนโลยี Intelligent Integration ด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ ภายใต้แนวคิดนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ที่ผสานการขับขี่ และการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของผู้ขับอย่างกลมกลืน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Intelligent Driving ที่ให้ความปลอดภัย และสะดวกสบายในการขับขี่ เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน Intelligent  Power ที่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นิสสัน สร้างความสนุกสนานของการขับขี่ในเวลากลางคืน
กับกิจกรรม “Let’s Move” ครั้งที่ 3

“โน๊ต และ อัลเมร่า ที่ได้รับความนิยมสูงเพราะเป็นรถที่ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในห้องโดยสารกว้าวงขวางเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง มีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยครบ เช่น นิสสัน โน๊ต มีเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – i-AVM) เทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีวัตถุ หรือบุคคลเคลื่อนไหวขณะถอยหลังจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) ทำให้การขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น หรือผ่านตรอกซอกซอยแคบ ๆ อย่างเยาวราชสะดวกสบายมากขึ้น” นายปีเตอร์ แกลลี รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว

นิสสัน เลือกกรุงเทพมหานคร เป็นจุดหมายในการทดสอบขับกลุ่มสุดท้ายของกิจกรรมนี้ เพราะกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความท้าทายที่สุดของประเทศไทย “เราเลือกเมืองหลวงที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเป็นจุดหมายสำหรับการขับทดสอบ ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น เกาะรัตนโกสินทร์ หรือถนนที่มีความคึกคักยามค่ำคืนอันโด่งดังในย่านเยาวราช”

กิจกรรมทดสอบขับในช่วงเวลากลางคืนนี้ จะได้แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวของรถยนต์ทั้งสองรุ่น เริ่มตั้งแต่บนทางพิเศษฉลองรัช ผ่านมายังเกาะรัตนโกสินทร์ ไปจนถึงย่านไชน่าทาวน์บนถนนเยาวราช เพื่อทำให้การสำรวจกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนเพลิดเพลินมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงความอัจฉริยะของแนวคิด    นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี ซึ่งจะช่วยให้สามารถจอดรถและควบคุมรถได้อย่างสะดวกและคล่องตัวในที่แคบๆ มากยิ่งขึ้น

Advertisements

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลกับอุปสรรคต่าง ๆ ที่มองไม่เห็นขณะถอยรถด้วยจอแสดงผล เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทางของโน๊ต และกล้องมองหลัง (Rear-View Mirror Monitoring) ของอัลเมร่า เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เห็นมุมมองด้านหลังที่ชัดเจน แม้ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และช่วยให้การกลับรถเป็นไปได้อย่างราบรื่น

นิสสัน โน๊ต ยังมีเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) และระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Forward Collision Warning – FCW) ซึ่งจะตรวจจับเมื่อรถหลุดออกจากเลนในขณะขับขี่ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทุกคนในรถ และท้องถนน ทำให้ผู้ขับขี่ควมคุมรถอย่างมั่นในแม้แต่ในถนนเล็ก หรือในที่จอดรถที่พื้นที่จำกัด

ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต หรือ เทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี แล้ว นิสสัน อัลเมร่า และ โน๊ต เป็นรถที่ได้รับการออกแบบภายในให้มีพื้นที่ใช้สอยด้านในที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ถือได้ว่าโดดเด่นที่ดีที่สุดที่ให้ในเรื่องพื้นที่การใช้สอยภายใน เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน และยังโดดเด่นด้วยนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ให้ผู้ขับขี่อีกด้วย

Advertisements
- Advertisement -spot_imgspot_img

Latest news

Advertising

spot_img

Related news

- Advertisement -spot_img